เลือกหน้า

พูดกอด ดีกว่าพูดเกลียด เพราะทุกคำพูดส่งผลต่อจิตใจคนฟัง

“การพูด” คือการสื่อสารที่เป็นพื้นฐานของมนุษย์ โดยการพูดมีวิวัฒนาการมาตั้งแต่สมัยโบราณที่มนุษย์ใช้การออกเสียงและท่าทางในการสื่อสาร ก่อนจะมาใช้ภาษาพูดหรือตัวอักษร ซึ่งการพูดนั้นสามารถสร้างผลกระทบต่อจิตใจหรือสมองของคนฟังได้ทั้งดีและร้าย ซึ่งจะดีและร้ายขนาดไหน เรามาลองศึกษากันสักนิดดีกว่า

งานวิจัยของ National Institute for Physiological Sciences (NIPS) ในหัวข้อ ‘Processing of Social and Monetary Rewards in the Human Striatum’ พบว่าตอนที่เราได้รับคำชม สมองในส่วนเดียวกันกับตอนที่เราได้รับเงินจะทำงาน นอกจากนี้การชมยังช่วยสร้างประสิทธิภาพให้กับการทำงานของมนุษย์ได้ด้วยเช่นกัน อ้างอิงจากงานวิจัยของ Gallup Organization ที่ได้ทำการสำรวจคนวัยทำงานกว่า 4 ล้านคนทั่วโลก พบว่าพนักงานที่ได้รับคำชมสม่ำเสมอ มีแนวโน้มจะทำงานได้มีประสิทธิภาพและได้รับคะแนนความพึงพอใจจากลูกค้ามากกว่าพนักงานที่ไม่ได้รับคำชมจากเจ้านายหรือคนรอบข้าง นอกจากนี้ยังพบอีกว่าเมื่อเราเรียนรู้ที่จะฝึกสกิลใหม่ ๆ เช่น การเต้น การวิ่ง หรือการเล่นดนตรี การได้รับคำชมจะช่วยให้สมองของเราสามารจดจำ และเรียนรู้เกี่ยวกับสกิลนั้นซ้ำ ๆ อีกด้วย 

ซึ่งจากงานวิจัยต่าง ๆ ข้างต้นทำให้เราพอจะเห็นภาพได้แล้วว่าการพูดชมนั้นส่งผลกระทบในด้านดีต่อสมองหรือการทำงานของมนุษย์อย่างไรได้บ้าง แล้วในทางกลับกันหากเราพูดร้ายใส่กัน คำพูดเจ็บ ๆ เหล่านั้นจะส่งผลกระทบต่อสมองมนุษย์อย่างไรได้บ้าง?

งานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Friedrich Schiller University Jena พบว่าคำพูดที่ฟังแล้วเจ็บปวด จะไปกระตุ้นการทำงานของสมองตรงส่วนที่ทำหน้าที่เก็บรักษาประสบการณ์ที่เคยได้รับความเจ็บปวดของมนุษย์ (Pain Matrix) หมายความว่าคำพูดเจ็บ ๆ อาจจะทำให้ผู้คนรู้สึกเจ็บปวดทางกายได้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้แล้วนักประสาทวิทยาได้กล่าวไว้ว่าการใช้ชีวิตไปกับคำพูดแย่ ๆ คำหยาบคายต่าง ๆ ทำให้การนับถือตนเองต่ำลง และลดคุณค่าในตนเองลงเรื่อย ๆ 

ทั้งหมดนี้พอจะสรุปได้ว่าการพูดชมและการพูดเกลียด ต่างสร้างกำลังใจหรือสร้างบาดแผลให้กับคนฟัง อยู่ที่ว่าตัวของเราเองนั้นต้องการให้เป็นไปในทิศทางใด แต่ในเมื่อเราทุกคนสามารถสร้างกำลังใจดี ๆ  และสังคมที่ดีได้ด้วยเพียงการเอ่ยชม แล้วทำไมเราทุกคนไม่ลองหันมาพูดกอดกันดู ไม่แน่คำดี ๆ ของคุณอาจสร้างแรงผลักดันให้ใครสักคนได้ยิ้มไปทั้งวันก็ได้

 

อ้างอิงข้อมูลจาก :

https://bit.ly/3BJLQJr

https://bit.ly/3mtjDC6

https://nbcnews.to/3ExWYea

https://nbcnews.to/2ZFwqsH

กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดโครงการ “สูงวัยหัวใจยังเวิร์ค” ส่งเสริมและพัฒนาทักษะทางดิจิทัล เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงวัย

กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดโครงการ “สูงวัยหัวใจยังเวิร์ค” ส่งเสริมและพัฒนาทักษะทางดิจิทัล เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงวัย

(21 ธ.ค. 64) กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ สนับสนุนภาคีเครือข่ายโครงการ “สูงวัยหัวใจยังเวิร์ค” เพื่อพัฒนาทักษะและเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ส่งเสริมทักษะการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สร้างสรรค์และผลิตชิ้นงานที่สามารถนำไปใช้เป็นต้นแบบในการเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้สูงอายุให้มีโอกาสในการสร้างอาชีพ และเป็นช่องทางในการสร้างพฤติกรรมเชิงบวกให้กับประชาชนทั่วไปได้เข้าใจสภาพของสังคมผู้สูงวัยในมิติด้านคุณค่าส่วนบุคคลและเชิงเศรษฐกิจของสังคม

ภายในงานจัดเสวนา “ผู้สูงวัยใช้สื่อออนไลน์อย่างไรให้เวิร์ค” โดยมี ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เป็นประธานเปิดงาน พร้อม Influencer สูงวัยจากโลกโซเชียล ได้แก่ คุณณัฐรดา สุขสุธรรมวงศ์, ทพ.สมชัย สุขสุธรรมวงศ์, คุณชุติมา แสนนนท์, คุณกาญจนา สร้อยสิงห์, คุณสุเทพ ประยูรพิทักษ์ ร่วมเป็นวิทยากร เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์ในการพัฒนาทักษะ และเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้ในการสร้างแนวทางการใช้เทคโนโลยีทางดิจิทัล ณ Land Lab อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี

นอกจากนี้ยังพบว่าการใช้งานอินเทอร์เน็ตมีความหลากหลาย ลักษณะประกอบด้วยการใช้สื่อสังคม ออนไลน์ ได้แก่ ไลน์ เฟซบุ๊ก และยูทูบ โดยใช้สนทนาอ่านข่าวติดตามข่าวสารในระดับมาก ดังนั้นมีมุมมองใหม่ แตกต่างจากอดีต ที่มองว่าผู้สูงอายุมีความกังวล ไม่คุ้นเคย ไม่สามารถใช้เทคโนโลยีได้ มาเป็นภาพผู้สูงอายุที่ ยอมรับเทคโนโลยีมีการใช้เทคโนโลยีในกิจกรรมการดำเนินชีวิตประจำวัน แสดงให้เห็นว่าสื่อออนไลน์เป็นส่วนหนึ่งของการดำรงชีวิต

กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ถือว่า กลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้สูงวัย เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่สำคัญ จึงดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุต่อเนื่องทุกปี ล่าสุดภายใต้ชื่อ “สูงวัยหัวใจยังเวิร์ค” มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาทักษะและเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้ในการสร้างแนวทางการใช้เทคโนโลยีทางดิจิทัล, เพื่อให้ตอบสนองต่อทักษะการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น, เพื่อสร้างสรรค์และผลิตชิ้นงานสื่อที่สามารถนำไปใช้เป็นต้นแบบในการเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้สูงอายุให้มีโอกาสในการสร้างอาชีพ, เพื่อเป็นช่องทางในการสร้างพฤติกรรมเชิงบวกให้กับประชาชนทั่วไปได้เข้าใจสภาพของสังคมผู้สูงวัยในมิติด้านคุณค่าส่วนบุคคลและเชิงเศรษฐกิจของสังคม โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายผู้สูงวัยอายุ 50 ปีขึ้นไป โดยมีแนวคิดหลักส่งเสริมผู้สูงวัยหัวใจดิจิทัล อัพสกิลทักษะออนไลน์ เรียนรู้แบบเข้าใจ ทำได้ ใช้เป็น ผ่านกลยุทธ์การสนับสนุน เพราะเชื่อว่าการปรับตัวของผู้สูงวัยมีข้อจำกัดทางร่างกายและความกังวลที่เป็นอุปสรรค์

ทั้งนี้ โครงการยังเปิดรับนักศึกษาตัวแทนเยาวชนที่เชี่ยวชาญเทคโนโลยี เพื่อเป็น “Digital Buddy” ของผู้สูงวัย เป็นหน่วยสนับสนุนร่วมบ่มเพาะจนเกิดต้นแบบที่เป็นองค์ความรู้กลับคืนสู่สังคม นอกจากนี้กิจกรรมใน โครงการมีเปิดอบรมและสร้างต้นแบบผู้สูงวัยที่มีความประสงค์จะใช้ทักษะทางดิจิทัลและสื่อออนไลน์ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิต ในวันที่ 12 – 14 มกราคม โดยจัดอบรมฟรี 4 หลักสูตร ได้แก่
– ดิจิทัล D 101 : YOLD Creator นักผลิตสื่อวัยเก๋า อบรมการผลิตสื่อสร้างสรรค์เพื่อลงบนแพลตฟอร์มออนไลน์, การอบรมการถ่ายภาพ, การตัดต่อด้วยโทรศัพท์มือถือ, การพูดหน้ากล้องอย่างมั่นใจ เป็นต้น
– ดิจิทัล D102 : YOLD Digital Marketer นักขายออนไลน์วัยเก๋าอบรมการตลาดออนไลน์
– ดิจิทัล D 103 : YOLD Online Tutor ครูออนไลน์วัยเก๋าการเปลี่ยนความรู้และทักษะให้เป็นรายการด้วยการสอนออนไลน์
– ดิจิทัล D104 : YOLD Digital Literacy รู้ทันสื่อดิจิทัล, ต่อต้านข่าวลวง ข่าวปลอม

ผู้สูงวัยที่สนใจ สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ https://forms.gle/iMA6c262MZa2r5Hn6 
นักศึกษาตัวแทนเยาวชนที่สนใจร่วมเป็น “Digital Buddy” ของผู้สูงวัย สามารถลงทะเบียนเข้าร่วม กิจกรรมได้ที่ https://forms.gle/FdFiEPGHKdKzCU5BA 

เวทีสรุปและสังเคราะห์บทเรียนและองค์ความรู้จากการสนับสนุนในประเด็นการรับมือกับข่าวปลอม (Fake News)

เวทีสรุปและสังเคราะห์บทเรียนและองค์ความรู้จากการสนับสนุนในประเด็นการรับมือกับข่าวปลอม (Fake News)

(17 ธ.ค. 64) ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวเปิดประชุม “เวทีสรุปและสังเคราะห์บทเรียนและองค์ความรู้จากการสนับสนุนในประเด็นการรับมือกับข่าวปลอม (Fake News)”

มีวัตถุประสงค์เพื่อสรุปและสังเคราะห์บทเรียนและองค์ความรู้จากการสนับสนุนทุนของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ในโครงการประเด็นการรับมือกับข่าวปลอม (Fake News) และจัดทำข้อเสนอหรือแนวทางในการขับเคลื่อนการรับมือขจัดข่าวปลอมในสังคมไทย ตลอดจนเพื่อหนุนเสริมและพัฒนาศักยภาพของผู้รับทุน ณ มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์

กองทุนสื่อแถลงข่าว Less is more#4 เปิดโอกาสให้เยาวชนผู้พิการได้พัฒนาเป็นเยาวชนต้นแบบ YouTuber ของเมืองไทย

โครงการอบรมและประกวดการผลิตสื่อ Online สำหรับเยาวชนผู้พิการ 5 ภาคทั่วประเทศ หรือ Less is more #4 ที่ได้จัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เป็นครั้งที่ 4 แล้ว ภายใต้การสนับสนุน จาก กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญ ของการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ สำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ จึงมุ่งเน้นที่จะสนับสนุนส่งเสริมให้ผู้พิการมีโอกาสเข้าถึงการผลิตสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564 ได้จัดแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ Less is more #4 นำโดย ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ , นายบัณฑิต ทองดี ผู้กำกับภาพยนตร์ และ นางสาวณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ นักพูดสร้างแรงบันดาลใจเจ้าของเพจสาวน้อยคิดบวก โดยครั้งนี้จะจัดการอบรมในวันที่ 9 มกราคม 2565 โดยเปิดรับสมัครเยาวชนผู้พิการ จากทั่วประเทศ เข้าร่วมอบรมกับ YouTuber ชื่อดังของประเทศไทย ที่จะมาถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ และเทคนิคต่าง ๆ เพื่อให้สามารถนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาตนเอง ในการผลิตสื่ออย่างสร้างสรรค์ และเติบโตเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพในอนาคต รวมถึงยังเป็นการเปิดโอกาสต่อยอดในการสร้างรายได้จากการผลิตสื่อออนไลน์ได้อีกด้วย

โดยผู้ชนะเลิศอันดับ 1 จะได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท รองอันดับ 2 จะได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท อันดับ 3 จะได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท และรางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล ๆ ละ 5,000 บาท ผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ หรือ Facebook Fanpage ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และเว็บไซต์กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ www.thaimediafund.or.th    หรือโทรศัพท์ 085-5533822

“อนุกรรมการนวัตกรรมสื่อ” กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ แถลงผลการดำเนินงานปี 2564 และแผนปี 2565

“อนุกรรมการนวัตกรรมสื่อ” กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ แถลงผลการดำเนินงานปี 2564 และแผนปี 2565

(14 ธ.ค. 64) คณะอนุกรรมการนวัตกรรมสื่อ  กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ แถลงข่าวการดำเนินงานโครงการตลอดปี 2564 และทิศทางการดำเนินงาน ปี 2565 พร้อมกิจกรรมการเสวนาในหัวข้อ “สื่อสร้างสรรค์: Media Transforming in Digital Disruption” ณ โรงแรมเดอะควอเตอร์ อารีย์ บาย ยูเอสจี

ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์และความตั้งใจของกองทุนฯ ในการรณรงค์ส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ การพัฒนาศักยภาพของผู้ผลิต การส่งเสริมให้เด็กเยาวชนและครอบครัวมีทักษะในการรู้เท่าทันสื่อและเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์ การส่งเสริมการศึกษาวิจัย และการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน สนับสนุนให้ภาคีเครือข่ายได้พัฒนาสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ และสุดท้ายมุ่งหมายว่าสังคมไทยจะมีสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ให้ประชาชนได้เข้าถึงและใช้ประโยชน์และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้  ทั้งนี้ พรบ.กองทุนฯ ตามมาตรา 21 มีอนุกรรมการอยู่ 3 คณะ ได้แก่

1.อนุกรรมการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน

2.อนุกรรมการเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์

3.อนุกรรมการนวัตกรรมสื่อ  ซึ่งเป็นผู้จัดงานในครั้งนี้

โดย ดร.ธนกร ได้กล่าว ชื่นชมคณะทำงานอนุกรรมการนวัตกรรมสื่อ ถึงแม้จะมีข้อจำกัดในสถานการณ์โควิด ๑๙ แต่ก็สามารถทำงานลุล่วงไปได้ด้วยดี และได้กล่าวถึงประเด็น Soft Power ประเทศไทยมีต้นทุนทางวัฒนธรรมมากมาย ถ้าวัฒนธรรมที่มีอยู่เหล่านั้นไม่ถูกนำมาผ่านกระบวนการปรุงหรือสร้างสรรค์ด้วยนวัตกรรม ก็จะเป็น Soft Power ไม่ได้ ฉะนั้นเรื่องของนวัตกรรมสื่อจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ดร.ธนกร กล่าว

ด้าน ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต ประธานคณะอนุกรรมการนวัตกรรมสื่อ กล่าวว่า “เมื่อโลกเปลี่ยนทุกคนสามารถเป็นสื่อได้ คณะอนุกรรมการนวัตกรรมสื่อ มีเจตนารมณ์และวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างนวัตกรรมสื่อ เหตุเพราะทุกคนสามารถเป็นสื่อได้ จากเครื่องมือที่มี โดยเฉพาะ เทคโนโลยีหรือสื่อออนไลน์ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องพัฒนาสื่อให้มีคุณภาพสร้างสรรค์ เพราะจะส่งผลต่อการพัฒนาความคิด ทักษะทางสังคม เพื่อทุกคนจะมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สังคมให้ดีขึ้น” ที่ผ่านมาคณะกรรมการนวัตกรรมสื่อ ได้มีการดำเนินการโครงการสำคัญไปหลายโครงการ ดังนี้

1.จัดทำนิยามนวัตกรรมสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์นั้นคือ ว่าการทำสื่อที่สร้างสรรค์และปลอดภัยเป็นอย่างไร

ทั้งนี้ นิยามนวัตกรรมสื่อ คือ สื่อที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ หรือต่อยอดต่อสิ่งเดิม ซึ่งมีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชน และกลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงได้ง่าย ขณะที่ นิยามของนวัตกรรมสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์  คือ นวัตกรรมสื่อที่มีเนื้อหามุ่งเน้นให้เกิดผลดีต่อสังคม ทั้งด้านศีลธรรม จริยธรรม วัฒนธรรม และความมั่นคง ความคิดสร้างสร้างสรรค์ การเรียนรู้ทักษะชีวิต การรู้เท่าทันสื่อ การใช้ประโยชน์จากสื่อในการพัฒนาตนเอง ชุมชน และสังคม โดยกลุ่มเป้าหมายของการดำเนินงาน คือ สื่อ ผู้ผลิตสื่อ และนักเรียน นิสิต นักศึกษา ตลอดจนกลุ่มผู้ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ หน่วยงานรัฐเอกชน และภาคีเครือข่ายตลอดจนประชาชนทั่วไป

2.การมอบทุน

เป็นการพิจารณามอบทุนให้กับผู้ที่ต้องการสร้างนวัตกรรมสื่อ หรือต่อยอดจากโครงการเดิมไม่ว่าจะ Open Grant หรือ Strategic Grant หรือมอบทุนในลักษณะความร่วมมือหรือ Collaborative Grant

3.การวิจัยถอดองค์ความรู้นวัตกรรมสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

โครงการนี้ ได้ส่งผลให้เกิดแนวทางการพัฒนานวัตกรรมสื่อสำหรับผู้ผลิตสื่อ เกิดองค์ความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมและแนวทางการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนา รวมถึงข้อเสนอเชิงกลยุทธ์ต่อกองทุนในการส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมสื่อ

4.การมอบรางวัลนวัตกรรมสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ (Safe & Creative Media Innovation Awards)

คณะอนุกรรมการนวัตกรรมสื่อฯ ได้ร่วมกับ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์กรมหาชน) มอบรางวัลนวัตกรรมสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ 2 ประเภท ดังนี้

1.ประเภทเยาวชน

Innovation: การพัฒนาบอร์ดเกมเพื่อเพิ่มทักษะการรู้เท่าทันสื่อ ได้

Innovator (นวัตกร): นางสาวภณิดา แก้วกูร Website: https://www.newmeeple.com/ FB: https://www.facebook.com/NewMeeple/ เกม “The Rumor Villages” สร้างขึ้นเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ และทักษะการรู้เท่าทันสื่อแก่ เยาวชน โดยเนื้อหาในบอร์ดเกม เกิดจากแนวคิดการตรวจสอบข้อเท็จจริง (Fact check) จากคู่มือภาคปฏิบัตินักตรวจสอบข้อเท็จจริง

2.ประเภทบุคคลทั่วไป

Innovation: การพัฒนาการตรวจจับข่าวปลอมโดยการเรียนรู้ของเครื่องและการตรวจสอบข้อเท็จจริงของประชาชน

Innovator (นวัตกร): คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดย รศ.ดร.พนม คลี่ฉายา Website: https://www.thaidimachine.org/ โครงการพัฒนาต้นแบบเว็บแอปพลิเคชันสำหรับการตรวจจับข่าวปลอมและตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ใช้เป็น กลไกการป้องกัน และแก้ปัญหาข่าวปลอมสำหรับประชาชน

5.การพัฒนาตัวชี้วัดนวัตกรรมสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

โดยมีคณะอนุกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ หรือคณะอนุกรรมการนวัตกรรมสื่อ ดำเนินการโดยมีเป้าหมายการพัฒนาสื่อผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย ได้แก่ การสร้างนวัตกร (Innovator) สื่อในทุกระดับ, การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์, การต่อยอดผลงาน, การสร้างเครือข่าย, การเปิดเวทีระดมความคิดเห็น, การเผยแพร่นวัตกรรมสื่อ และการสร้างเครื่องมือและองค์ความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมสื่อ

 

นอกจากนี้ ประธานคณะอนุกรรมการนวัตกรรมสื่อฯ ยังได้เผยถึงผลการดำเนินโครงการปี 2564 ดังนี้

1.โครงการ “เก๋าชนะ”: ทุนประเภทความร่วมมือ (Collaborative Grant)

รูปแบบรายการ “เก๋าชนะเป็นการ ตอบคำถามออนไลน์ และออฟไลน์ ผ่านแอปพลิเคชั่น Zoom โดยแข่งขันทางระบบออนไลน์ ผ่าน zoom ความยาวไม่เกิน 10 นาที จำนวน 16 ตอน มีผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 16 ทีม โดยผู้ชนะเลิศ ได้รับเงินและถ้วยรางวัล

2.iTOP แพลตฟอร์มสำหรับการค้นหา Micro Influencer (ระยะเวลาดำเนินการ 2564-2565)

เป็นการอบรมเพื่อการสร้างรายได้ผ่านเทคโนโลยี ซึ่งทำให้เห็นว่า iTOP เป็นมากกว่าแพลตฟอร์มที่ค้นหา Micro Influencer แต่สามารถค้นหา นักเล่าเรื่องระดับประเทศได้ด้วย

3.โครงการ Landlab (ระยะเวลาดำเนินการ 2564-2565)

LANDLAB (แลนด์แลป) เป็นพื้นที่เรียนรู้ด้านเกษตรและวิถีชุมชน เพื่อครอบครัวยุคใหม่ เพื่อพัฒนาพื้นที่เกษตรดั้งเดิม สู่การสร้างเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวและการเรียนรู้ใกล้เมือง จากชุมชนสู่ครอบครัวรุ่นใหม่ ทั้งไทยและต่างประเทศ

4.โครงการปฏิบัติธรรมออนไลน์ ทุกวันพระ (ระยะเวลาดำเนินการ 2564-2565)

สามารถเข้าไปเลือกกิจกรรมที่สนใจ ได้แก่ ทำวัตรเช้า/สวดมนต์ ฟังเทศน์ กิจกรรมฝึกนั่งสมาธิเบื้องต้น ทำวัตรเย็น/สวดมนต์ ผ่านระบบออนไลน์

5.insKru (ระยะเวลาดำเนินการ 2564-2565)

เมื่อคลิกเข้าไปที่ www.inskru.com จะพบกับคลังไอเดียการสอนสดใหม่จากครูทั่วประเทศ โดย insKru มีที่มาจาก inspire + Kru เริ่มจากภาพห้องเรียนที่เราวาดฝันอยากให้เป็น คือ ห้องเรียนที่เด็กๆ เรียนรู้กันอย่างมีความสุข และมีประสิทธิภาพ ทีม insKru มีความเชื่อว่าครูที่มีไอเดียดี กระจายอยู่ทั่วประเทศ ทางทีมจึงสร้าง online learning community เพื่อให้ครูกว่า 5 แสนคนทั่วประเทศ ได้มาแลกเปลี่ยนไอเดียการสอนดีๆ เพื่อเปิดมุมองในการสอนและขยายไอเดียการสอนดีๆ สู่ห้องเรียนทั้งประเทศ

 

“คณะอนุกรรมการนวัตกรรมสื่อ เรายังคงมุ่งมั่น ในการดำเนินงานโครงการ ตามยุทธศาสตร์และการทำงานเชิงรุก ตลอดจนการทำงานประสานกับภาคีเครือข่ายที่มีเป้าประสงค์เดียวกัน ทั้งนี้ เพื่อเด็กและเยาวชน ตลอดจนพี่น้องประชาชนจะรู้เท่าทัน และเสพสื่ออย่างปลอดภัย” ผศ.ดร.วรัชญ์ กล่าว

นอกจากนี้ ภายในงานยังได้จัดให้มีการเสวนาในหัวข้อ “สื่อสร้างสรรค์: Media Transforming in Digital Disruption” โดยผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต ประธานคณะอนุกรรมการนวัตกรรมสื่อ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์, จอห์น รัตนเวโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สแพลช อินเทอร์แอ็คทีฟ จำกัด และซี-ฉัตรปวีณ์ ตรีชัชวาลวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซ
เชียลแล็บ จำกัด  ผู้ที่ได้รับทุนโครงการ iTOP แพลตฟอร์มค้นหา Micro Influencer จากทางกองทุนฯ

 

สำหรับประชาชนที่สนใจ และต้องการมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์นวัตกรรมสื่อ สามาถเข้าร่วมงาน นวัตกรรมสื่อสร้างสรรค์ “Media Innovations Showcase & Forum 2022 ซึ่งจะจัดขึ้นทั้งในกรุงเทพมหานครและภูมิภาคต่างๆ ในวันที่ 23 ธันวาคม 2564 ที่จังหวัดนครราชสีมา วันที่ 14 มกราคม 2565 ที่จังหวัดเชียงใหม่ และวันที่ 28 มกราคม 2565 ที่กรุงเทพฯ พบกับการนำเสนอผลงานนวัตกรรมสื่อ ผลการวิจัย การเสวนา และรายละเอียดการเปิดรับทุนปี 2565 นี้ รวมถึง Workshop เปิดรับฟังความคิดเห็นแนวทางการส่งเสริมนวัตกรรมสื่อสร้างสรรค์