เดือน ส.ค. 2567 น่าจะเป็นช่วงเวลาที่สื่อสายการเมือง ‘ยุ่งที่สุด’ ครั้งหนึ่งในรอบปี เพราะมีสารพัดอีเว้นต์ใหญ่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้ง
- พรรคก้าวไกลที่มี สส.อันดับหนึ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบ จากคดีเสนอแก้ไข ม.112 (7 ส.ค. 2567)
- พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นักการเมืองยอดนิยมถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี (7 ส.ค. 2567)
- นายกรัฐมนตรีคนเดิมถูกถอดถอน ได้นายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศและคนที่ 4 จากสายตระกูลเดียวกัน (14-18 ส.ค. 2567)
แต่แม้จะมีเหตุการณ์ที่เต็มไปด้วยองค์ประกอบสำคัญทางการเมืองอย่างครบถ้วน (พรรคอันดับหนึ่งถูกยุบ, เปลี่ยนตัวนายกฯ, พิธาโดนตัดสิทธิ) จนน่าจะได้เอ็นเกจเม้นต์ถล่มทลายจากชาวเน็ตไทย
เชื่อหรือไม่ว่า หากเทียบกับข่าวอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน ‘การก้าวขึ้นมาเป็นนายกฯ คนที่ 31 ของ
อุ๊งอิ๊งค์-นางสาวแพทองธาร ชินวัตร’ หรือ ‘พรรคก้าวไกลถูกยุบ เปิดตัวพรรคใหม่ พรรคประชาชน’ กลับไม่ใช่ประเด็นการเมืองที่ผู้คนสนใจเป็นอันดับ 1 แต่ได้รับความสนใจมาเป็นอันดับที่ 4 (28,369,606 เอ็นเกจเม้นต์) และอันดับที่ 6 (24.787,182 เอ็นเกจเม้นต์) ตามลำดับ แพ้ให้กับมหกรรมโอลิมปิก, เทศกาลวันแม่ หรือกระทั่งความนิยมของละครพรชีวัน ที่อยู่ในละครชุดดวงใจเทวพรหม ของสถานีโทรทัศน์ ช่อง 3
ขณะที่เดือน ก.ย. 2567 ที่เริ่มต้นการจ่ายเงิน 10,000 บาท ให้กับกลุ่มเปราะบางตามโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งมีผู้ได้รับผลประโยชน์มากถึง 14.5 ล้านคน คิดเป็น 20% ของประชากรไทยทั้งหมด แต่ประเด็นนี้กลับได้รับความสนใจอยู่ในลำดับที่ 11 ของเดือน (8,200,741 เอ็นเกจเม้นต์) ไม่ติดกระทั่ง TOP 10 แพ้ให้กับประเด็น ‘หมูเด้ง’ ลูกฮิปโปแคระ ซึ่งอยู่ในอันดับ 1 ที่ได้ 86,830,577 เอ็นเกจเม้นต์ หรือได้รับความสนใจน้อยกว่านับสิบเท่า
หากย้อนเวลากลับไปยังครึ่งแรกของปี 2567 ก็จะพบข้อมูลในลักษณะที่ใกล้เคียงกัน เพราะมีประเด็นการเมือง
แค่ 2 เรื่องเท่านั้น ที่ติด TOP 10 ในเดือนนั้น ๆ คือ การกลับเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล หลังพ้นผิดจากคดีถือหุ้น ITV โดยอยู่ในอันดับที่ 4 ของเดือน ม.ค.2567 (13,464,309 เอ็นเกจเม้นต์) และร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ที่อยู่ในอันดับที่ 9 ของเดือน มิ.ย. 2567 (12,350,146 เอ็นเกจเม้นต์)
นั่นแปลว่า ระหว่าง ม.ค. – ก.ย. 2567 จากทั้งหมด 90 ประเด็นที่ติด TOP 10 ความสนใจของผู้คนในช่วง 9 เดือน มีประเด็นการเมืองติดอันดับเพียง 4 ครั้งเท่านั้น
อ่านข้อมูลจนถึงบรรทัดนี้ นึกย้อนกลับไปปี 2565 และปี 2566 หลายคนอาจต้องเกาศีรษะ เพราะถ้ายังจำกันได้ 2-3 ปีก่อน จะเต็มไปด้วย ‘ข่าวการเมือง’ ที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ทั้งข่าวการเมืองในและการเมืองต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม., กระแสชัชชาติฟีเวอร์, สงครามรัสเซีย–ยูเครน, ไปจนถึงการเลือกตั้ง สส. ทั่วประเทศของไทย ที่พรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้งอย่างสุดเซอร์ไพรส์ แต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เพราะถูกขัดขวางจากกลไกที่คณะรัฐประหารวางเอาไว้ โดยเฉพาะเหล่า สว. แต่งตั้ง
เวลาผ่านมาไม่นาน เหตุใดประเด็นการเมืองจึงถูกลดระดับความสนใจในโลกออนไลน์อย่างน่าใจหาย ทำไมคนไทยจึง ‘เลิกสนใจการเมือง’ มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน
คนไทยเคยสนใจการเมืองแค่ไหน
ข้อมูลเรื่องข่าวสารต่าง ๆ ที่ได้รับความสนใจ SpringNews ได้มาจากรายงานการศึกษาการสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์ของสังคมไทย โดย Media Alert กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับ Wisesight ผู้ให้บริการรวบรวมข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย ที่สำรวจเอ็นเกจเม้นต์ต่อประเด็นต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ที่เป็น TOP 10 ในแต่ละเดือน บนแพลตฟอร์มหลัก ทั้งเฟซบุ๊ก ยูทูบ ทวิตเตอร์(เอ็กซ์) อินสตาแกรม และติ๊กต๊อก ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2565 – ปัจจุบัน
ถามว่าแล้วคนไทย ‘เคยสนใจการเมือง’ มากแค่ไหน ? หากเอาข้อมูลดิบมากาง
ปี 2565 ประเด็นการเมืองติด TOP 10 ทุกเดือน โดยเอ็นเกจเม้นต์รวมทั้งปี ข่าวการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. (อันดับ 2 – 135,743,129 เอ็นเกจเม้นต์) ได้รับความสนใจมากกว่าข่าวการแข่งขันฟุตบอลโลก (อันดับ 3 – 100,930,319 เอ็นเกจเม้นต์) แพ้ให้กับข่าวการเสียชีวิตของแตงโม–นิดา พัชรวีระพงษ์ ซึ่งเต็มไปด้วยปริศนา จนชาวเน็ตต้องลุกขึ้นมาช่วยกันตั้งข้อสมมุติฐานและหาพยานหลักฐานกันเอง จากความไม่เชื่อใจเจ้าหน้าที่รัฐ (อันดับ 1 – 394,602,306 เอ็นเกจเม้นต์) เพียงข่าวเดียวเท่านั้น
ปี 2566 คนก็ยิ่งสนใจข่าวการเมือง โดยในเดือน พ.ค. ที่มีการเลือกตั้ง สส. ทั่วประเทศ การเมืองติด TOP 10 ถึง 9 ประเด็นข่าว !
ทว่านับแต่เดือน ต.ค. 2566 ลากยาวไปจนถึงครึ่งแรกของปี 2567 สถานการณ์กลับพลิกผัน เมื่อประเด็นการเมืองแค่ 2 เรื่อง ที่ติด TOP 10 ในช่วงเวลาดังกล่าว คือกรณีนายพิธากลับเข้าสภาฯ หลังสิ้นสุดคดี ITV และร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น
ส่วนระหว่าง มิ.ย. – ก.ย. 2567 ที่สถานการณ์การเมืองกลับมาคึกคักอีกครั้ง ทั้งจากการยุบพรรคการเมืองยอดนิยม, การเปลี่ยนตัวนายกฯ, การเริ่มต้นนโยบายที่จะมีคนได้รับประโยชน์หลักสิบล้านคน ประเด็นการเมืองก็กลับมาได้รับความสนใจบนโลกออนไลน์แค่ ‘ในระดับหนึ่ง’ เท่านั้น
เหตุใดประเด็นการเมือง จึงไม่ค่อยได้รับความสนใจนักในระยะหลัง และสถานการณ์เช่นนี้จะส่งผลเสียอย่างไร
ความเห็นล่าสุด