เลือกหน้า

การประชุมคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ครั้งที่ 3/2568

(30 มิถุนายน 2568) นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ประธานอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ครั้งที่ 3/2568

โดยมีคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เข่าร่วมประชุม

ประชุมได้หารือแนวทางการบริหารจัดการกองทุนฯ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศ

ณ ศูนย์ประชุมกระทรวงวัฒนธรรม ชั้น 8 อาคารวัฒนธรรมวิศิษฏ์ กระทรวงวัฒนธรรม

งานสัปดาห์สื่อ อาเซียน-จีน ครั้งที่ 7 เปิดตัวสุดยิ่งใหญ่ยกระดับความร่วมมือด้านสื่อ ในวาระ “ปีทองแห่งมิตรภาพไทย-จีน”

งานสัปดาห์สื่ออาเซียน-จีน ครั้งที่ 7 (The 7th ASEANChina Media Week) ภายใต้หัวข้อ “มุ่งสร้างเส้นทางสายไหมยุคใหม่ ผ่านความร่วมมือสื่อสร้างสรรค์” (More Silk Road Cooperation, New Chapter Communication, Innovative Media Approach) จัดโดย สำนักงานวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติจีน (NRTA), รัฐบาลเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง สาธารณรัฐประชาชนจีน กระทรวงวัฒนธรรม และกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ในวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือ “ปีทองแห่งมิตรภาพไทย–จีน” ระหว่างวันที่ 26 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม 2025 ณ กรุงเทพฯ โดยได้รับเกียรติจาก นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม เป็นตัวแทนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดงาน ร่วมด้วย นายหู ฟาน (Mr.Hu Fan) รองประธานเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง นายต่ง ซิน (Mr.Dong Xin) รองผู้อำนวยการสำนักงานวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติจีน นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พร้อมแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนจากประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 ณ หอประชุมกองทัพเรือ กรุงเทพฯ

นอกจากนี้ ในพิธีเปิดยังมีการแสดงที่ยิ่งใหญ่หลากหลายที่สื่อถึงวัฒนธรรมระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน เริ่มด้วยการแสดงเปิด “บทเพลงแห่งเส้นทางสายไหม” (เพลงอาอีซานานียา, เถียนมี่มี่ และสุขกันเถอะเรา) ขับร้องโดย เจนนิเฟอร์คิ้ม (ไทย) ร่วมกับ Wei Qingqing (จีน), การแสดงนาฏศิลป์ “เส้นสายลายคราม” แสดงโดย สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์, เพลงเมดเล่ย์จีน-อาเซียน ขับร้องโดย Joan Allan Anderson Sinapati (อินโดนีเซีย) Yang Jie (จีน) Carmen Lee Jiawen (มาเลเซีย) Bui Huong Ngan (เวียดนาม), การแสดงสร้างสรรค์ ”ทะเลหมู่ดาว” ขับร้องโดย Huang Ying (จีน), ต้าห์อู๋ พิทยา แซ่ฉั่ว (ไทย) คอรัส Ge Jiayue (จีน), Kun Sovandara (กัมพูชา), Meilyn Catherine (อินโดนีเซีย), Wayakone Souphaluck, Sitpaseuth Ekalack (ลาว), Twal Tar Myat Noe (เมียนมาร์), Eliza Arce (ฟิลิปปินส์), Pinnapa Chokhiew, Supapit Duangan, Sriprugsamatz Narongchai (ไทย), Duong Bao Han, Ha Quang Thieu (Vietnam), การพากย์ละครโทรทัศน์ “ธิดาแห่งขุนเขา” และสารคดี “แม่น้ำหลีเจียง” ก่อนปิดท้ายด้วยการแสดงปิดในเพลง “โผนทะยาน” (Fly Over) สร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่เข้าร่วมงาน

นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า งาน “สัปดาห์สื่ออาเซียน–จีน ครั้งที่ 7” นับเป็นกลไกความร่วมมือด้านสื่อและวัฒนธรรมที่โดดเด่นและต่อเนื่องระหว่างอาเซียนกับสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยถือเป็นเวทีเชิงยุทธศาสตร์ที่เปิดพื้นที่ให้บุคลากร ผู้ผลิตสื่อ และองค์กรที่เกี่ยวข้องกับนิเวศสื่อจากประเทศสมาชิกอาเซียนและสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้พบปะ แลกเปลี่ยน และร่วมกันเสริมสร้างความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ซึ่งรัฐบาลไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างความร่วมมือด้านสื่อระหว่างประเทศ รวมถึงการส่งเสริมและต่อยอดคุณค่าทางวัฒนธรรมไทย หรือ “Soft Power” ผ่านช่องทางสื่อ ซึ่งเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการส่งต่อคุณค่าแห่งวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ และอัตลักษณ์ของไทย สู่เวทีนานาชาติ

ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่า กิจกรรมในงานสัปดาห์สื่ออาเซียน-จีน ครั้งที่ 7 ตลอดปีนี้มีหลากหลายกิจกรรม อาทิ การประชุมความร่วมมืออุตสาหกรรมสื่ออาเซียน-จีน 2025 ในวันที่ 27 มิถุนายน 2025, งานสัปดาห์วัฒนธรรมภาพยนตร์จีน-อาเซียน (ประเทศไทย) 2025 ภายใต้หัวข้อ “สองแผ่นดินร่วมใจ ผสานวิสัยทัศน์เดียวกัน” วันที่ 27 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม 2025, กิจกรรมพากย์และออกอากาศรายการอาเซียน-จีน ครั้งที่ 7 ในเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2025 เผยแพร่ผ่านสื่อภูมิภาคจีน-อาเซียน เป็นต้น กิจกรรมทั้งหมดมุ่งส่งเสริมความร่วมมือด้านสื่อและการแลกเปลี่ยนระดับประชาชนระหว่างจีนกับอาเซียน สนับสนุนความร่วมมือที่มีคุณภาพสูงในอุตสาหกรรมด้านสื่อวิทยุและโทรทัศน์จีน-อาเซียน และร่วมเสริมสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของจีน-อาเซียนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

นายต่ง ซิน (Mr.Dong Xin) รองผู้อำนวยการสำนักงานวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติจีน กล่าวว่า งาน “สัปดาห์สื่อจีน-อาเซียน” ที่ร่วมกันจัดขึ้นนับเป็นงานประจำปีที่ยิ่งใหญ่ในการรักษาความสัมพันธ์ที่ดี การเผยแพร่ผลงานสื่อโสตทัศน์ในวงกว้างได้สร้างสะพานเชื่อมต่อการสื่อสารของประชาชนทั้งสองฝ่าย ตอกย้ำมิตรภาพอันแน่นแฟ้นที่ว่า “จีนไทยเป็นครอบครัวเดียวกัน” เพื่อให้เห็นถึงความปรารถนาดีของคนวงการวิทยุโทรทัศน์และสื่อโสตทัศน์ทั้งสองฝ่ายที่หวังกระชับความร่วมมือและส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ในการร่วมสร้างอนาคตอันงดงามของความร่วมมือด้านสื่อโสตทัศน์จีน-ไทยต่อไป

นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า องค์กรสื่อเป็นหัวใจ และกลไกสำคัญในการเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างประชาชน และการเสริมสร้างความเป็นมิตรในภาคประชาชน อันนำไปสู่การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และสังคมในทุกระดับ ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศ และสันติภาพในภูมิภาคในระยะยาว โดยรัฐบาลไทยมีนโยบายในการส่งเสริมความร่วมมือในอุตสาหกรรมสื่อระหว่างไทย-จีน ในหลายมิติ ทั้งการใช้สื่อเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรม การพัฒนาทักษะด้านการผลิตสื่อ การแลกเปลี่ยนทรัพยากรมนุษย์ในอุตสาหกรรมสื่อสาขาต่างๆ และการยกระดับเทคโนโลยีในการผลิตสื่อในทุกมิติ เพื่อพัฒนาวิชาชีพสื่ออย่างยั่งยืน และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนไปพร้อมกัน

นายหู ฟาน (Mr.Hu Fan) รองประธานเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง กล่าวว่า กว่างซีเป็นพรมแดนและหน้าต่างที่จีนเปิดประเทศและมีความร่วมมือกับอาเซียน ซึ่งถือเป็นพันธมิตรทางการค้ารายใหญ่ที่สุดของกว่างซีมาเป็นเวลา 25 ปีติดต่อกัน สำหรับงานสัปดาห์สื่อจีน-อาเซียน ได้จัดต่อเนื่องกันมา 6 ครั้ง โดยมีความร่วมมือเกือบ 50 โครงการ ส่งเสริมการนำเสนอ 678 รายการผ่าน 450 ช่องทางของทั้งสองฝ่าย และร่วมผลิตผลงานสื่อโสตทัศน์ 30 ชิ้นรวม 50 ตอน โดยเฉพาะปีนี้ ในวาระครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย ซึ่งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เดินทางเยือนประเทศกลุ่มอาเซียน และเป็นสักขีพยานในจีนกับประเทศกลุ่มอาเซียนได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือทวิภาคีจำนวน 105 ฉบับ ครอบคลุมในด้านการเชื่อมต่อกัน AI วัฒนธรรมและการกีฬา ชีวิตความเป็นอยู่ สื่อมีเดีย ฯลฯ เพื่อส่งพลังอันแข็งแกร่งในการสร้างประชาคมจีน-อาเซียนที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมจัดงานมอบรางวัลมนุษย์ต่างวัย Award 2024

22 มิถุนายน 2568 ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ มอบรางวัลมนุษย์ต่างวัย Award 2025 ในงานมนุษย์ต่างวัย FEST 2025 ชีวิตดี…ชีวิต It’s Okay To Be You ซีซัน 2 ณ IMPACT Exhibition Center Hall 8 เพื่อสร้างกำลังใจและแทนคำขอบคุณแก่บุคคลหรือองค์กรต่าง ๆ ที่สร้างพลังและแรงบันดาลใจให้กับคนทุกวัย

โดยในปีนี้ ‘มนุษย์ต่างวัย Awards 2025’ แบ่งออกเป็น 6 สาขารางวัล ได้แก่

1. รางวัล ‘ก้าวที่กล้า’
รางวัลสำหรับผู้กล้า ที่ไม่ว่าอายุจะเท่าไหร่ ก็ยังกล้าที่จะก้าวไปสู่เส้นทางใหม่ ๆ ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ อาจจะเป็นการงานใหม่ ๆ สำหรับเลี้ยงชีพ หรือ การงานแห่งชีวิต ซึ่งล้วนแล้วแต่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนตระหนักถึงศักยภาพในการเริ่มต้นใหม่ในทุกช่วงวัย

2. รางวัล ‘ชีวิต No Limit’
รางวัลสำหรับผู้สูงอายุที่เชื่อว่าอายุที่มากขึ้นไม่ใช่ข้อจำกัดของการมีร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง มี Mindset ที่ดีต่อการดูแลสุขภาพ สามารถที่จะพึ่งพาตนเองและออกแบบชีวิตในแบบที่ตนเองอยากจะเป็นได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้สูงวัยหลายคนปรารถนาและเป็นผลลัพธ์โดยตรงของการมีสุขภาพดี

3. รางวัล ‘รุ่นใหญ่ใจอาสา’
รางวัลเพื่อผู้ที่มุ่งทำประโยชน์ให้สังคม ช่วยเหลือผู้คนให้พบความสุขทั้งทางกายและใจ จนและเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นอยากทำตาม

4. รางวัล ‘ครีเอเตอร์สานพลังต่างวัย’
รางวัลสำหรับ Influencer หรือ สื่อสารมวลชนในทุกแขนงที่เชื่อมร้อยให้คนในสังคมมองเห็นคุณค่าและส่งเสริมการอยู่ร่วมกันของคนต่างวัย

5. รางวัล ‘องค์กรแห่งการเกื้อกูล’
รางวัลสำหรับองค์กรที่ทำงานเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิต คุณค่า และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้สูงอายุ

6. รางวัล ‘The Power of 2 Gens’
รางวัลแห่งการร่วมมือกันระหว่างคนต่างวัยที่เปลี่ยนความต่างให้เป็นพลังในการทำงานเพื่อสร้างประโยชน์ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นสร้างอาชีพ หรือการทำงานเพื่อชุมชนและสังคม

กองทุนสื่อ ร่วมกับ อบจ. ลำพูน, องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย และองค์กรภาคี จัดทำโครงการ “อ่าน เล่น เป็นเรียน” เพื่อส่งเสริมพัฒนาการและการอ่านให้เด็กเติบโตเต็มศักยภาพ

(23 มิ.ย. 68) กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ อบจ.ลำพูน และองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ได้ร่วมมือกับองค์กรภาคี อาทิ รัฐสภาไทย สมาคมผู้จัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) สำนักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และพันธกิจสังคม (สมส.) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หอสมุดแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ บริษัท แฮ็ปปี้มี – ดี จำกัด ร่วมจัดประชุมยกระดับการศึกษา หารือในการจัดทำโครงการ ‘อ่าน เล่น เป็นเรียน’ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการและการอ่านให้เด็กเติบโตเต็มศักยภาพ ณ ห้องทองอุไร ชั้น 2 หอประชุม อบจ.ลำพูน

อบจ. ลำพูน นำโดย นายวีระเดช ภู่พิสิฐ นายก อบจ.ลำพูน พร้อมเจ้าหน้าที่่ ร่วมเปิดประชุมหารือยกระดับการศึกษาในพื้นที่จังหวัดลำพูน โดยมี ดร.ชำนาญ งามมณีอุดม ผู้แทนคณะทำงานโครงการ ‘อ่าน เล่น เป็นเรียน‘ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการและการอ่านให้กับเด็กเติบโตเต็มศักยภาพ ร่วมหารือและวางแผนการดำเนินโครงการในพื้นที่ อ.ลี้ จังหวัดลำพูน โดยมีเป้าหมายคือ สร้างเครือข่ายความร่วมมือในการส่งเสริมการพัฒนาเด็กปฐมวัย สร้างความพร้อมในการเรียนรู้ในช่วยปฐมวัยตลอดจนการมีทักษะการอ่านในวัยประถมศึกษา ซึ่งจะช่วยพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของเด็ก และสร้างทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเล่นของเล่นในโรงเรียน และการใช้สื่อดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการอ่าน รวมถึงส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในวงกว้าง เพื่อพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ที่มีกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ เด็ก เยาวชนและครอบครัว และเพื่อส่งเสริมการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับวัย

โครงการ ‘อ่าน เล่น เป็นเรียน‘ จะประกอบด้วยกิจกรรม 4 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการอ่านและพัฒนาเด็ก การจัดหาห้องสมุดหนังสือและของเล่นให้เด็กปฐมวัย พ่อแม่ ผู้ปกครอง สถานศึกษา หน่วยงานด้าน สาธารณสุข และสถานดูแลเด็กปฐมวัย การจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในโรงเรียนและใช้สื่อดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการอ่าน และการติดตามและประเมินผล

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะดำเนินการในพื้นที่นำร่อง คือ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน และอำเภอรามัน จังหวัดยะลา

กองทุนสื่อ ร่วมกับ ม.อ.ปัตตานี จัดโครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายวิทยุชุมชน พัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคีเครือข่ายวิทยุชุมชน

กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จัดโครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายวิทยุชุมชน พัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อสร้างความเข้มแข็งในภาคีเครือข่ายวิทยุชุมชน โดยจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรที่ทำงานด้านวิทยุชุมชน ในพื้นที่ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคใต้ เพื่อพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายในการสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคีเครือข่ายวิทยุชุมชน ทั่วประเทศ รวมถึงทิศทางของสถานีวิทยุชุมชนในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน

วันที่ 16 มิถุนายน 2568 ณ ห้องประชุม COCKPIT MEETING โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพฯ  กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี  จัดโครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายวิทยุชุมชน พัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคีเครือข่ายวิทยุชุมชน โดยจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรที่ทำงานด้านวิทยุชุมชน ในพื้นที่ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคใต้ โดยมี ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นางสาวพัชรพร พงษ์ทัดศิริกุล ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ผศ.ดร.สุรวุฒน์ ช่อไม้ทอง คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยเขตปัตตานี ร่วมกับตัวแทนสถานีวิทยุชุมชน จากภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคใต้ จำนวน 30 สถานี เพื่อพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายในการสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคีเครือข่ายวิทยุชุมชน

ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่า กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ได้ร่วมกับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยเขตปัตตานี จัดโครงการพัฒนาศักยภาพและหาแนวทาง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ให้สถานีวิทยุชุมชนมีความเข้มแข็ง โดยเฉพาะวางแนวทางในการเข้าสู่ระบบใบอนุญาต และจะทำอย่างไรให้อยู่รอดได้จริง โดยเฉพาะแนวทางในการสนับสนุน อุดหนุนสถานีต้นแบบ

ตนมีความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจ บุคลากรที่ตั้งใจในการทำสถานีวิทยุชุมชน ในปัจจุบันนี้ คือเป็น กลุ่มคนที่มีใจรักในอาชีพ เพราะสถานีวิทยุชุมชนมีรายได้เพียงเล็กน้อย แต่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก จนทำให้ปัจจุบันต้องหาทิศทางในหลายๆแพลตฟอร์ม ซึ่งการใช้หลายๆแพลตฟอร์มจะสามารถหลุดจากข้อจำกัดในเรื่องกำลังส่งและรัศมีการออกอากาศและจะทำให้เปิดพื้นที่ของโลกออนไลน์ มากยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้ จะสามารถทำเป็นต้นแบบให้สถานีวิทยุชุมชนอื่นๆได้เรียนรู้ ศึกษา จนถึงการถอดบทเรียนว่าทำอย่างไรที่ทำให้อยู่รอดและตอบสนองต่อชุมชนได้ด้วย

ผศ.ดร.สุรวุฒน์ ช่อไม้ทอง คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยเขตปัตตานี กล่าวว่า โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายวิทยุชุมชน มีวัตถุประสงค์สำคัญคือเพื่อยกระดับมาตรฐานการทำงานของวิทยุชุมชนให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ด้วยการสร้างมาตรฐานทางจริยธรรมของเครือข่ายกลุ่มของวิทยุชุมชนในการกำกับดูแลกันเอง โดยตัวมาตรฐานทางจริยธรรมที่จัดทำขึ้น จะเป็นตัวที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของวิทยุชุมชนกับวิทยุทดลองประกอบกิจการทำให้วิทยุชุมเกิดความน่าเชื่อถือจากสังคมภายนอก และเป็นการสร้างเครือข่ายวิทยุชุมชน ในการฝึกการกำกับดูแลกันเอง ให้ข้อมูลข่าวสารที่สื่อสารมีประโยชน์กับประชาชนในชุมชนจริงๆ ประชาชนในพื้นที่สามารถมีช่องทางร้องเรียนหากพบว่า วิทยุชุมชนของตนมีการนำเสนอข้อมูลที่บิดเบือนจากความเป็นจริง เป็นข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์กับชุมชน หรือมีการทำผิดหลักการหรือเจตนารมณ์ของวิทยุชุมชนขึ้นในมิติการู้เท่าทันสื่อ เพราะในปัจจุบันจากการที่ภูมิทัศน์สื่อได้เปลี่ยนไป การสื่อสารได้เข้าสู่ยุคหลอมรวมข้อมูลข่าวสารเชื่อมถึงกัน การพัฒนาให้เครือข่ายวิทยุชุมชนสามารถปรับตัวและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปจึงมีความจำเป็น รวมทั้งการทำให้เครือข่ายวิทยุชุมชนสามารถวิเคราะห์สื่อต่างๆ ให้เกิดความรู้เท่าทัน เพราะสถานีวิทยุชุมชน มีหน้าที่ในการกระจายข่าวสารสู่ชุมชนและสังคม หากนักจัดรายการวิทยุชุมชน ไม่สามารถวิเคราะห์และรู้เท่าทันถึงข้อมูลหรือข่าวสารที่รับมาได้ เมื่อสื่อสารออกไปก็จะทำให้ชุมชนหรือผู้รับสารรับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องไปได้ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา

ด้าน ดร.เนตรดาว ยั่งยุบล หัวหน้าศูนย์นวัตกรรมทางสังคมเพื่อการบริหารและพัฒนาท้องถิ่นที่ยั่งยืน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตานี กล่าวว่า โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายวิทยุชุมชน เกิดขึ้นภายใต้ความรับผิดชอบของ ผศ.ดร.สุรวุฒน์ ช่อไม้ทอง คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และคณะทีมงาน นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อ รวมถึงภาคประชาสังคมและชุมชน ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สื่อ ที่ปลอดภัยระดับชุมชน ตำบล อำเภอ และระดับนโยบายจังหวัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพของสถานีวิทยุชุมชนในการจัดการระบบนิเวศการสื่อสารที่สร้างสรรค์ และพัฒนานักจัดรายการ ผู้สื่อข่าวชุมชนรุ่นใหม่ เพื่อนำความคิด ประเด็นข้อมูลจากพื้นที่มาผลิตสื่อ ที่เป็นข่าวสารที่ได้มาตรฐานและเชื่อถือได้ ทั้งเพื่อให้เกิดพื้นที่ต้นแบบในการผลิตสื่ออย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์ และเกิดการถ่ายทอดองค์ความรู้ไปยังชุมชนต่างๆ อย่างทั่วถึง การพัฒนาแพลตฟอร์มต่างๆ ที่สอดคล้องและเหมาะสมในแต่ละภูมิภาค การขับเคลื่อนและการทำงานเพื่อพัฒนาศักยภาพวิทยุชุมชน มุ่งเน้นการพัฒนาการสื่อสารประเด็นทางสังคมต่างๆไม่ว่าจะเป็นประเด็นเด็ก เยาวชน สุขภาพ ภูมิปัญญา สิ่งแวดล้อม ผู้หญิง คนพิการ ผู้สูงอายุ อาชีพ เศรษฐกิจ ชุมชน ท่องเที่ยว ชุมชน ศาสนา ชาติพันธุ์ เกษตร เพื่อเป็นช่องทางบรรเทาทุกข์ของประชาชน รับข้อร้องเรียนบรรเทาสาธารณภัย และการรับแจ้งอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยมีกลไกที่สำคัญ 3 กลไก ประกอบด้วย กลในการปกป้องและป้องกัน กลไกในการเฝ้าระวัง กลไกในการคุ้มครองเพื่อสร้างสรรค์สื่อ การขับเคลื่อนโครงการเพื่อสร้างเครือข่ายสื่อวิทยุชุมชนในภูมิภาค รวมถึงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรสื่อวิทยุชุมชน การพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ระดับพื้นที่และการพัฒนานวัตกรรมสื่อวิทยุชุมชน โดยมีเป้าหมายร่วมกันเพื่อเสนอนโยบายสื่อ กฎหมายและกฎระเบียบ จนเกิด “วาระสื่อ” ในระดับภาคและระดับประเทศต่อไป

ซึ่งจากเวทีในครั้งนี้ สามารถได้ข้อเสนอเชิงนโยบายในการสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคีเครือข่ายวิทยุชุมชน โดยมีแนวทางคือ เกิดฐานข้อมูลของสถานีวิทยุที่ชัดเจน เกิดสถานีต้นแบบ ในแต่ละภูมิภาค เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น การศึกษา สุขภาพ การป้องกันอาชญกรรม รวมไปถึงการจัดรูปแบบของแผนรายการ ในการปรับตัวและยกระดับ ในการเป็นสถานีวิทยุต้นแบบ รวมไปถึงแผนการจัดการ ในเชิงนโยบายรวมถึงการสนับสนุน  และกลไกการทำงาน ระดับจังหวัด ระดับภูมิภาค จนนำไปสู่การพัฒนาสื่อให้เกิดความปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีความร่วมมือจากภาคประชาสังคม จนนำไปสู่กลไกให้เกิดระบบนิเวศสื่อ เพื่อนำไปสู่ข้อเสนอเพื่อพัฒนาโครงการสามารถสร้างความเข้มแข็งของสถานีวิทยุชุมชนต่อไป