เลือกหน้า

กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อพัฒนาและยกระดับ ทักษะ ความรู้ ความสามารถ ของบุคลากรในอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิง

(29 พฤศจิกายน 2567) กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อพัฒนาและยกระดับ ทักษะ ความรู้ ความสามารถ ของบุคลากรในอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิง

ณ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) 

ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายนคร ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพผู้บริหาร ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมลงนาม MOU กับ นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ  พร้อมด้วย ดร.ชำนาญ งามมณีอุดม รองผู้จัดการกองทุนสื่อ และ นางสาวณฐา จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมลงนามเป็นพยาน พร้อมคณะผู้บริหารเจ้าหน้าที่ของกองทุนสื่อ และผู้บริหารสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ  ร่วมเป็นสักขีพยานความร่วมมือ  

นายนคร ศิลปอาชา กล่าวว่า ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างความร่วมมือครั้งนี้  ซึ่งจะทำให้ทั้งสองฝ่ายร่วมมือกัน เพื่อพัฒนาและยกระดับ ทักษะ ความรู้ ความสามารถ ของบุคลากรในอุตสาหกรรมสื่อ

และบันเทิงด้วยมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน

ในการเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์ รวมถึงส่งเสริมสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมการประชาสัมพันธ์สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้อย่างทั่วถึง เพื่อประโยชน์ต่อสังคม และตอบสนองนโยบายรัฐบาล โดยการทำบันทึกความเข้าใจความร่วมมือครั้งนี้ ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีถึงความร่วมมือระหว่าง สคช. กับกองทุนสื่อ เพื่อร่วมกันสร้างค่านิยมใหม่ในสังคมด้วยการยอมรับและการใช้ประโยชน์จากระบบคุณวุฒิวิชาชีพ  ผ่านสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ รวมถึงการสร้างการรับรู้และยอมรับในระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ตลอดจนเผยแพร่และประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่ทำร่วมกันให้เป็นที่แพร่หลายในทุกภาคส่วน

ดร.ธนกร ศรีสุขใส กล่าวว่า มีความยินดีที่ทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันนำประสบการณ์และทักษะระหว่างสองหน่วยงาน และมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาบุคลากร ในอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิง และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิง เพราะปัจจุบันสื่อมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อาชีพใหม่ๆก็เกิดขึ้นตามยุคสมัย เราจะต้องรู้เท่าทันสื่อโดยการพัฒนาทักษะ ความรู้ ความสามารถ และสมรรถนะบุคลากรในอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงทั่วประเทศ ด้วยการผลักดันให้คนในอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงเข้าสู่กระบวนการรับรองตามมาตรฐานอาชีพ ซึ่งจะเป็นการยกระดับความเชื่อมั่นและคุณภาพ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ยินดีให้การสนับสนุนด้านการพัฒนาสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ การให้ความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ ด้านการผลิตสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ ระหว่าง 2 หน่วยงาน ร่วมกัน

นางสาวจุลลดา มีจุล กล่าวว่า การจัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือฯ ในครั้งนี้ มีที่มาจากการที่ทั้งสองฝ่าย คือ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ กับ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ซึ่งมีเจตนารมณ์ที่จะร่วมมือกัน พัฒนาและยกระดับ ทักษะ ความรู้ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงด้วยมาตรฐานอาชีพ ตลอดจนการพัฒนาสื่อที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์ รวมถึงส่งเสริมสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมและร่วมกันประชาสัมพันธ์สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้อย่างทั่วถึง เพื่อประโยชน์ต่อสังคม ในนามของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ขอขอบคุณกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ที่เห็นประโยชน์ร่วมกันในการสร้างค่านิยมใหม่ของสังคมด้วยการยอมรับและการใช้ประโยชน์จากระบบคุณวุฒิวิชาชีพ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

ทั้งนี้ MOU ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ ดังนี้

  1. เพื่อพัฒนาและยกระดับ ทักษะ ความรู้ ความสามารถ ของบุคลากรในอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิง และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิง ด้วยมาตรฐานอาชีพ ตลอดจนการพัฒนาสื่อที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์ รวมถึงส่งเสริมสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมและร่วมกันประชาสัมพันธ์สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้อย่างทั่วถึง เพื่อประโยชน์ต่อสังคม
  2. เพื่อร่วมกันนำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาบุคลากร
    ในอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิง และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิง
  3. เพื่อร่วมกันสร้างค่านิยมใหม่ในสังคมด้วยการยอมรับและการใช้ประโยชน์จากระบบคุณวุฒิวิชาชีพ
  4. เพื่อร่วมกันวิจัยและพัฒนาเนื้อหาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กระบวนการ หลักสูตร และชุดฝึกอบรม ที่สอดคล้องกับความต้องการของคนในอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิง และสอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ
  5. เพื่อร่วมกันสร้างการมีส่วนร่วมให้ประชาชนใช้ประโยชน์จากสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และร่วมกันเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์
  6. เพื่อร่วมกันสร้างการรับรู้และยอมรับในระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ตลอดจนเผยแพร่และประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่ทำร่วมกันให้เป็นที่แพร่หลายในทุกภาคส่วน

“ดิไอคอนกรุ๊ป” ขึ้นอันดับ 1 “หมูเด้ง” ลงเป็นอันดับ 2 ของความสนใจในโลกออนไลน์เดือนตุลาคม 67 ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาเป็นอันดับ 3 “หมีเนย” หลุด 10 อันดับเป็นครั้งแรก TikTok ยังครอง Engagement สูงกว่าทุกแพลตฟอร์ม

จากการสำรวจประเด็นการสื่อสารในโลกออนไลน์ผ่าน 5 แพลตฟอร์มในเดือนตุลาคม 2567 พบว่า “คดีดิไอคอนกรุ๊ป” ได้รับความสนใจสูงสุดในอันดับที่ 1 ด้วยสัดส่วนการมีส่วนร่วม (Engagement) สูงถึง 26.48% ตามด้วย “หมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระ” ในอันดับที่ 2 ด้วยสัดส่วนการมีส่วนร่วมที่ 21.64% สำหรับ “อุบัติเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษานักเรียน” อยู่ในอันดับที่ 3 ด้วยสัดส่วนการมีส่วนร่วม 10.48% และ “ภาพยนตร์ธี่หยด 2″ อยู่ในอันดับที่ 4 ด้วยสัดส่วนการมีส่วนร่วม 10.32% และเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนที่”น้องหมีเนย” ไม่ติด 10 อันดับแรก

ความสนใจใน “คดีดิไอคอนกรุ๊ป” เริ่มต้นจากการรายการโหนกระแส นำผู้เสียหายมาเล่าถึงการถูกฉ้อโกงจากกลไกการตลาดของดิไอคอนกรุ๊ป นำไปสู่การสอบสวนและดำเนินคดีกับผู้บริหาร ที่มีบุคคลในวงการบันเทิง เช่น กันต์ กันตถาวร, ยุรนันท์ ภมรมนตรี, พิชญา วัฒนามนตรี รวมถึงบุคคลอื่น ๆ อีกหลายคน โดยมีผู้เสียหายมากกว่า 10,000 ราย ส่งผลให้ได้รับความสนใจจากสังคมอย่างกว้างขวาง 

แม้ในเดือนตุลาคม 2567 จะมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ เช่น อุทกภัยในจังหวัดเชียงใหม่ การสิ้นสุดอายุความของคดีตากใบ นักธุรกิจสาวแจ้งความทนายษิทราข้อหาฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท รวมถึงพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินในขบวนพยุหยาตราทางชลมารค แต่เหตุการณ์ที่กล่าวมาทั้งหมดกลับไม่ติด 10 อันดับแรก ในความสนใจของโลกออนไลน์เดือนตุลาคม 2567

10 ประเด็นที่ได้รับความสนใจ มีการสื่อสารและมีส่วนร่วมมากที่สุดในโลกออนไลน์ เดือนตุลาคม 2567

Media Alert กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับบริษัท Wisesight ดำเนินการศึกษาการสื่อสารในโลกออนไลน์ของสังคมไทย โดยใช้เครื่องมือ ZocialEye สำรวจข้อมูลจาก 5 แพลตฟอร์มหลัก ได้แก่ 1) Facebook 2) X (Twitter) 3) Instagram 4) YouTube และ 5) TikTok โดยเริ่มต้นจากการค้นหาแนวโน้มกระแสสังคมที่เป็นที่พูดถึง เช่น Wisesight Trend และแนวโน้มจากทั้ง 5 แพลตฟอร์ม หลังจากนั้นได้ใส่คำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญที่พบจากการสำรวจในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้แก่ คำว่า ดิไอคอน” “หมูเด้ง” “ไฟไหม้รถบัส” “ธี่หยด “คนตื่นธรรม” “#bus_knockknockknock” “ปิ่นภักดิ์” “มิสแกรนด์ 2024” “แม่หยัว” “หนึ่งในร้อย” หลังจากนั้นจึงนำข้อมูลที่ได้มาคัดกรองและจัดหมวดหมู่ตามประเด็น กลุ่มเนื้อหา ประเภทแพลตฟอร์ม และกลุ่มผู้สื่อสารตามเกณฑ์ที่กำหนดขึ้น พร้อมจัดทำสรุปข้อมูลสำคัญใน 10 อันดับแรกของการมีส่วนร่วม (Engagement) ประจำเดือน โดยอ้างอิงหลักฐานเชิงประจักษ์ (Empirical Data) ซึ่งประกอบด้วย จำนวนค่าการมีส่วนร่วม ข้อความจากสื่อสังคมออนไลน์ วันที่และเวลา เพื่อความถูกต้องแม่นยำ และลดอคติของผู้วิเคราะห์ข้อมูล ทั้งนี้ ประเด็นที่ได้รับความสนใจในโลกออนไลน์ในช่วงเดือนตุลาคม 2567 มีดังนี้

อันดับที่ 1 คดีดิไอคอนกรุ๊ป (103,965,017 Engagement)

            ดิไอคอนกรุ๊ปเป็นบริษัทที่ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และความงาม โดยจดทะเบียนเป็นธุรกิจการตลาดแบบตรง โดยมีวรัตน์พล วรัทย์วรกุล เป็นผู้บริหารหลัก อีกทั้งยังมีบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิงเกี่ยวข้องด้วย เช่น กันต์ กันตถาวร ยุรนันท์ ภมรมนตรี พิชญา วัฒนามนตรี เป็นต้น คดีเกี่ยวกับบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปเริ่มได้รับความสนใจเมื่อมีผู้เสียหายมาร้องเรียนผ่านรายการโหนกระแส และต่อมามีการนำผู้เสียหายเข้าแจ้งความบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์เพื่อรับแจ้งเหตุจากประชาชนที่ได้รับความเสียหาย ต่อมาในวันที่ 16 ตุลาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจขออนุมัติศาลออกหมายจับ 18 ผู้ต้องหาคดีดิไอคอนกรุ๊ปในข้อหาร่วมฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จฯ โดยคุมตัวมาสอบปากคำ รวมถึงยึดทรัพย์สินหลายรายการ อาทิ รถยนต์หรู เงินสด และสินค้าแบรนด์เนม เป็นต้น ในส่วนของผู้ส่งสาร พบว่าสำนักข่าวและสื่อ เช่น โหนกระแส ข่าวสดออนไลน์ และเรื่องเล่าเช้านี้ เป็นแหล่งข้อมูลที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ได้มากที่สุด โดยแพลตฟอร์ม TikTok มียอดการมีส่วนร่วมสูงสุดที่ 48.81%

อันดับที่ 2 หมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระ (84,970,100 Engagement)

            “หมูเด้ง” ลูกฮิปโปแคระซึ่งได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในสื่อสังคมออนไลน์ตั้งแต่เดือนกันยายน โดยมีการเผยแพร่ภาพและวิดีโอที่นำเสนอความน่ารักในอิริยาบถต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ ในเดือนตุลาคมได้มีการนำเสนอเนื้อหาหลากหลายรูปแบบเพิ่มเติม อาทิ วิดีโอการ์ตูน, ภาพวาด, การ Cover เพลงเกี่ยวกับหมูเด้ง, ข่าวนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางจากนิวยอร์กเพื่อมาชมหมูเด้งโดยเฉพาะ นอกจากนี้บัญชี TikTok krubaheng ได้นำเสนอวิดีโอในการสอนศาสนา โดยใช้ตัวละครหมูเด้งในรูปแบบการ์ตูนฮิปโป ซึ่งได้รับการมีส่วนร่วม (Engagement) เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีการเปรียบเทียบความน่ารักของหมูเด้ง แห่งสวนสัตว์เปิดเขาเขียวกับลูกฮิปโปแคระเกิดใหม่ที่สวนสัตว์ศรีสะเกษ ในส่วนของผู้ส่งสาร พบว่าผู้มีอิทธิพลในสื่อสังคมออนไลน์สามารถสร้างการมีส่วนร่วมได้สูงสุด อาทิ khamoo.andthegang pairoat และ pimprapa โดยแพลตฟอร์ม TikTok มีสัดส่วนการมีส่วนร่วมสูงสุดที่ 48.81%

อันดับที่ 3 ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา (41,137,905 Engagement)

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้รถบัสนำนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดชัยนาท เดินทางไปทัศนศึกษา แต่เกิดเพลิงไหม้ขณะเดินทางบนถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้าบริเวณหน้าศูนย์การค้าเซียร์รังสิต ส่งผลให้นักเรียนและครูเสียชีวิตรวม 23 ราย เหตุการณ์นี้เป็นที่กล่าวถึงในวงกว้าง เนื่องจากเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกี่ยวข้องกับเด็กนักเรียนก่อให้เกิดข้อกังวลและเป็นประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับความจำเป็น ความเหมาะสมในการพานักเรียนไปทัศนศึกษา ความปลอดภัยของรถโดยสารที่มีอายุการใช้งานยาวนาน ระบบการติดตั้งถังแก๊สและการตรวจสอบของกรมการขนส่ง รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมมาตรฐานของรถรับส่งนักเรียน ในสื่อสังคมออนไลน์มีการแสดงความเสียใจอย่างล้นหลามต่อเหตุการณ์นี้ โดยเนื้อหาในช่วงแรกเน้นการรายงานเหตุการณ์และการอัปเดตสถานการณ์ในวันที่เกิดเหตุ รวมถึงในวันพระราชทานเพลิงศพครูและนักเรียนทั้ง 23 ราย สื่อและสำนักข่าวที่มีบทบาทสำคัญในการสื่อสารประเด็นนี้ เช่น thairath_news khaosodonline และ thaich8news โดยแพลตฟอร์ม TikTok เป็นช่องทางที่สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) สูงที่สุดที่ 51.94%

อันดับที่ 4 ภาพยนตร์ธี่หยด 2 (40,502,912 Engagement)

ภาพยนตร์ “ธี่หยด” ภาค 1 ได้รับความสนใจในสื่อสังคมออนไลน์เป็นอันดับที่ 6 ในเดือนตุลาคม 2566 โดยเป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญที่ได้รับคำชมอย่างล้นหลาม ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้จากการทำรายได้มากกว่า 400 ล้านบาทภายในระยะเวลาเพียง 10 วัน สำหรับปีนี้ ภาพยนตร์ “ธี่หยด” ภาค 2 สามารถทำรายได้สูงถึง 700 ล้านบาท ด้วยเนื้อเรื่องที่มีความแปลกใหม่และสนุกสนานมากกว่าภาพยนตร์ผีทั่วไป ส่งผลให้ได้รับการชื่นชมอย่างกว้างขวางในสื่อสังคมออนไลน์ ในด้านผู้ส่งสาร พบว่าผู้มีอิทธิพลในสื่อสังคมออนไลน์สามารถสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ได้มากที่สุด เช่น sunantra_chery, denise_jelilcha, และ zo_pim เป็นต้น โดยแพลตฟอร์ม TikTok มียอดการมีส่วนร่วมสูงที่สุดที่ 67.74%

อันดับที่ 5 อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม (30,190,697 Engagement)

อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม ผู้มีอิทธิพลในสังคมออนไลน์ด้านธรรมะ มีความโดดเด่นจากการสอนธรรมะในสไตล์ที่เข้มข้นและเข้าใจง่าย โดยได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางจากการให้สัมภาษณ์ในรายการเปิดปากกับภาคภูมิเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2567 ในประเด็น “อยากรวยต้องทำยังไง” และรายการโหนกระแสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม  2567 ตอน “หมอดูสวนกลับอาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม พูดไปเรื่อย ไม่มีอาจารย์โหรคนไหนสอนให้หลอกคน” หลังจากนั้นในสื่อสังคมออนไลน์มีการพูดถึงอาจารย์เบียร์อย่างแพร่หลาย จากคลิปสั้นตอบปัญหาธรรมะในแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ รวมถึงการถูกเชิญไปออกรายการต่าง ๆ เช่น Woody FM เป็นต้น ในด้านผู้ส่งสาร พบว่าผู้มีอิทธิพลในสื่อสังคมออนไลน์สามารถสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ได้มากที่สุด เช่น  pondonnews, gurion99, และ Woody โดยแพลตฟอร์ม TikTok มียอดการมีส่วนร่วมสูงที่สุดที่ 68.29%

อันดับที่ 6 การประกวด Miss Grand International 2024 (29,871,433 Engagement)

การประกวด Miss Grand International 2024 จากเดิมประเทศเมียนมาได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพในการจัดการประกวด แต่เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งภายในประเทศ ทำให้ไม่สามารถจัดการประกวดได้ ประเทศกัมพูชาจึงเสนอตัวเป็นเจ้าภาพแต่สุดท้ายไม่พร้อม จึงขอเป็นเจ้าภาพร่วมกับประเทศไทย แต่ระหว่างกิจกรรมเก็บตัวที่ประเทศกัมพูชา มีความไม่ราบรื่นในการจัดกิจกรรม จนเป็นข่าว ทำให้ในวันที่ 8 ตุลาคม 2567 ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทมีสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ประกาศยกเลิกให้กัมพูชาเป็นเจ้าภาพและตัดสินใจจัดการประกวดในประเทศไทย โดยในการประกวดรอบสุดท้ายเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ผู้ครองตำแหน่ง Miss Grand International 2024 คือ เรเชล คุปตะ จากประเทศอินเดีย รองอันดับหนึ่งคือ คริสติน จูเลียน โอเปียซ่า จากประเทศฟิลิปปินส์ รองอันดับสอง คือ แต้ ซู เญ่น จากเมียนมา แต่ Nation Director (ND) ของเมียนมา ไม่พอใจผลการตัดสิน จึงพากลุ่มคนทำการถอดสายสะพายและมงกุฎ ทั้งนำตัว แต้ ซู เญ่น ออกจากงาน วันต่อมาแต้ ซู เญ่น ก็สื่อสารทางออนไลน์ไม่ยอมรับผลการตัดสิน ทำให้สังคมตั้งคำถามถึงความไม่เหมาะสมและวิเคราะห์สาเหตุของพฤติกรรม ในวันที่ 28 ตุลาคม 2567 ช่องทางอย่างเป็นทางการของ Miss Grand International ได้ออกแถลงการณ์ปลด แต้ ซู เญ่น รองอันดับ 2 ออกจากตำแหน่งเนื่องจากประพฤติตนไม่เหมาะสม  ในด้านผู้ส่ง

อันดับที่ 7 คอนเสิร์ต Knock Knock Knock: BUS 1st THAILAND FANCON TOUR (28,391,620 Engagement)

         วงบอยแบนด์ชาวไทย “Bus” หรือ “Because of You I Shine” ได้ประกาศจัดคอนเสิร์ต “ Knock Knock Knock: BUS 1st THAILAND FANCON TOUR” ซึ่งเป็นการทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกใน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น นครราชสีมา สงขลา ชลบุรี และเชียงใหม่ ในด้านผู้ส่งสาร พบว่าผู้ส่งสารส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้งานทั่วไป ซึ่งประกอบไปด้วยแฟนคลับและผู้ที่ติดตามวง ได้มีการโพสต์ภาพการแสดงคอนเสิร์ตในจังหวัดต่าง ๆ ทำให้สามารถสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ได้มากที่สุด โดยแพลตฟอร์ม TikTok มีการสร้างการมีส่วนร่วมสูงที่สุดที่ 48.59%

อันดับที่ 8 ซีรีส์ปิ่นภักดิ์ (13,948,360 Engagement)

ปิ่นภักดิ์ ซีรีส์แนวแซฟฟิค (Sapphic) หญิงรักหญิงพี่เรียดย้อนยุคโรแมนติกจากช่อง Workpoint นำแสดงโดย ฟรีน สโรชา และ เบ็คกี้ รีเบคก้า โดยในเดือนนี้ได้มีการปล่อยเพลงประกอบละคร “Cheevee” (ชีวี) ซึ่งร้องโดยสองนักแสดงนำ นอกจากนี้ยังมีการปล่อยซีรีส์ในรูปแบบ Uncut ส่งผลให้ในเดือนนี้ การมีส่วนร่วม (Engagement) ในแง่ผู้สื่อสาร มีผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์เป็นผู้สื่อสารหลัก ส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนช่องทางอย่างเป็นทางการของซีรีส์ รวมถึงบัญชีของดารานักแสดง เช่น idolfactory, srchafreen, และ workpointofficial เป็นต้น โดยแพลตฟอร์ม X ยังคงสามารถสร้างการมีส่วนร่วมสูงสุดที่ 73.37%

อันดับที่ 9 ละครแม่หยัว (10,057,059 Engagement)

ละคร “แม่หยัว” จากช่อง One 31 เป็นละครที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริงในประวัติศาสตร์สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยมีการตีความเนื้อหาใหม่ของ “แม่หยัวศรีสุดาจันทร์” ซึ่งเป็นสนมเอกของสมเด็จพระไชยราชาธิราช ละครนี้นำแสดงโดย ใหม่ ดาวิกา, ฟิล์ม ธนภัทร, ตุ้ย ธีรภัทร์ ในส่วนของผู้ส่งสารพบว่าผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์สามารถสร้างการมีส่วนร่วมได้มากที่สุด ส่วนใหญ่เกิดจากการโปรโมทละครของทางช่อง ผู้จัด นักแสดง และผู้ที่เกี่ยวข้องกับนักแสดง เช่น davikah, channel. one31, และ terchantavit เป็นต้น โดยแพลตฟอร์ม TikTok สามารถสร้างการมีส่วนร่วมสูงสุดที่ 35.79%

อันดับที่ 10 ละครหนึ่งในร้อย (9,614,475 Engagement)

 ละคร “หนึ่งในร้อย” จากช่อง 3 สร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกันของดอกไม้สด เล่าเรื่องราวของหญิงสาวทายาทนายธนาคารผู้สูงศักดิ์ ที่ครอบครัวคัดสรรคู่ครองให้ด้วยความพิถีพิถัน วิชัย ผู้พิพากษาหนุ่มบังเอิญเข้ามาเป็นพ่อสื่อ ช่วยกีดกันชายที่ไม่เหมาะสม แต่อนงค์กลับพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อพิชิตใจวิชัยให้ได้ ในสื่อสังคมออนไลน์ พบว่าการมีส่วนร่วม (Engagement) ส่วนใหญ่เกิดจากการโปรโมทละครจากช่องทางอย่างเป็นทางการของช่อง 3 และนักแสดงนำ เช่น Ch3 Thailand, ญาญ่า อุรัสยา และ ต่อ ธนภพ เป็นต้น โดยสื่อและสำนักข่าวสามารถสร้าง Engagement ได้มากที่สุด ส่วนใหญ่มาจากช่องทางอย่างเป็นทางการของช่อง 3 ที่มีการโปรโมทและได้ Engagement สูง โดยแพลตฟอร์ม TikTok สามารถสร้าง Engagement สูงสุดที่ 48.22%

ผลการสำรวจการสื่อสารออนไลน์ในเดือนตุลาคม 2567 ในด้านกลุ่มเนื้อหา ผู้สื่อสาร แพลตฟอร์ม

กลุ่มเนื้อหา

จาก 10 ประเด็นที่ได้รับความสนใจและมีการสื่อสารในสื่อสังคมออนไลน์มากที่สุดในช่วงเดือนตุลาคม 2567 สามารถจำแนกเนื้อหาออกเป็น 3 กลุ่ม ตามจำนวน Engagement ดังนี้

อันดับหนึ่ง กลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง รวม 217,355,959 Engagement คิดเป็น 55.36% จาก 7 ประเด็น ประกอบด้วย อันดับ 2 หมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระ (84,970,100 Engagement) ตามด้วยภาพยนตร์ธี่หยด 2 (40,502,912 Engagement), การประกวด Miss Grand International 2024 (29,871,433 Engagement), คอนเสิร์ต Knock Knock Knock: BUS 1st THAILAND FANCON TOUR (28,391,620 Engagement), ซีรีส์ปิ่นภักดิ์ (13,948,360 Engagement), ละครแม่หยัว (10,057,059 Engagement) และละครหนึ่งในร้อย (9,614,475 Engagement)

อันดับสอง กลุ่มเนื้อหาอาชญากรรม อุบัติเหตุ พบ 2 ประเด็น จำนวน 145,102,922 Engagement คิดเป็น 36.95% คือคดีดิไอคอนกรุ๊ป (103,965,017 Engagement) ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา (41,137,905 Engagement)

อันดับสาม กลุ่มเนื้อหาศาสนา ความเชื่อ พบ 1 ประเด็น จำนวน 30,190,697 Engagement คิดเป็น 7.69% คือ อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม

จะเห็นว่า กลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง ยังคงเป็นกลุ่มเนื้อหาหลักที่ได้รับ Engagement สูงติด 10 อันดับแรก ของทุกเดือน โดยในเดือนตุลาคม 2567 พบว่าหมูเด้งยังคงได้รับความนิยมใกล้เคียงกับเดือนกันยายน 2567 แต่ด้วยในเดือนนี้มีประเด็นคดีดิไอคอนกรุ๊ปซึ่งมีผู้เสียหายจำนวนมากและมีผู้มีชื่อเสียง ดารา นักแสดงที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทำให้สื่อสังคมออนไลน์ให้ความสนใจมากกว่าหมูเด้ง

กลุ่มเนื้อหาที่ได้รับความสนใจมากที่สุดจำแนกตามผู้สื่อสารและแพลตฟอร์ม

กลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง มีกลุ่มผู้สื่อสารที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วม หรือมี Engagement มากที่สุด คือ ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ (54.52%) รองลงมา ได้แก่ ผู้ใช้งานทั่วไป (38.30%), สื่อ สำนักข่าว (6.93%) และ แบรนด์ (0.25%) โดยมี TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement มากที่สุดที่ 58.58% รองลงมาได้แก่ X (15.04%), Facebook (13.90%), Instagram (10.67%) และ YouTube (1.81%)

กลุ่มเนื้อหาอาชญากรรม อุบัติเหตุ มีกลุ่มผู้สื่อสารที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วม หรือมี Engagement มากที่สุด คือ สื่อ สำนักข่าว (47.23%) รองลงมา ได้แก่สื่อ ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ (38.26%), ผู้ใช้งานทั่วไป (14.06%) และ อื่น ๆ ได้แก่ พรรคการเมือง (0.28%) แบรนด์ (0.15%) ภาครัฐ (0.02%) โดยมี TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement มากที่สุดที่ 49.70% รองลงมาได้แก่ Facebook (35.65%), YouTube (5.52%), X (4.99%) และ Instagram (4.14%)

กลุ่มเนื้อหาศาสนา ความเชื่อ มีกลุ่มผู้สื่อสารที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วม หรือมี Engagement มากที่สุด คือ ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ (38.37%) รองลงมา ได้แก่ ผู้ใช้งานทั่วไป (33.38%), สื่อ สำนักข่าว (28.21%) และ แบรนด์ (0.04%) โดยมี TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement มากที่สุดที่ 68.29% รองลงมาได้แก่ Facebook (24.83%), YouTube (4.58%), Instagram (1.25%) และ X (1.05%)

กลุ่มผู้สื่อสาร ในภาพรวมช่วงเดือนตุลาคม 2567 พบว่ากลุ่มผู้สื่อสารที่สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ในสื่อออนไลน์ สามารถแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มหลัก ได้แก่ ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ (47.27%) ตามด้วย ผู้ใช้งานทั่วไป ในสัดส่วน (28.97%), สื่อ สำนักข่าว (23.46%), แบรนด์ (0.20%) พรรคการเมือง (0.09%) และภาครัฐ (0.01%)

กลุ่มผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) สูงสุดในกลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง จากการโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหมูเด้ง เช่น การโพสต์ภาพชีวิตประจำวันของหมูเด้ง การเต้น Cover เพลงหมูเด้ง รวมถึงครูบาเฮงที่สอนธรรมะโดยการใช้ตัวละครฮิปโปที่ชื่อหมูเด้ง ส่วนภาพยนตร์ธี่หยด 2 เป็นการโปรโมทภาพยนตร์ตามสื่อช่องทางต่าง ๆ ส่วนในกลุ่มเนื้อหาอื่น ๆ ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์มีบทบาทในการสรุปประเด็นที่เกิดขึ้น เช่น สรุปประเด็นในคดีดิไอคอน ทำความรู้จักกับอาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม เป็นต้น ตัวอย่างกลุ่มมีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ที่สามารถสร้าง Engagement ได้สูง ได้แก่ pairoat.edit2, khamoo.andthegang, gurion99 เป็นต้น

ผู้ใช้งานทั่วไป สามารถสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ได้มากที่สุดในกลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง โดยส่วนใหญ่เกิดจากการแชร์ภาพหมูเด้ง, คอนเสิร์ต Knock Knock Knock: BUS1st THAILAND FANCON TOUR, ภาพยนตร์ธี่หยด 2, การประกวด Miss Grand International 2024, ละครแม่หยัว, ละครหนึ่งในร้อย และซีรีส์ปิ่นภักดิ์ รวมถึงการกล่าวถึงอาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม โดยการแชร์ข้อมูลคำสอนของอาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม ส่วนประเด็นคดีดิไอคอนกรุ๊ป และไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา เป็นการแชร์ข้อมูล การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น การแชร์ภาพอุบัติเหตุ การตัดคลิปข่าวมาโพสต์ซ้ำ การแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นต้น

สื่อ สำนักข่าว สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) สูงสุดในกลุ่มเนื้อหาอาชญากรรรม อุบัติเหตุ จาก คดีดิไอคอนกรุ๊ป และไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา โดยสื่อ สำนักข่าวยังคงมีบทบาทสำคัญในการนำเสนอข่าวที่มีเนื้อหาหนักอย่างอาชญากรรม อุบัติเหตุ ด้วยผู้สื่อข่าวสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลและมีทักษะในการนำเสนอที่ดีกว่าผู้สื่อสารกลุ่มอื่น ๆ

ส่วนกลุ่มผู้สื่อสารอื่น ๆ ได้แก่ แบรนด์, พรรคการเมือง และ ภาครัฐ พบว่า แม้ในภาพรวมสร้าง Engagement ได้น้อยกว่า 3 กลุ่มแรก แต่ก็สามารถสร้างการมีส่วนร่วมในกลุ่มเนื้อหาอาชญากรรม อุบัติเหตุ, สื่อ สิ่งบันเทิง, ศาสนาและความเชื่อ แม้จะไม่ได้เป็นผู้สื่อสารหลัก ยกตัวอย่างประเด็นคดีดิไอคอนกรุ๊ป พบว่าห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม แถลงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับดิไอคอนกรุ๊ป หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติโพสต์ความคืบหน้าของคดีดิไอคอนกรุ๊ป เป็นต้น

แพลตฟอร์มการสื่อสาร

จากการสำรวจ 10 อันดับประเด็นที่ได้รับความสนใจสูงสุดในโลกออนไลน์ช่วงเดือนตุลาคม 2567 ในภาพรวมพบว่าแพลตฟอร์มที่สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) มากที่สุดเรียงตามลำดับคือ TikTok ซึ่งมีสัดส่วน 56.04% ตามด้วย Facebook 22.78%, X 10.25%, Instagram 7.54% และ YouTube 3.39%

 เมื่อพิจารณารายแพลตฟอร์ม พบว่า TikTok ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) สูงที่สุดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 ในกลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง สาเหตุมาจากความนิยมในเนื้อหาวิดีโอที่ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ชื่นชอบในเดือนนี้ เช่น การพากย์เสียงหมูเด้ง, การตามติดหมูเด้งในอิริยาบถต่าง ๆ, การเผยแพร่วิดีโอที่เกี่ยวข้องกับหมูเด้ง, การเผยแพร่คำสอนพุทธศาสนาของอาจารย์เบียร์ รวมถึงการสรุปเหตุการณ์ของคดีดิไอคอน ซึ่ง TikTok สามารถตอบโจทย์การสื่อสาร และสร้าง Engagement จากคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอสั้นได้ดีกว่าแพลตฟอร์มอื่น

ขณะที่แพลตฟอร์ม X พบว่า เด่นในกลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง โดยเฉพาะจากซีรีส์ปิ่นภักดิ์ ซึ่งมี Engagement บนแพลตฟอร์ม X เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนตุลาคม 2567 ที่ 73.37% ทั้งนี้ การสื่อสารในแพลตฟอร์ม X ส่วนใหญ่จะเป็นการสื่อสารหรือแสดงความสนใจในเรื่องเฉพาะเจาะจง เช่น ดารา นักแสดงวัยรุ่น คอนเสิร์ต หรือซีรีส์ที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายทางเพศ หรือเนื้อหาที่ต้องการความสดใหม่และการสื่อสารแบบเรียลไทม์ จากกลุ่มแฟนคลับละคร รวมถึงแฟนคลับนักแสดงที่ชื่นชอบละครแนวแซฟฟิค หรือ หญิงรักหญิง ที่พบว่าเริ่มเป็นที่นิยมหรือมีการสื่อสารใน X มากขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2567

แม้ X จะเป็นแพลตฟอร์มที่กลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง สามารถสร้าง Engagement ได้สูงต่อเนื่อง แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตระหนกในสังคม เช่น เหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา X ก็เป็นช่องทางในการแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การอัพเดทสถานการณ์ รวมถึงการสดุดีต่อวีรกรรมของครูที่เสียชีวิตจากการปกป้องเด็กนักเรียน ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับเหตุการณ์กราดยิงที่สยามพารากอน ที่ X มีบทบาทในการอัพเดทสถานการณ์ขณะเกิดเหตุ การสื่อสารเพื่อหาพื้นที่ปลอดภัยของผู้ประสบเหตุ ทำให้ X เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการอัพเดทข้อมูลข่าวสารที่ทันการณ์หากเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ หรือเป็นประเด็นที่มีความสนใจเป็นวงกว้าง

Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement จาก อาชญากรรม อุบัติเหตุ และ สื่อ สิ่งบันเทิง โดยกลุ่มเนื้อหา อาชญากรรม อุบัติเหตุ จะมาจากสื่อหรือนักข่าวที่ลงพื้นที่เป็นตัวกลางในการสื่อสารเพื่อติดตาม เพื่อรายงานเรื่องราวที่สังคมกำลังให้ความสนใจ เช่น ภาพเหตุการณ์การเข้าจับกุมบอสพอล วรัตน์พล และทีมผู้บริหารดิไอคอนกรุ๊ป, การอัพเดทเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาการดีเบตในประเด็นความเชื่อเรื่องดวงระหว่างอาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม กับหมอดู ในรายการโหนกระแส เป็นต้น ส่วนสื่อ สิ่งบันเทิง เป็นการโปรโมท ละครแม่หยัว ละครหนึ่งในร้อย จากช่องทางอย่างเป็นทางการอย่าง One31 และ ช่อง 3 ทำให้ Facebook มีบทบาทในการสร้าง Engagement ของกลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง ด้วยเช่นกัน

Instagram สร้าง Engagement ได้สูง ในกลุ่มเนื้อหา สื่อ สิ่งบันเทิง และอาชญากรรม อุบัติเหตุ เนื่องจากเป็นช่องทางที่สามารถแบ่งปันภาพถ่ายได้ดีที่สุด และเป็นช่องทางที่ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ส่วนใหญ่เลือกใช้มากในทุกกลุ่มเนื้อหา เช่น การแชร์ภาพบรรยากาศคอนเสิร์ต, การโพสต์โปรโมทละครของนักแสดง, การโพสต์ภาพผู้เข้าประกวด Miss Grand International 2024, การแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา เป็นต้น

YouTube เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement ได้สูงจากกลุ่มเนื้อหาอาชญากรรม อุบัติเหตุ โดยเฉพาะจากสื่อ สำนักข่าว ทั้งนี้ เนื่องจากคดีดิไอคอนกรุ๊ป และเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา เป็นประเด็นที่ผู้รับสารต้องการเปิดรับข้อมูลจากสื่อมวลชน ซึ่งถือเป็นแหล่งข่าวที่มีความน่าเชื่อถือ และสามารถลงพื้นที่เพื่อติดตามและรายงานสถานการณ์ได้ดีกว่ากลุ่มผู้สื่อสารอื่น ๆ แต่เป็นที่น่าสนใจว่ากลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิงที่อยู่ใน YouTube มักถูกใช้โดยผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ เช่น คอนเทนต์ดูธี่หยด 2 คนเดียว การโพสต์ซีรี่ส์หรือละครตอนต่าง ๆ บนช่องทางอย่างเป็นทางการของช่องที่ออกอากาศหรือจากทางผู้สร้างละคร เป็นต้น

กล่าวโดยสรุป การสื่อสารออนไลน์ของเดือนตุลาคม 2567 ในภาพรวม 10 อันดับแรก พบว่า กลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง ได้ความสนใจสูงถึง 7 อันดับ คิดเป็นสัดส่วนที่ 55.36% โดยนับรวม หมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระ (อันดับที่ 2) นอกนั้นเป็นสื่อและกิจกรรมให้ความบันเทิง คือ ภาพยนตร์ธี่หยด 2 (อันดับที่ 4) การประกวด Miss Grand International 2024 (อันดับที่ 6) คอนเสิร์ต Knock Knock Knock: BUS1st THAILAND FANCON TOUR (อันดับ 7) ซีรีส์ปิ่นภักดิ์ (อันดับ 8) ละครแม่หยัว (อันดับ 9) ละครหนึ่งในร้อย (อันดับ 10) ตามด้วยกลุ่มเนื้อหา อาชญากรรม อุบัติเหตุ คิดเป็นสัดส่วนที่ 36.95% จาก 2 ประเด็น ได้แก่ ประเด็น คดีดิไอคอนกรุ๊ป (อันดับ 1) ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา (อันดับ 3) นอกจากนี้ ยังพบกลุ่มเนื้อหาศาสนา ความเชื่อ คิดเป็นสัดส่วนที่ 7.69% จากประเด็นอาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม (อันดับ 5)

ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์สร้าง Enagaement ได้มากกว่าผู้ใช้งานทั่วไป

             ในเดือนกันยายนที่ผ่านมาผู้ใช้งานทั่วไปมีบทบาทในการสร้าง Engagement ได้สูงที่สุดเมื่อเทียบกับผู้สื่อสารกลุ่มอื่น แต่ในเดือนตุลาคม 2567 พบว่า ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์สามารถสร้าง Engagement สูงที่สุด ทั้งนี้อาจมาจาก มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเนื้อหา สื่อ สิ่งบันเทิง มากถึง 7 ประเด็น นอกจากนั้นในกลุ่มเนื้อหาอื่น อย่างศาสนา ความเชื่อ ที่ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์สามารถสร้าง Engagement ได้เป็นอันดับที่ 1 ในขณะเดียวกันในกลุ่มเนื้อหาอาชญากรรม อุบัติเหตุ ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ก็สามารถสร้าง Engagement ได้เป็นอันดับที่ 2 ส่งผลในเดือนตุลาคม 2567 ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ สามารถสร้าง Engagement มาเป็นอันดับที่ 1

หมูเด้งยังคงได้รับความนิยมใกล้เคียงกับเดือนที่แล้ว / สื่อ สิ่งบันเทิงยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

หมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 แต่ในเดือนตุลาคม 2567 นอกจากการนำเสนอความน่ารักของหมูเด้งแล้ว ยังพบการนำชื่อของหมูเด้งไปเป็นส่วนประกอบของเนื้อหาแล้วโพสต์ลงในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อให้ได้รับความนิยม เช่น การแต่งเพลงหมูเด้ง การทำหมูเด้งให้เป็นการ์ตูน เป็นต้น ทั้งนี้วิดิโอเหล่านั้นก็ประสบความสำเร็จในแง่ของ Engagement ยกตัวอย่าง บัญชี krubaheng ที่นำหมูเด้งไปเป็นตัวละครในวิดีโอของตนเองแล้วประสบความสำเร็จ ได้รับ Engagement สูง ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้ทำให้หมูเด้งได้รับความนิยมในเดือนตุลาคมนี้ใกล้เคียงกับเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ละครหนึ่งในร้อย แม้จะอยู่ในกลุ่มเนื้อหา สื่อ สิ่งบันเทิง แต่กลับมีผู้สื่อสารหลักเป็น สื่อ สำนักข่าว เนื่องจาก Engagement ส่วนใหญ่มาจากการโปรโมทละครของช่องทางอย่างเป็นทางการของช่อง 3  ซึ่งเป็นที่น่าสนใจว่า จากการสำรวจข้อมูลที่ผ่านมา กลุ่มสื่อ สำนักข่าว มักมีบทบาทมากในการสื่อสาร กลุ่มเนื้อหา อาชญากรรม อุบัติเหตุ และการเมือง ในขณะที่กลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป เช่น กลุ่มแฟนคลับ มักมีบทบาทสูงในการสื่อสารเรื่องบันเทิง เช่น ละครที่เป็นกระแสต่างๆ  แต่ผลการสำรวจครั้งนี้พบว่า ช่อง 3 คือผู้สื่อสารหลักเพื่อโปรโมทละครของช่อง จนทำให้ในภาพรวม Engagement ของละครหนึ่งในร้อยส่วนใหญ่มาจากกลุ่มสื่อ สำนักข่าว เป็นหลัก  

 คดีดิไอคอนกรุ๊ปขึ้นมาเป็นอันดับที่ 1 แซงหน้าหมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระ

คดีดิไอคอนกรุ๊ปเป็นประเด็นที่ได้รับ Engagement เป็นอันดับที่ 1 สาเหตุจากเกิดจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก และมีผู้ต้องหาเป็นผู้มีชื่อเสียงทั้งดารา นักแสดง พิธีกร ส่งผลให้สื่อสังคมออนไลน์ให้ความสนใจเป็นอย่างมากจนแซงหมูเด้งลูก ฮิปโปแคระ ที่ได้รับ Engagement เป็นอันดับที่ 1 ในเดือนกันยายน

เหตุการณ์สะเทือนขวัญแม้ได้รับความสนใจเป็นช่วงเวลาที่สั้น แต่สามารถสร้าง Engagement ที่สูง

 จากเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของเด็กนักเรียน จนเป็นเหตุให้มีนักเรียนและครูเสียชีวิตจำนวน 23 คน ทำให้สังคมออนไลน์อยู่ในความตื่นตระหนกและแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้จำนวน Engagement พุ่งขึ้นสูงในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ และลดลงอย่างมากหลังจากผ่านไปเพียง 2 วัน ซึ่งรูปแบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อเดือนตุลาคม 2566 ที่มีเหตุการณ์ยิงใส่ฝูงชนที่ห้างสยามพารากอน โดยในช่วงเวลาเกิดเหตุพบว่าจำนวน Engagement พุ่งขึ้นสูง และลดระดับลงอย่างรวดเร็วเมื่อเวลาผ่านไปเพียง 1 -2 วัน

ทั้งนี้เหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษายังมีประเด็นที่สอดแทรกขึ้นมาเช่น ความกังวลเรื่องการทัศนศึกษาของเด็กเล็ก หรือความตื่นตัวในเรื่องรถบัสนำเที่ยวที่ไม่ได้มาตรฐานตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด แต่กลับสามารถนำรถออกมาให้บริการได้ แต่ประเด็นดังกล่าวก็เลือนหายไปจากการสื่อสารออนไลน์ในเวลาไม่นาน เช่นเดียวกับกระแสความสนใจในประเด็นอุบัติเหตุอื่น ๆ

ประเด็นที่ไม่ติด 10 อันดับแรก และแนวโน้มความสนใจในภาพรวม

จากการสำรวจข้อมูลในเดือนตุลาคม 2567 ยังพบว่ามีประเด็นเชิงสังคม และข่าวใหญ่อื่น ๆ ที่แม้จะไม่ติด 10 อันดับแรก แต่อยู่ในความสนใจในอันดับที่ 11-20 เช่น คดีนักธุรกิจสาวแจ้งความทนายษิทราข้อหาฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท  (อันดับที่ 11) อุทกภัยที่จังหวัดเชียงใหม่ (อันดับที่ 13) คดีตากใบสิ้นสุดอายุความ (อันดับที่ 15) และพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค (อันดับที่ 17) เป็นต้น 

ความสนใจของโลกออนไลน์ใน 10 อันดับแรก ของเดือนตุลาคม 2567 มีแนวโน้มเหมือนเดือนที่ผ่านมาตั้งแต่ช่วงมกราคม 2567 ที่มักเป็นเรื่องของสื่อ สิ่งบันเทิง เป็นหลัก แต่ถ้ามีประเด็นที่ ส่งผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง หรือเหตุฉุกเฉินสะเทือนอารมณ์ เกิดขึ้นเมื่อใดก็สามารถ ติดอันดับขึ้นมาได้เช่นกัน เช่น คดีดิไอคอนกรุ๊ป ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา  เป็นต้น เป็นที่น่าสนใจว่าในช่วงปลายปี 2567 กลุ่มเนื้อหาเทศกาลอย่างวันลอยกระทง และวันส่งท้ายปีเก่า จะสามารถติด 1 ใน 10 อันดับ ประเด็นที่ถูกกล่าวถึงบนสื่อสังคมออนไลน์เช่นเดียวกับปี 2566 หรือไม่ รวมถึงเทศกาลอื่น ๆ อย่าง คริสต์มาส หรือวันสำคัญ อย่างวันรัฐธรรมนูญ จะถูกกล่าวถึงบนสื่อสังคมออนไลน์มากน้อยเพียงใด

กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ Kick off เวทีสัมมนา 4 ภาค ย้ำบทบาทเครือข่ายสื่อท้องถิ่นและภูมิภาค ร่วมขับเคลื่อนและสร้างระบบนิเวศสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์  ด้าน 50 ผู้แทนเครือข่ายสื่อภาคเหนือตอนล่าง ขานรับร่วมนำเสนอแผนงานสร้างสังคมเข้มแข็ง

(16-17 พฤศจิกายน 2567) ผู้แทนจากเครือข่ายสื่อชุมชนระดับภูมิภาคในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง กว่า 50 เครือข่าย ทั้งผู้ผลิตสื่อมืออาชีพ สื่อท้องถิ่น สื่อทางเลือกและหน่วยงานที่ใช้สื่อเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนปัญหาและพัฒนาสังคม ได้เข้าร่วมการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ครั้งที่ 1 ณ จังหวัดพิษณุโลก ภายใต้ชื่องานเวที “สัมมนา 4 ภาค ขับเคลื่อนเครือข่ายสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ สู่ชุมชน สร้างสังคมเข้มแข็ง” ปีที่ 2  ซึ่งจัดขึ้นโดยคณะอนุกรรมการเกี่ยวกับการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

          นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์  ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสื่อสารมวลชน ประธานอนุกรรมการเกี่ยวกับการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวว่า “การสัมมนาเชิงปฏิบัติการฯ ในระดับภูมิภาค มีการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 2 โดยปีแรกมีผู้เข้าร่วมกว่า 200 เครือข่าย จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ทำให้เกิดการสร้างเครือข่ายและส่งต่อข้อมูลสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ออกไปอย่างกว้างขวาง เกิดการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันระหว่างเครือข่ายสื่อในระดับภูมิภาค มีการปรึกษาหารือกันก่อนจะเสนอแผนงานเพื่อขอทุนสนับสนุน ทำให้เกิดการเชื่อมโยงการทำงานร่วมกัน
ซึ่งกองทุนฯ เห็นว่าเครือข่ายสื่อระดับภูมิภาคเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงสังคม และช่วยให้ประชาชนผู้รับสื่อมีความรู้เท่าทันสื่อ นอกจากนี้กองทุนฯ ยังมีโครงการที่จะสนับสนุนและยกระดับการทำงานของเครือข่ายในระดับภูมิภาคให้เกิดความเข้มแข็งยิ่งขึ้น

          ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.สุนทรี ทับทิมไทย ชัยสัมฤทธิ์โชค ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการคุ้มครองผู้บริโภค รองประธานคณะอนุกรรมการฯ กล่าวขอบคุณผู้เข้าร่วมกิจกรรม และเห็นว่างานสัมมนาเชิงปฏิบัติการฯ ในระดับภูมิภาคนี้ เป็นการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการที่ทำให้ได้เห็นถึงพลังและความตั้งใจของภาคีเครือข่ายในการร่วมงานกับกองทุนฯ ซึ่งทางกองทุนฯเองก็มีแนวทางในการสนับสนุนการทำงานของเครือข่ายอย่างต่อเนื่องต่อไป

          จากนั้น ดร. ชำนาญ งามมณีอุดม รองผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ได้ขึ้นบรรยายพิเศษในหัวข้อ “10 ปี กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงสู่เส้นทางอนาคต” โดยเผยแผนงานในอนาคตของกองทุนฯ 3 ด้าน ได้แก่ การสร้าง TMF Academy ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่ให้ความรู้และทักษะเฉพาะด้านสื่อสารมวลชน  การขับเคลื่อนงานสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และการสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย จากนั้นได้บรรยายต่อหัวข้อ “คิด เขียน ข้อเสนอโครงการฯ ขับเคลื่อนและพัฒนาเครือข่ายสื่อฯ ที่ยั่งยืน”

“ในปีที่ 10 ที่ผ่านมานี้ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ยังคงสนับสนุนให้ภาคีที่มีเจตนารมณ์ตรงกัน ร่วมกันออกแบบสื่อพลเมืองและแผนงาน โดยเน้นแผนงานที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง สร้างผลกระทบต่อสังคม ควบคู่ไปกับการกระจายการสนับสนุนไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ให้ครอบคลุม เพื่อแก้ไขปัญหาในแต่ละพื้นที่นำไปสู่สังคมที่ดีขึ้น” ดร.ชำนาญ กล่าว

          ภายในงานยังมีเวทีเสวนา “แลกเปลี่ยน เรียนรู้ ร่วมกันสร้างนิเวศสื่อปลอดภัยสู่สังคม” โดยมีวิทยากรตัวแทนในภาคเหนือ ที่เป็นกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จ หรือ Success Cases มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์

          เริ่มด้วย อาจาราย์ยรรยงวรกร ทองแย้ม อาจารย์ผู้สอนประจำคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มผลิตสื่อภาพยนตร์และสารคดี ดึงเสน่ห์ตลาดใต้ ปัดฝุ่นทุนทางวัฒนธรรมของพิษณุโลกที่หลายคนหลงลืมให้กลับมาโลดแล่น ได้ให้คำแนะนำว่า การทำสื่อด้านวัฒนธรรมต้องมีความ “จริงใจ” และมีการเก็บข้อมูลจากคนในพื้นที่ คนทำสื่อจะต้องรักษาสัมพันธภาพที่ดีกับคนในพื้นที่ และเปิดพื้นที่ให้คนในพื้นที่ซึ่งเป็นเจ้าของเรื่องราวเป็นผู้บอกเล่าด้วยตนเอง จึงจะเกิดเป็น “เนื้อหา” ที่มีพลัง คาดหวังมีการจับมือเครือข่ายพากันขยับและขับเคลื่อนสังคมต่อไป

          จากนั้น นายจุมพล อภิสุข นักขับเคลื่อนสื่อซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับทุนจากกองทุนฯ ภายใต้ชื่อโครงการ “เทศกาลน่าน” หรือ Nan Festival กล่าวว่า “จังหวัดน่านเป็นจังหวัดที่ไม่มีมหาวิทยาลัย คนหนุ่มสาวในวัยเรียนและคนทำงานจึงต้องออกไปจากพื้นที่  แต่น่านมีความหลากหลายทางศิลปะและวัฒนธรรม จึงพยายามเชิญชวนคนหนุ่มสาวกลับบ้าน รวมทั้งดึงคนในชุมชน ทั้งเด็ก ผู้สูงวัย และศิลปินให้มาทำงานด้วยกันผ่านการจัดกิจกรรม เช่น
จัดนิทรรศการวาดเขียนเมืองน่าน เปิดรับเด็กและเยาวชนมาร่วมกันผลิตหนังสั้น เป็นต้น เพื่อให้เกิดพื้นที่ในการสืบทอดวัฒนธรรมบางอย่างที่กำลังเลือนหายไป

          ในส่วนของ นายปริญญา แทนวงษ์ นักขับเคลื่อนสื่อภาคประชาชน จังหวัดพิษณุโลก กับบทบาทนักข่าวพลเมือง ที่ใช้สื่อนำเสนอปัญหาชุมชน ทั้งภัยแล้ง น้ำท่วม ภัยพิบัติ มีความภาคภูมิใจที่มีโอกาสได้นำเสนอผลงานผ่านเวทีสัมมนาครั้งนี้ โดยคาดหวังว่าจะสามารถเป็นต้นแบบและสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักข่าวพลเมืองภาคประชาชน ร่วมกันสร้างเครือข่ายและแลกเปลี่ยนประเด็นข่าวกันในอนาคต

          ในช่วงท้ายของการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ มีการระดมความคิดเห็น และนำเสนอแผนงานที่เกิดจากการเรียนรู้กระบวนการออกแบบโครงการแบบ “Problem-based Design” ในการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์เพื่อขับเคลื่อนสังคม โดยตัวแทนจากภาคีเครือข่าย เช่น โครงการ “เสียงสะท้อนจากบางระกำ” ที่ต้องการนำเสนอมุมมองที่แตกต่างและผลกระทบในการใช้พื้นที่ อ.บางระกำเป็นพื้นที่รองรับน้ำท่วมขัง หรือ“บางระกำโมเดล” โดยอาจนำเสนอเป็นบทเพลง หนังสั้น หรือสารคดี หรือโครงการ “ล่า ท้า โกง” ที่มีเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาของ

ประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งมักถูกหลอกลวงโดยมิจฉาชีพออนไลน์ หรือคอลเซ็นเตอร์ โดยจะฝึกอบรมเยาวชนมาร่วมกันผลิตสื่อให้เกิดการเท่าทันเล่ห์เหลี่ยมมิจฉาชีพ เป็นต้น

          นอกจากนี้ ยังมีความคิดเห็นบางส่วนจากเครือข่ายสื่อชุมชนจังหวัดพิษณุโลก ที่กล่าวว่า เวทีสัมมนาในครั้งนี้ เป็นการสร้างเครือข่าย ร่วมกันใช้พลังความคิดสร้างสรรค์ สร้างสื่อที่ทรงพลัง เกิดแรงบันดาลใจในการเขียนแผนงานนำเสนอกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เช่น สารคดีสั้นอาหารถิ่นพิษณุโลก สื่อสำหรับเด็กและเยาวชนเพื่อให้เท่าทันสื่อ คลิป VDO ภาษามือ นำเสนอเรื่องราวที่มีประโยชน์สำหรับชมรมคนหูหนวก จังหวัดพิษณุโลก เป็นต้น

          สำหรับเวทีสัมมนา 4 ภาค “ขับเคลื่อนเครือข่ายสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ สู่ชุมชน สร้างสังคมเข้มแข็ง” ปีที่ 2 ในครั้งต่อไป จะจัดขึ้นที่ภาคกลางที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 30 พ.ย.- 1 ธ.ค. 2567 ติดตามรายละเอียดได้ที่ เฟซบุ๊กเพจ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และ https://www.thaimediafund.or.th/

กองทุนสื่อ ร่วมกับ สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทยจัดงาน AdPeople Symposium 2024 ทุกคนล้วนมีพลังครีเอเตอร์มอบรางวัล Best Safety & Creativity Content Award

(21 พ.ย. 67) ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ มอบหมาย ดร.ชำนาญ งามมณีอุดม รองผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เข้าร่วมงานประกาศรางวัล AdPeople AWARDS 2024 ทุกคนล้วนมีพลังครีเอเตอร์ จัดโดย สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ณ สามย่านมิตรทาวน์ ภายใต้ธีม “Creativity for Peoplekind” เพื่อปลุกพลังครีเอเตอร์ในตัวตนคนทุกสายอาชีพ ตอกย้ำว่า “การโฆษณา” ไม่ได้เป็นโดเมนเฉพาะของ “คนโฆษณา” อีกต่อไป แต่อยู่ในมือของทุกคน

ในปีนี้ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีและยั่งยืนให้กับสังคม โดยการจัดงานสัมมนาและ Workshop อัดแน่น 2 วันเต็ม ในทั้งหมด 3 เวที กว่า 33 หัวข้อสัมมนาโดย 90 Speakers ชั้นนำหลากหลายเจนทั่วโลก และ 12 Workshops เพื่ออัปสกิลปูทางสู่มืออาชีพที่หาไม่ได้จากงานไหน ครอบคลุมทั้งเรื่อง BRAND, MARKETING, CORPORATE ตลอดระยะเวลา 2 วัน ระหว่างวันที่ 20 – 21 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา

โดยกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมมอบรางวัล Best Safety & Creativity Content Award ให้กับผลงานครอบครัวน้องเกี๊ยว ไม่เหมือนเดิม  ผลงานจากกลุ่ม A โครงการ Academy of Changemaker Excellence (ACE) บริษัท INSIDE THE SANDBOX

นิทานสำหรับพ่อแม่เพื่อช่วยสื่อสารเรื่องการหย่าร้างให้ลูกเข้าใจ ภายใต้หลักจิตวิทยาผ่านความร่วมมือกับคุณหมอเด็ก และ นักจิตวิทยาพัฒนาการโดยตรง ผู้ที่สนใจสามารถเข้าอ่านได้ที่ https://thehearttale.com และร่วมแบ่งปันประเด็นเรื่องของเด็กและการหย่าร้างได้ผ่าน hashtag #ครอบครัวน้องเกี๊ยว

สำหรับการประกาศผลรางวัล ‘AdPeople Awards & Symposium 2024’ ปีนี้ มีความพิเศษยิ่งกว่าเดิม โดยเป็นปีแรกที่เปิดกว้างเวทีสร้างสรรค์เพื่อทุกคนอย่างแท้จริงกับการแจ้งเกิดหมวดรางวัล AdPeople From Real People Awards ขยายจักรวาลการมอบรางวัลพิเศษตัดสินโดย Real People จากหลากหลายสายอาชีพ อาทิ ทหาร ตำรวจ ดีเจ สาวโรงงาน หมอ แม่ค้า วินมอไซค์ มาร่วมเป็นกรรมการตัดสิน และ AdLegend ที่ชวนนักโฆษณาระดับตำนานหวนคืนสู่การดูงานโฆษณาอีกครั้ง โดยมีผู้สร้างสรรค์ผลงานจากหลากหลายสาขาที่สามารถคว้ารางวัล Best & Gold ไปครอง การมอบรางวัลในครั้งนี้ เพื่อยกย่องและให้กำลังใจผู้ผลิตสื่อโฆษณา ที่มีความทุ่มเทสร้างสรรค์ผลงานในทุกรูปแบบ เพื่อขับเคลื่อนความคิดสร้างสรรค์ ไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมสื่อสร้างสรรค์ สังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และความเป็นอยู่รอบตัวให้ดีขึ้น

กิจกรรมเวทีส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน 5 ภูมิภาค ครั้งที่ 3 ภาคใต้

กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดกิจกรรมเวทีส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน 5 ภูมิภาค : “TMF MEDIA PARTNERSHIPS รวมพลังสร้างนิเวศสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์” ครั้งที่ 3 ภาคใต้  วันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 มุ่งเน้นให้คนในสังคมรวมพลัง ร่วมกันสร้างสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เพื่อการรู้เท่าทันสื่อ และเกิดการขับเคลื่อนทางสังคมที่มั่นคงและยั่งยืน ภายในงานได้รับเกียรติจาก คุณสกุล ดำรงเกียรติกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง, ดร.สุธิภรณ์ ตรึกตรอง รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง, คุณทรงวุฒิ แสงไฟ, คุณศศวรรณ จิรายุส, คุณวีระพงษ์ กังวานนวกุล ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการมีส่วนร่วมและสร้างเครือข่าย คุณพัชรพร พงษ์ทัดศิริกุล ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อ แลพระอิทธิยาวัธย์ โชติปัญโญ  ร่วมงาน ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง จังหวัดตรัง

ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ บรรยายพิเศษในหัวข้อ “เครือข่ายยุค AI ขับเคลื่อนอย่างไรให้ In trend” กล่าวว่า

กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนมีทักษะในการรู้เท่าทันสื่อสามารถนำองค์ความรู้ไปพัฒนาตนเอง พร้อมทั้งส่งเสริมการผลิตสื่อให้ปลอดภัยและสร้างสรรค์ เป็นประโยชน์ต่อชุมชน และสังคม อีกทั้งยังส่งเสริมให้เกิดการเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์ โดยการรวมพลังของหน่วยงาน องค์กร ภาครัฐ ภาควิชาชีพ ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม และประชาชนในทุกภาคส่วน เพื่อสร้างนิเวศสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ไปด้วยกัน เพื่อให้สอดคล้องกับบริบททางสังคมและวัฒนธรรมในยุคที่เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งมิติด้านสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว AI เข้ามามีบทบาทในวิถีการดำเนินชีวิตของมนุษย์มากขึ้น ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่มีผลกระทบกับมนุษย์โดยตรง หากประชาชนได้รับองค์ความรู้ และมีความเข้าใจที่ถูกต้องก็จะสามารถเตรียมความพร้อม และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เล็งเห็นถึงความสำคัญของภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อนสังคมให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว รวมทั้งการพัฒนาศักยภาพภาคีเครือข่ายในการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จึงเป็นที่มาของการจัดกิจกรรมเวทีส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน 5 ภูมิภาค : “TMF MEDIA PARTNERSHIPS รวมพลังสร้างนิเวศสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์” ในวันนี้

นอกจากนี้ ภายในงานยังจัดเวทีเสวนา โดยมีตัวแทนจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ตัวแทนจากโครงการที่ได้รับการการสนับสนุนทุน และภาคีเครือข่ายนักสื่อสารในพื้นที่ มาร่วมพูดคุยกันในหัวข้อ “TMF MEDIA PARTNERSHIPS รวมพลังสร้างนิเวศสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์” โดยวิทยากรผู้ร่วมดำเนินรายการเวทีส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน 5 ภูมิภาค ได้แก่

1. คุณทรงวุฒิ แสงไฟ

ตำแหน่ง หัวหน้าโครงการศิลปะบนชายหาด

2. คุณศศวรรณ จิรายุส

ตำแหน่ง ผู้ร่วมดำเนินงานโครงการสื่อธรรมสร้างสรรค์สังคม สติสเปซ

3. พระอิทธิยาวัธย์ โชติปัญโญ

ตำแหน่ง พระนักกิจกรรม วัดนิคมประทีป จังหวัดตรัง

4. คุณวีระพงษ์ กังวานนวกุล

ตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการมีส่วนร่วมและสร้างเครือข่าย

5. คุณพัชรพร พงษ์ทัดศิริกุล

ตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อ

หลังจากนั้นในช่วงบ่ายมีกิจกรรม Workshop “TMF MEDIA PARTNERSHIPS รวมพลังสร้างสื่อสร้างสรรค์ เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม” ซึ่งมีการแบ่งผู้เข้าร่วมงานออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 สร้างสื่อสร้างคน กลุ่มที่ 2 รณรงค์รู้เท่าทันสื่อ กลุ่มที่ 3 เครือข่ายแบ่งปันแลกเปลี่ยน

 

ทั้งนี้กิจกรรมเวทีส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน 5 ภูมิภาค ในปี 2567 กำหนดจัดครั้งต่อไป ครั้งที่ 4 ภาคกลาง ภาคตะวันออก และ ภาคตะวันตก: วันที่ 3 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ บางนา

รายละเอียดเพิ่มเติมติดตามได้จากเฟซบุ๊กแฟนเพจ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์