เลือกหน้า

กองทุนสื่อ จัดงานแถลงข่าวมหกรรมพุทธธรรมนำสื่อสร้างสันติสุข ปีที่ 2  “สื่อ ธรรม ดี”และงานตักบาตรเทโวโรหณะ เนื่องในเทศกาลวันออกพรรษา ประจําปี 2566

วันที่ 30 ตุลาคม 2566 เวลา 07.00 น. ดร.ยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในงานแถลงข่าวเปิดตัวงานมหกรรมพุทธธรรมนำสื่อสร้างสันติสุข ปีที่ 2 “สื่อ ธรรม ดี” และงานตักบาตรเทโวโรหณะ เนื่องในเทศกาลวันออกพรรษา ประจําปี 2566  ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)

ซึ่งในวันนี้ตรงกับวันสําคัญทางพระพุทธศาสนา คือประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ เนื่องในเทศกาลวันออกพรรษา ประจําปี 2566 อันมีความหมายถึง การทําบุญตักบาตรในวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากเทวโลก หลังจากที่พระองค์แสดงพระอภิธรรมโปรดพระมารดา และจําพรรษาที่นั่นเป็นเวลา 3 เดือน โดยการจัดงานในครั้งนี้เป็นการบูรณาการการจัดงานร่วมกันระหว่างกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กับวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ในการนี้ได้รับความเมตตาจากเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหารเป็นประธานฝ่ายสงฆ์

ดร.ยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ประธานอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เผยว่า กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์จัดงานในครั้งนี้เพื่อให้สอดรับกับนโยบายภาครัฐที่ให้ความสําคัญของการส่งเสริมสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมถึงสถาบันครอบครัว โดยมีเป้าหมายขับเคลื่อนนโยบายครั้งนี้ มุ่งสู่เด็ก และเยาวชน คือต้นกล้า พ่อแม่คือเบ้าหลอมที่ต้องปลูกฝังค่านิยมให้แก่เด็กและเยาวชน โดยสถาบันครอบครัว สถานศึกษา และศาสนาเป็นพื้นที่ในการหล่อหลอมให้เป็นคนดี มีคุณธรรมรักษาดํารงไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันดีงามของไทย สร้างเยาวชนให้มีภูมิคุ้มกัน สามารถใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ รู้เท่าทัน Social Media ในยุคปัจจุบัน ซึ่งกลุ่มเด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่จะเป็นพลังสําคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต

โดยการจัดงานดังกล่าวมีการจัดกิจกรรม 2 รูปแบบ อันได้แก่ กิจกรรมที่ 1 การจัดกิจกรรมในรูปแบบ On Ground Event ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 14 ธันวาคม 2566 ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ภายในงานจัดให้มีกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ นิทรรศการมหกรรมพุทธธรรมนำสื่อสร้างสันติสุข ปีที่ 2 “สื่อ ธรรม ดี” กิจกรรม “ไหว้พระเสริมดวง อิ่มบุญ อุ่นใจ” การเสวนา “เทศน์ ทอล์ก” ในหัวข้อ สุขด้วยธรรม และหัวข้อ “สื่อ ธรรม ดี” จากวิทยากรและศิลปินรับเชิญผู้มีความรู้ความเข้าใจและผู้ศึกษาด้านพระพุทธศาสนา อีกทั้งในปีนี้ยังได้เปิดพื้นที่ให้เด็กและเยาวชน ได้มีโอกาสแสดงความรู้ ความสามารถเชิงสร้างสรรค์ทางพุทธศาสนา โดยจัดทําโครงการประกวดคลิปสั้นในหัวข้อ “หนูได้ธรรม” นอกจากนี้ยังมีการถ่ายทอดเผยแพร่ผ่านระบบ live stream
บน platform Facebook ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

กิจกรรมที่ 2 การจัดกิจกรรม Online Event ในรูปแบบ Virtual Exhibition ซึ่งมีหัวใจหลักสําคัญเปรียบเสมือน Big Data ของสื่อทางพระพุทธศาสนาเพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนภายในประเทศและต่างประเทศ เข้าถึงได้โดยง่ายและกว้างขวาง ภายใต้แนวความคิด “อยู่ที่ไหนก็เข้าถึงได้ เพียงปลายนิ้วสัมผัส” ผ่านช่องทาง www.มหกรรมพุทธธรรมนําสื่อสร้างสันติสุข.com

หมอประเวศแนะกองทุนสื่อ จับมือสภาการสื่อมวลชนเห่งชาติ ร่วมพัฒนาโครงการยุทธศาสตร์สื่อสร้างสรรค์ประเทศไทย 6 ยุทธศาสตร์ผลักดันสื่อสร้างสรรค์ขับเคลื่อนสังคมไทยอย่างเป็นระบบปรับกระบวนการเรียนรู้ จาก Technic-oriented เป็น System-oriented

หมอประเวศแนะกองทุนสื่อ จับมือสภาการสื่อมวลชนเห่งชาติ ร่วมพัฒนาโครงการยุทธศาสตร์สื่อสร้างสรรค์ประเทศไทย 6 ยุทธศาสตร์ ผลักดันสื่อสร้างสรรค์ขับเคลื่อนสังคมไทยอย่างเป็นระบบ ปรับกระบวนการเรียนรู้ จาก Technic-oriented เป็น System-oriented

     ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้รับเอกสารข้อเสนอเเนะเชิงนโยบายจากศาสตราจารย์ นายแพทย์ประเวศ วะสี เสนอให้สภาการสื่อมวลชนเเห่งชาติ จับมือกับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ร่วมกันพัฒนาโครงการยุทธศาสตร์สื่อสร้างสรรค์ประเทศไทย 6 ยุทธศาสตร์ ผลักดันสื่อสร้างสรรค์ขับเคลื่อนสังคมไทยอย่างเป็นระบบ ปรับกระบวนการเรียนรู้ จาก Technic-oriented เป็น System-oriented โดยมีรายละเอียดดังนี้

โครงการยุทธศาสตร์สื่อสร้างสรรค์ประเทศไทย โดย สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ

1. แนวคิดและคุณค่า ร่างกายมนุษย์ซึ่งเป็นระบบที่ดีที่สุดในจักรวาล ประกอบด้วยเซลล์และอวัยวะมากมาย หลากหลายสุดประมาณ แต่ทั้งหมดบูรณาการกันอย่างสมบูรณ์เป็นองค์รวมหนึ่งเดียว คือ ความเป็นคนซึ่งมีคุณสมบัติอันมหัศจรรย์ ที่เป็นดังนั้นได้เพราะร่างกายมีระบบข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร (Information and communication) ที่ทำให้รู้ถึงกันหมดทั่วตัว การรู้ถึงกันทันทีทำให้ประสานหรือบูรณาการกันได้ทั้งหมด ทำให้มีความบรรสานสอดคล้อง (Harmony) และสมดุล ก่อให้เกิดความเป็นปรกติสุขหรือสุขภาพดีและอายุยืน สังคมก็เช่นเดียวกันที่ต้องการระบบข้อมูลข่าวสารและการสื่อสารให้ทั้งหมดบูรณาการกัน เป็นองค์รวมที่มีบูรณภาพและดุลยภาพเพื่อความเป็นปรกติสุขและความยั่งยืน ในความเป็นจริงยังไม่เป็นอย่างนั้น ระบบข้อมูลข่าวสารและการสื่อสารยังไม่ทั่วถึงและดีพอที่จะสร้างสังคมสันติสุข แต่มีวิกฤตด้านต่าง ๆ มากมาย เป็นวิกฤตชาติที่ยังไม่มีทางแก้ไข สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ มีพันธกิจในการส่งเสริมการสื่อมวลชนให้สามารถสร้างสรรค์ประเทศไทยให้เป็นสังคมสันติสุข จึงขอเสนอโครงการยุทธศาสตร์สื่อสร้างสรรค์ประเทศไทย   2. ยุทธศาสตร์สื่อสร้างสรรค์ประเทศไทย ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ คือ ในเบื้องต้นจะขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 6 เรื่อง ดังนี้
  • ยุทธศาสตร์สื่อสร้างสรรค์ถักทอพลังบวกบนแผ่นดินไทย
  • ยุทธศาสตร์สื่อสร้างสรรค์ขจัดความยากจนลดความเหลื่อมล้ำ
  • ยุทธศาสตร์สื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อยกระดับสมรรถนะของชาติ
  • ยุทธศาสตร์สื่อสร้างสรรค์กระบวนการนโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วม หรือ P4 (Participatory Public Policy Process)
  • ยุทธศาสตร์สื่อสร้างสรรค์สุขภาพจิตสังคม
  • ยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยกับการผลิตภาพยนตร์สร้างสรรค์ประเทศไทย
ยุทธศาสตร์สื่อสร้างสรรค์อาจเพิ่มขึ้นภายหลังดำเนินการในเบื้องต้นไปแล้ว อธิบายความสำคัญของแต่ละยุทธศาสตร์ดังต่อไปนี้ (1) ยุทธศาสตร์ถักทอพลังบวกบนแผ่นดินไทย คนไทยทำอะไรดี ๆ กันมาก แต่ไม่ค่อยมีการสื่อเพราะข่าวด้านลบได้รับความสนใจมากกว่า ยุทธศาสตร์นี้จะตั้งศูนย์รับการสื่อสารเรื่องดี ๆ ที่มีผู้ทำกันทั่วประเทศ ส่งคนไปศึกษา และนำมาสื่อให้รู้กันอย่างกว้างขวาง เพื่อเพิ่มพูนกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติ ก่อความบันดาลใจให้มีผู้ปฏิบัติเรื่องดี ๆ เพิ่มขึ้น พลังบวกบนแผ่นดินไทยจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนเต็มประเทศ ก่อให้เกิดความสุข ปัญญา และพลังแผ่นดินที่จะก้าวสู่อนาคตที่ดี (2) ยุทธศาสตร์ขจัดความยากจนลดความเหลื่อมล้ำ ปัญหาใหญ่ที่สุดของประเทศ คือ ความยากจนและความเหลื่อมล้ำอย่างสุด ๆ มากเป็นที่ ๑ หรือ ๓ ของโลก ความเหลื่อมล้ำ คือ การเสียสมดุล ซึ่งนำไปสู่ปัญหานานาประการเป็นห่วงลูกโซ่ อาจเรียกว่าวิกฤตความเหลื่อมล้ำก็ได้ การพัฒนาเศรษฐกิจมหภาคอย่างเดียวขจัดความเหลื่อมล้ำไม่ได้ เพราะธรรมชาติของเศรษฐกิจมหภาค คือ รวยกระจุกจนกระจาย ดูตัวอย่างที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาก็ได้ แต่ดูผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจทั้งหลายยังไม่ตระหนักความจริงในข้อนี้ การสร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่ คือ จุดคานงัด เมื่อทุกคนมีงานทำ มีรายได้ มีเงินออม ก็จะอยู่ดีมีสุข หายจน มีศักดิ์ศรี มีคุณภาพชีวิตที่ดี แก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง ประชาชนทั้งประเทศจะมีอำนาจซื้อมาก ทำให้เศรษฐกิจมหภาคเติบโตและมั่นคง เพราะอยู่บนฐานความเข้มแข็งของเราเอง ไม่ใช่พึ่งพิงแต่ตลาดโลกซึ่งผันผวนและวิกฤตได้ง่าย โครงการนี้จะรวบรวมวิธีแก้จนทั้งหมดจากพื้นที่ เช่น ๑๗ วิธีแก้จน [*] แต่น่าจะมีมากกว่านั้นเอามาสื่อเผยแพร่ให้รู้ทั่วกันอันจะนำไปสู่การปฏิบัติทั่วประเทศ ขจัดความยากจนลดความเหลื่อมล้ำได้จริง ๆ (3) ยุทธศาสตร์นวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อยกระดับสมรรถนะของชาติ สมรรถนะของชาติต่ำเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ขวางกั้นการพัฒนาประเทศไทย ที่ต่ำเพราะระบบการศึกษาที่เน้นการท่องวิชาแต่ทำอะไรไม่เป็น การปฏิรูปการศึกษาก็ไม่เคยสำเร็จ ปฏิรูปการเรียนรู้ หรือนวัตกรรมการเรียนรู้ ที่ทำให้คนไทยทำเป็น คิดเป็น ตัดสินใจเป็น จัดการเป็น อยู่ร่วมกันเป็น คือ ยุทธศาสตร์การยกระดับสมรรถนะของชาติ โครงการนี้จะสร้างแพลตฟอร์มกลาง เพื่อนวัตกรรมการเรียนรู้ ให้คนทั้งประเทศที่รู้เห็นหรือมีประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดี สื่อเข้ามา จะเป็นตัวอย่างในประเทศหรือจากทั่วโลกก็ได้ จะเกิดคลังความรู้เรื่องนวัตกรรมการเรียนรู้ที่สามารถสื่อออกไปทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดการปฏิบัติเพื่อยกระดับสมรรถนะของชาติ (4) ยุทธศาสตร์ “กระบวนการนโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วม” หรือ P4(Participate Public Policy Process) นโยบายสาธารณะควรเป็นปัญญาสูงสุดของชาติ เพราะมีผลต่อวัฒนะหรือหายนะของชาติ ประเทศไทยมีความสำเร็จทางนโยบายน้อยมากเป็นเหตุให้ชาติวิกฤต ทั้งนี้เพราะขาดความเข้าใจเชิงระบบของนโยบาย ได้แต่ทำแบบแยกส่วนและบางส่วนไม่เป็นระบบครบวงจร ถ้าทำอย่างเป็นระบบครบวงจรก็จะสำเร็จทุกเรื่อง เรียกว่า “สัมฤทธิศาสตร์” เมื่อมีความสำเร็จทางนโยบายชาติก็พ้นวิกฤต และลงตัวทุกด้าน รวมทั้งทางการเมืองด้วย เพราะฉะนั้นนโยบายจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่งยวด P4 เป็นกระบวนการนโยบายสาธารณะที่ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม จึงเป็นประชาธิปไตยอย่างยิ่ง และเป็นประชาธิปไตยอัตถประโยชน์ คือ ก่อให้เกิดความสำเร็จทางนโยบาย ฉะนั้น จึงควรมียุทธศาสตร์สื่อสร้างสรรค์ P4 เพื่อขับเคลื่อนกระบวนการนโยบายสาธารณะ แบบมีส่วนร่วมไปสู่ความสำเร็จ ให้ชาติพ้นวิกฤตและเกิดความเจริญอย่างแท้จริงทุกด้าน รวมทั้งยกระดับคุณภาพการเมือง เพราะการเมืองเป็นส่วนหนึ่งของระบบนโยบาย (5) ยุทธศาสตร์สื่อสร้างสรรค์สุขภาพจิตสังคม สังคมมีความเครียดและพฤติกรรมเบี่ยงเบนต่าง ๆ รวมทั้งการทำร้ายตัวเอง ครอบครัว และคนอื่น เช่น การกราดยิงโดยไม่มีเหตุผลเพิ่มขึ้น ดังที่เกิดในสหรัฐอเมริกา สังคมปัจจุบันเผชิญความกดดันหลายด้านมากมาย รวมทั้งความเหลื่อมล้ำหรือขาดความเป็นธรรม การรับรู้จากสื่อที่ไม่สร้างสรรค์ซึ่งเป็นดังมลภาวะทางสังคม นักจิตวิทยา นักพฤติกรรมศาสตร์ และนักจิตเวชศาสตร์ คือใช้สื่อสร้างสรรค์สุขภาพจิตสังคม โดยใช้ข้อมูลและการคิดด้วยเหตุผล ลดความขัดแย้งในจิตใจ สร้างสุขภาวะทางจิตทางปัญญาให้สังคมในวงกว้าง (6) ยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยผลิตภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยทั้งของรัฐและเอกชนรวมกันมีประมาณ ๑๔๐ แห่ง มีนักวิชาการและความรู้ในสาขาต่าง ๆ เป็นอันมาก แต่ไม่รู้ว่าจะสื่อให้เป็นประโยชน์ในวงกว้าง ในขณะที่สังคมต้องการความรู้เพื่อการใช้งานไม่ใช่ความรู้ที่ลอยตัว การผลิตภาพยนตร์ดี ๆ เป็นช่องทางใหญ่ที่มหาวิทยาลัยจะคัดสรรกลั่นกรองความรู้ที่เป็นประโยชน์สอดแทรกอยู่ในภาพยนตร์ที่ให้ความบันเทิง ผู้คนทุกชาติทุกภาษาล้วนชอบดูหนัง ถ้าทุกตำบลมีศูนย์ศิลปะตำบลสำหรับจัดแสดงสุนทรียกรรมต่าง ๆ รวมทั้งฉายภาพยนตร์ ถ้ามีภาพยนตร์ดี ๆ ไปฉายให้ดูกันทุกตำบล จะเป็นเครื่องพัฒนาจิตใจและปัญญาของประชาชนอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว ทุกมหาวิทยาลัยควรมีสมรรถนะในการผลิตภาพยนตร์ดี ๆ จะทำให้มหาวิทยาลัยต้องสนใจสังคม เข้าใจความต้องการของสังคมและต้องดัดแปลงหรือสร้างความรู้เพื่อการใช้งานของสังคม รวมทั้งคิดถึงศิลปะการถ่ายทอดความรู้ผ่านภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยต่าง ๆ จะต้องแข่งขันกันสร้างภาพยนตร์ที่เป็นที่นิยมของสังคม ทำให้ยกระดับสมรรถนะของมหาวิทยาลัยโดยรอบด้าน เรื่องนี้จะเสมือนเพิ่มบริษัทผลิตภาพยนตร์ขึ้น ๑๐๐ กว่าโรง อาจร่วมกันผลิตภาพยนตร์ใหญ่ที่คนอยากดูทั่วประเทศและทั่วโลก ซึ่งจะเป็นพลังบวกที่ใหญ่มาก   3. วิธีดำเนินการ สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ ผู้เสนอโครงการยุทธศาสตร์สื่อสร้างสรรค์ประเทศไทย จะจัดตั้งสำนักงานโครงการ เป็นกลไกในการดำเนินการ และดำเนินการ ดังต่อไปนี้
  • จัดประชุมระดมความคิดในแต่ละยุทธศาสตร์ โดยเชิญผู้มีความรู้ความชำนาญในเรื่องนั้นมาประชุมระดมความคิดซ้ำ ๆ หลายครั้ง จนถึงขั้นชัดเจนที่จะปฏิบัติได้ ในกระบวนการนี้จะปรากฏคนที่มีฉันทะวิริยะและทักษะในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ก็จะเป็นกลุ่มขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ แต่ละยุทธศาสตร์ทั้ง ๖ ยุทธศาสตร์
  • จัดตั้งกลุ่มยุทธศาสตร์สื่อสร้างสรรค์ประเทศไทย ๖ กลุ่ม แต่ละกลุ่มมีประธานที่มีปัญญาบารมี
  • บุคคลและองค์กรที่เกี่ยวข้องแต่ละยุทธศาสตร์ร่วมทำแผนปฏิบัติ
  • ผู้ร่วมทำแผนปฏิบัติลงมือปฏิบัติตามแผน
  • จัดทีมติดตามการปฏิบัติเพื่อแก้ไขอุปสรรคขัดข้องให้ปฏิบัติได้
  • ประเมินผลการปฏิบัติตามแผนว่าได้ผลตามเป้าหมายมากน้อยเพียงใด เพราะเหตุใด ผลการประเมินเป็นข้อมูลป้อนกลับทำให้กระบวนการทั้งหมดดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อมีการบริหารจัดการยุทธศาสตร์ครบวงจรก็จะเกิดผลสัมฤทธิ์ของยุทธศาสตร์มากขึ้นเรื่อย ๆ   4. ผลจากยุทธศาสตร์สื่อสร้างสรรค์ประเทศไทยทั้ง ๖ ด้าน
  • ผลสร้างสรรค์ประเทศไทย ๖ เรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ ๆ ทำให้ประเทศไทยเจริญทุกด้าน
  • สร้างนักสื่อสร้างสรรค์จำนวนมาก จากการปฏิบัติจริงและได้ผลจริง ไม่ใช่เรียนรู้แต่ทฤษฎีแต่ปฏิบัติไม่เป็น
  • สร้างคนไทยจำนวนมากที่มีสมรรถนะในการคิดเชิงระบบและการจัดการ มหาวิทยาลัยและสังคมคิดเชิงเทคนิคจึงทำโดยเอาเทคนิคเป็นตัวตั้งที่เรียกว่า Technic-driven ได้ผลแต่เพียงเล็กน้อย ขาดสมรรถนะในการคิดเชิงระบบและการจัดการ การปฏิบัติตามโครงการนี้จะสร้างสมรรถนะใหม่แห่งการคิดเชิงระบบและการจัดการ ทำให้สามารถใช้เทคนิคทำให้เป็นประโยชน์ใหญ่ในวงกว้าง สมรรถนะใหม่ของประเทศนี้จะนำมาใช้พัฒนาสร้างสรรค์ประเทศในทุกด้าน
  • ที่สำคัญอย่างยิ่ง คือ ระบบการผลิตบุคลากรใหม่ ซึ่งจะเป็นตัวอย่างแก่การผลิตบุคลากรทุกประเภท ซึ่งจำเป็นต้องอธิบาย ที่ผ่านมา ๑๐๐ กว่าปี การศึกษาสำหรับบุคลากรประเภทต่าง ๆ ล้วนเอาเทคนิคเป็นตัวตั้ง (Technic-oriented) คือ องค์กรใดมีความรู้ในวิชาใดก็เปิดหลักสูตรวิชานั้น เพื่อผลิตบัณฑิตหรือบุคลากรที่มีความรู้ในวิชานั้น เช่น นิเทศศาสตร์ วารสารศาสตร์ มักไม่ตระหนักกันว่าวิธีนี้ได้ผลน้อย ดังที่บัณฑิตที่จบมาทำงานไม่เป็น
เพราะงานเป็นระบบ เช่น ระบบการสื่อสาร เทคนิคเป็นองค์ประกอบหนึ่งของระบบ แต่ระบบยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ อีก ถ้าไม่เข้าใจระบบก็ทำงานไม่ได้ผล การเรียนรู้ในการทำงานในระบบให้ได้ผลต้องเข้าใจระบบทั้งหมด เมื่องานได้ผลคนก็เก่งด้วย นี้เรียกว่าการเรียนรู้โดยเอาระบบเป็นตัวตั้ง (System-oriented education) ผลสำเร็จไม่ได้มีแต่การผลิตบัณฑิต แต่เป็นการพัฒนาระบบนั้น ๆ ไปด้วย และได้บัณฑิตที่ทำงานเป็นไปด้วยจำนวนมาก มีความพยายามเป็นอันมากที่จะพัฒนานักสื่อให้เก่ง โดยการจัดหลักสูตรอบรมปรากฏว่าไม่ได้ผลเพราะเป็น Technic-oriented ลองหันไปพิจารณายุทธศาสตร์สื่อสร้างสรรค์ประเทศไทยทั้ง ยุทธศาสตร์ แต่ละยุทธศาสตร์คือ การขับเคลื่อนระบบอย่างครบวงจร และพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะทำให้เกิดผลสำเร็จ เอาผลสำเร็จเป็น ตัวตั้ง (Result-oriented) ไม่ใช่เพียงสอนทางวิชาการ (Academic-oriented) การทำงานให้ได้ผลสำเร็จต้องอาศัยความเพียรพยายามอย่างยิ่งยวดและรอบด้านมากกว่าการสอนไปเรื่อย ผลผลิตทางบุคลากรจากการทำงานในระบบให้สำเร็จจึงแตกต่างจากบัณฑิตที่จบจากการสอนไปเรื่อย ๆ ที่ไม่ใช่ Result-oriented มีข้อเสนอแนะระดับโลกว่าการผลิตบุคลากรในศตวรรษที่ 21 ควรปรับจาก Technic-oriented เป็น System-oriented แต่ก็ยังไม่ค่อยมีผู้ใดเข้าใจ ยุทธศาสตร์สื่อสร้างสรรค์ประเทศไทย จะผลิตนักสื่อสร้างสรรค์ที่เก่ง ๆ จำนวนมาก อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เพราะนี้คือ System-oriented education และเป็นตัวอย่างให้ระบบการศึกษาทั้งหมดเห็นว่า System-oriented education นั้นคืออย่างไร และดีอย่างไร จึงกล่าวว่าเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด
  • โครงการยุทธศาสตร์สื่อสร้างสรรค์ประเทศไทยที่สำเร็จ จะทำให้สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ มีผลสำเร็จใหญ่สมฐานะแห่งการเป็นองค์กรระดับชาติ และรู้ว่าถ้าจะมีพระราชบัญญัติระบบสื่อมวลชนควรจะตั้งขึ้นในลักษณะใด จึงจะเอื้ออำนวยให้เกิดระบบสื่อมวลชนที่สามารถสร้างสรรค์ประเทศไทยได้อย่างสมบูรณ์
  • กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จะมีผลงานสร้างสรรค์ประเทศไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่ คนทั้งประเทศ สร้างศรัทธา ความนิยม และการอุดหนุนทางการเงินอย่างต่อเนื่อง
  5. งบประมาณ เนื่องจากยุทธศาสตร์นี้เป็นของใหม่ ยังไม่สามารถกำหนดวงเงินงบประมาณได้จนกว่าจะทำแผนปฏิบัติ หากคณะกรรมการพิจารณาเห็นว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์ สำนักงานกองทุนอาจมีทางเลือกดังนี้
  • ส่งผู้เชี่ยวชาญมาร่วมพัฒนาโครงการกับสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ จนปรากฏวงเงินงบประมาณ
  • ผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานกองทุน อาจประมาณการได้ว่ายุทธศาสตร์นี้จะใช้งบประมาณเท่าใด สำนักงานกองทุนก็อนุมัติไปตามนั้น สำนักงานกองทุนอาจมีวิธีอื่นใดอีกก็ได้
  ———————————————————————————  [*] บทความประกาศสงครามเอาชนะความยากจน 17 มรรควิธี

กองทุนสื่อ DGA ลงนามความร่วมมือ นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ประโยชน์ในการสร้างสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์

(24 ตุลาคม 2566) กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) เพื่อร่วมส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างสรรค์สื่อและดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์ รวมทั้งการเตือนภัยและการเฝ้าระวังอาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะในโลกออนไลน์และภัยที่มาจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสร้างความตระหนักรู้และเพิ่มทักษะในการการรู้เท่าทันสื่อให้แก่ เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และประชาชนทั่วไป โดย ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และ นายสุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ร้อยโทธนกฤษฏ์ เอกโยคยะ รองผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และ นายณัฐวัชร์ วรนพกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของกองทุนสื่อ และ DGA เข้าร่วมงาน

ณ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)

ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่าความร่วมมือครั้งนี้ ต่างมีวัตถุประสงค์ร่วมกันเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างสรรค์สื่อและดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์ รวมทั้ง การเตือนภัยและการเฝ้าระวังอาชญากรรม โดยเฉพาะในโลกออนไลน์และภัยที่มาจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสร้างความตระหนักรู้และเพิ่มทักษะในการการรู้เท่าทันสื่อให้แก่ เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และประชาชนทั่วไป วันนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการขับเคลื่อนวงการสื่อ เราต้องสร้างการตระหนักรู้ให้กับสังคมในการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์ ใช้ประโยชน์จากสื่อโซเชียลมีเดียเพื่อสร้างระบบนิเวศสื่อที่ดีให้กับสังคม

ด้านนายสุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล กล่าวว่า ทาง DGA สร้างแพลตฟอร์มระบบดิจิทัล มีการจัดทำแอปพลิเคชัน ให้ประชาชนได้เข้ามาใช้ประโยชน์ ซึ่งนอกจากจะแนะนำให้ประชาชนรู้จักระบบออนไลน์ดิจิทัลแล้ว เรายังต้องคำนึงถึงภัยไซเบอร์ ต้องให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ เพราะในช่วงปี 2565 – 2566 ที่ผ่านมา มีผู้ที่ได้รับความเสียหายรวมไปกว่า 11,500 ล้านบาท และปัจจุบันคนไทยใช้งานสื่อมากถึง ร้อยละ 87.6 เปอร์เซ็นต์ เฉลี่ยวันละประมาณ 7 ชั่วโมง 25 นาที ซึ่งที่ใช้งานมากที่สุดคือโซเชียลมีเดีย ร้อยละ 92.46 ส่งผลให้โอกาสที่คนไทยทุกช่วงวัย จะมีโอกาสตกเป็นเหยื่อนับว่าค่อนข้างสูง จึงเกิดเป็นโจทย์ใหม่ที่ทาง DGA มุ่งมั่นที่จะทำ MOU ขึ้น เพื่อพัฒนาสื่อที่ทำให้เด็ก เยาวชน ครอบครัว ผู้สูงวัย สร้างความตระหนักรู้ สร้างความเข้มแข็งในการเปิดรับสื่อออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย พร้อมเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์ หวังว่าหลังจากนี้จะได้ร่วมงานกันจนประสบผลสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้

ทั้งนี้ MOU ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ ทั้งเพื่อส่งเสริมและสร้างภูมิคุ้มกันประชาชนจากภัยร้ายหลอกลวงในโลกออนไลน์ด้วยสื่อสร้างสรรค์ สนับสนุนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวกับการผลิตสื่อ การนำนวัตกรรมแขนงต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในการผลิตสื่อ และการพัฒนาผู้ผลิตสื่อให้มีความรู้ความสามารถในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ประโยชน์ในการผลิตสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ อีกทั้งร่วมกันประชาสัมพันธ์สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้อย่างทั่วถึง และ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ เพื่อนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของกองทุนสื่อและDGA ต่อไป

กองทุนสื่อ ส่งเสริมเยาวชนประกวดสื่อเพื่อสร้างสำนึกพลเมือง

ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยเเละสร้างสรรค์
มอบหมาย ร้อยโท ดร.ธนกฤษฏ์ เอกโยคยะ รองผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยเเละสร้างสรรค์
เข้าร่วมพิธีมอบรางวัลโครงการประกวดสื่อเพื่อสร้างสำนึกพลเมือง ภายใต้หัวข้อ “ความรับผิดชอบ” วันที่ 20 ตุลาคม 2566 ณ พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว กรุงเทพมหานคร

โครงการประกวดสื่อเพื่อสร้างสำนึกพลเมือง ภายใต้หัวข้อ “ความรับผิดชอบ” เป็นความร่วมมือระหว่างกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยเเละสร้างสรรค์ สถาบันพระปกเกล้า เเละสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ เเละกิจการโทรคมนาคมเเห่งชาติ (กสทช.) โดยมีนายวิทวัส ชัยภาคภูมิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า นางรมิดา ลีลาพตะ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการเเข่งขันเเละกำกับดูแลกันเอง ผู้แทนเลขาธิการ กสทช. และคณะกรรมการตัดสินรางวัล นักเรียน คณะครูอาจารย์ และผู้ปกครอง เข้าร่วมงาน

งานในครั้งนี้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นเข้าเเสดงความคิดเชิงสร้างสรรค์เเละศักยภาพผ่านการออกแบบสื่อนิทานภาพหรือคลิปวิดีโอ สำหรับนำไปเผยเเพร่ให้เเก่สถานศึกษาใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน เเละรณรงค์เพื่อสร้างสำนึกพลเมือง ด้านความรับผิดชอบในสังคมต่อไป

 

 

ซึ่งในปีนี้มีผลงานที่ได้เข้ารับรางวัล ดังนี้
ประเภทบุคคล
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่
เด็กชายกษพล วรรัตน์โภคิน
ชื่อผลงาน ความรับผิดชอบ
โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้เเก่
เด็กหญิงพัทธนันท์ ศรีประทุมวงศ์
ชื่อผลงาน ต้นไม้ของคุณแม่กับแบมจอมขี้เกียจ สื่อคลิปวิดีโอ
โรงเรียนมุกดาหาร

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้เเก่
นางสาวอนัญญา สีทาสังข์
ชื่อผลงาน The ants มดตัวน้อยกับขยะกองโต โรงเรียนหนองหญ้าไซวิทยา

รางวัลชมเชย 3 รางวัล ได้แก่
1. เด็กหญิงกมลลักษณ์ ศรีศักดิ์
ชื่อผลงาน เรื่องวุ่นวุ่น ของวัยรุ่นจินจิน สื่อนิทานภาพ โรงเรียนเชียงกลมวิทยา

2. เด็กชายสิริพงษ์ เลี้ยงบุญเลิศชัย
ชื่อผลงาน ต้นน้ำเก็บแล้วครับ สื่อนิทานภาพ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย

3. เด็กชายรณกฤต ภูศรีเทศ
ชื่อผลงาน การผจญภัยของต้นกล้า
โรงเรียนมุกดาหาร

ประเภททีม
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่
ผลงาน “Level up ความรับผิดชอบ”
สื่อคลิปวิดีโอ
โรงเรียนบ้านหนองหญ้าปล้อง
1. เด็กชายวรรณกร ชินมุณี
2. เด็กชายธนดล ดาสา
3. เด็กชายธีรพงศ์ แป้นอ่อน
4. เด็กชายอดุลวัฒน์ เจริญสุข

รางวัลรองชนะเลิศ ได้แก่
ผลงาน “บันทึกจากโลก” สื่อนิทานภาพ
โรงเรียนเทศบาลชนะชัยศรี
1. นางสาวฐิตาภรณ์ ก้อนสำโรง
2. เด็กหญิงหมวยกิม กง
3. เด็กหญิงนุช คุณ
4. เด็กหญิงวรตา แตงเจริญ

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่
ผลงาน “ผิดที่เรา (Is it my fault?)” สื่อคลิปวิดีโอ
โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน
1. เด็กหญิงณัฐรุจา วงษ์โท
2. เด็กชายศิวกร ดั่นเจริญ
3. เด็กหญิงธนพร แก่นณรงค์
4. เด็กชายภัทรภูมิ ปัญจนะ

ทั้งนี้ นักเรียนที่ได้รับรางวัลทั้งประเภทบุคคลเเละประเภททีมจะได้รับประกาศเกียรติคุณ เเละเดินทางไปทัศนศึกษาค่ายผู้นำสร้างสำนึกพลเมือง ณ จังหวัดชลบุรีต่อไป

กองทุนสื่อ เปิดพื้นที่ “ข่าวดีแชร์ได้” เชิญชวนประชาชนร่วมเสนอเรื่องราวสร้างสรรค์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์

( 12 ต.ค. 2566 ) ดร. ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “ข่าวดีแชร์ได้” สร้างการมีส่วนร่วมในการผลิตข่าวจากประชาชนทั่วไป
เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดผู้ผลิตสื่อที่ดี เปิดโอกาสและสร้างพื้นที่ให้นักสร้างสื่อที่เป็นแบบอย่างกับผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ ให้เป็นที่ปรากฎบนพื้นที่สื่อออนไลน์ไปยังประชาชนในวงกว้าง

ณ อาคารสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.

ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบัน โลกในยุคดิจิตอล มีผลต่อการดำเนินชีวิต ทุกช่วงอายุของคนเรา ทั้งด้านการเสพข่าวสาร เกมส์ กีฬา หรือสื่อบันเทิงต่างๆ ทุกเพศ ทุกวัย ย่อมได้รับผลในด้านบวกและด้านลบเสมอ และสื่อโซเชียลมีเดียมีความสะดวกสบายในการใช้งาน สามารถเข้าถึงได้ง่าย รวดเร็ว จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้คนนิยมใช้โซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นเด็กและผู้ใหญ่ ทำให้เป็นดาบสองคมสำหรับผู้ที่“ไม่รู้เท่าทันสื่อ” เพราะไม่สามารถกลั่นกรองข้อมูลข่าวสารได้อย่างถี่ถ้วน ซึ่งอาจทำให้เกิดพฤติกรรม ผลเสียต่อตนเองและคนรอบตัว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า โซเชียลมีเดียมีแต่ผลเสียให้กับเยาวชน บางครั้งการอ่านข่าวหรือตามกระแสต่าง ๆ อาจเป็นการช่วยเตือนภัยหรือทำให้เยาวชนระมัดระวังตัวมากขึ้น

กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จึงจัดทำโครงการ ข่าวดีแชร์ได้ เพื่อเป็นการนำเสนอเรื่องราวดีๆผ่านคลิปสั้น เพื่อยกระดับจิตใจ ให้ประชาชนได้รู้ว่าคนไทย และประเทศไทย ก็ยังมีมุมมอง และเรื่องราวดีๆอีกมากมาย ที่รอให้ใครหลายคนได้เห็น

จึงอยากเชิญชวนประชาชนทุกท่านที่มีพื้นที่สร้างสื่อ ผ่านโซเชียลมีเดีย ในทุกช่องทาง ที่สามารถนำเสนอ และ ผลิตสื่อ Content น้ำดี ผลิตคลิปเนื้อหาสร้างสรรค์ เข้ามาร่วมโครงการฯ ได้ที่ เฟซบุ๊ก ข่าวดีแชร์ได้ เพื่อใช้เป็นช่องทางการสร้างสื่อที่ดี สร้างความสุข สร้างความตระหนักรู้ และ ร่วมกันเป็นกระบอกเสียง เพื่อยกระดับสื่อให้มีสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์เพิ่มมากยิ่งขึ้น

สำหรับโครงการข่าวดีแชร์ได้ จะนำเสนอคลิปเรื่องราวและคอนเทนท์ที่สร้างสรรค์ จากการเผยแพร่บนพื้นที่ออนไลน์ของประชาชนทั่วไป ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ทุกวัน จันทร์-อาทิตย์ ช่วงเช้าและบ่าย วันละ 2 คลิป เพื่อเป็นต้นแบบให้กับผู้ผลิตสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ที่นำเสนอเรื่องราวเนื้อหาดี ๆ เผยแพร่สู่สังคมในพื้นที่ออนไลน์ เป็นต้นแบบให้กับประชาชนให้สามารถเป็นผู้ผลิตสื่อดีได้ด้วยตัวเอง ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายชุมชัย แก้วแดง กรรมการผู้จัดการบริษัท สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.จำกัด , นางสาวสิริธรา เบญจรงคกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ไอเอ็นเอ็น เน็กซ์ จำกัด และ นายศักดา จิวัธยากูล บรรณาธิการบริหาร สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ให้การต้อนรับ

สามารถติดตามเรื่องราวข่าวดีแชร์ได้ ได้ทาง
Facebook Fanpage ข่าวดีแชร์ได้
Facebook สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น
TikTok INN_News ,YouTube INNNEWS และ YouTube กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์