เลือกหน้า

กองทุนสื่อ แถลงข่าวเปิดตัวละคร “นักสืบสายรุ้ง” สื่อสร้างสรรค์เสริมสร้างความเท่าเทียมและสิทธิเด็ก ผลงานผู้รับทุนประเภทเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Grant) ประจำปี 2564

 (26 ต.ค. 64) ณ ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ จัดแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ละคร “นักสืบสายรุ้ง” ซีรีส์ละครเด็ก 10 ตอน ที่นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับความเท่าเทียม สิทธิเด็ก และสิทธิมนุษยชน ดำเนินการผลิตโดยบริษัท แฟลทไฟว์ อินเตอร์ มีเดีย จำกัด ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เพื่อมุ่งส่งเสริมให้เด็กและครอบครัวเกิดการตระหนักรู้เรื่องความเท่าเทียมและสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวาง

ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่า เด็กคือทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าของสังคม ดังนั้นกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จึงเชื่อมั่นในการส่งเสริมให้เกิดการผลิตสื่อที่พึงประสงค์สำหรับเด็กและเยาวชน ทำให้เด็กสามารถเรียนรู้ในสิ่งที่เสริมสร้างพัฒนาการอย่างรอบด้าน เหนือสิ่งอื่นใดคือการทำให้เด็กและเยาวชนมีทักษะในการรู้เท่าทันสื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่อุบัติการณ์ความรุนแรงต่าง ๆ ทั้งที่ปรากฏผ่านสื่อและในสภาวการณ์ของสังคมมีความน่ากังวลมากขึ้นทุกขณะ การสนับสนุนให้เกิดสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ ก็เปรียบเสมือนการช่วยสร้างเกราะกันภัยให้เด็กและเยาวชนได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ ได้ตอกย้ำเจตนารมณ์ในการสนับสนุนการผลิตละคร “นักสืบสายรุ้ง” ด้วยเหตุที่แนวคิดหลักของละครมุ่งเน้นในการส่งเสริมให้เด็กในช่วงก่อนวัยรุ่น (Pre-teen) เกิดความรู้ความเข้าใจในการอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียม เข้าใจเรื่องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน รวมทั้งการรักษาสิทธิของตนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการล่วงละเมิดในทุกมิติ ซึ่งการตระหนักรู้ในเรื่องเหล่านี้ นับว่าเป็นภูมิคุ้มกันสำหรับการดำรงชีวิตทั้งในโลกออฟไลน์และออนไลน์ได้ สอดคล้องกับพันธกิจของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ที่ส่งเสริมให้เกิดการรู้เท่าทันสื่อ และเปิดพื้นที่ให้กับสื่อสร้างสรรค์ในการทำหน้าที่สร้างเสริมความรู้แก่เด็ก เยาวชน และสาธารณชนอย่างรอบด้าน เพื่อก้าวสู่การเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของโลกในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างสมบูรณ์

รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) องค์ปาฐกถา หัวข้อ “ถอดรหัสนักสืบสายรุ้ง สิทธิ เสมอภาค สร้างสรรค์” กล่าวว่า ละคร “นักสืบสายรุ้ง” ถือเป็นละครแนว Edutainment ที่จะช่วยสะท้อนสิ่งดี ๆ กลับคืนให้กับสังคม โดยสังคมที่ถือเป็นหน่วยเล็กที่สุดและสำคัญมากที่สุด ก็คือ “ครอบครัว” หากการเลี้ยงดูลูกในทุกครอบครัว ให้ความสำคัญต่อ การเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และความเท่าเทียมในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นมิติของชาติพันธุ์ ภาษา สีผิว หรือแม้กระทั่งความหลากหลายทางเพศ โดยเริ่มปลูกฝังกันตั้งแต่เด็ก ๆ โดยหวังว่าเด็กจะเติบโตได้ในแบบที่มีคุณภาพ รู้จักให้เกียรติและเคารพคนรอบข้าง เพราะเชื่อว่า เด็กคือส่วนสำคัญที่จะเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพต่อไปในอนาคต และเมื่อสังคมมีพลเมืองที่มีคุณภาพแล้วนั้น ก็จะนำไปสู่สังคมแห่งสันติสุขได้

โดยมีครอบครัวและโรงเรียนเครือข่ายอีก 7 โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) จะได้นำไปปรับใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนเพิ่มเติม อย่างเช่น โรงเรียนคุณธรรม และสถานศึกษาอื่น ๆ ต่อไป

ละคร “นักสืบสายรุ้ง” กำกับการแสดงโดยผู้กำกับแถวหน้าของประเทศ คุณนนทรีย์ นิมิบุตร ผู้ซึ่งมีความปราณีตทุกรายละเอียด เพื่อให้ละครเรื่องนี้สามารถสื่อสารกับเด็กได้อย่างครอบคลุม นอกจากนี้ยังมีเพลงประกอบละคร ซึ่งมีความหมายลึกซึ้งแต่ว่าสดใส โดยฝีมือการประพันธ์เพลงของนักแต่งเพลงชั้นครู คุณสุรักษ์ สุขเสวี ผ่านการขับร้องโดยนักแสดงนำอย่าง น้ำหวาน-พิมรา เจริญภักดี และนักแสดงเด็กทั้ง 5 คน ประกอบด้วย น้องแบงค์-ด.ช.พงษ์พิสิฏฐ์ เพ็ชรโยธิน, น้องเฟรย่า – ด.ญ.ศิรินทร์ชญา บุญสุวรรณ, น้องเทปัน – ด.ช.วิกร ธนากรอัครกุล, น้องเธอร์ริส – ด.ญ.ธมกร เมอร์ไกวร์ และน้องมินิ – ด.ญ.แก้วกล้า พิพัฒน์โรจนกมล

อีกทั้งยังได้ นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา นักแสดงมากฝีมือที่จะมารับบทที่เหนือความคาดหมาย เสริมทัพความสนุกด้วย ตี๋ ดอกสะเดา ที่ช่วยสร้างสีสันให้กับละครได้อย่างลงตัว พร้อมนักแสดงรับเชิญพิเศษ รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) และกุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและวัยรุ่น หรือ “คุณหมอเดว” ขวัญใจเด็ก เยาวชนและครอบครัว ได้ให้เกียรติร่วมแสดงในครั้งนี้ด้วย ซึ่งภายในงานมีผู้กำกับและทีมนักแสดงได้ร่วมพูดคุยเปิดใจเกี่ยวกับการถ่ายทำในช่วง “เบื้องหลังสายรุ้ง”

สำหรับกำหนดการเผยแพร่ละคร “นักสืบสายรุ้ง” จะเริ่มต้นในเดือนธันวาคม 2564 ผ่านช่องทาง Facebook และ YouTube : นักสืบสายรุ้ง – Rainbow kids Series โดยออกอากาศเดือนละ 2 ครั้ง ติดต่อกันจนถึงเดือนเมษายน 2565 รวมทั้งเผยแพร่สาระบันเทิงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเด็กและสิทธิมนุษยชนทางช่องทางดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอ ด้วยความมุ่งหวังที่จะใช้พลังบวกของสื่อเพื่อปลูกฝังแนวคิดเรื่องสิทธิมนุษยชนสำหรับเด็ก ครอบครัว และสถาบันการศึกษา สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ซึ่งสนับสนุนผู้ผลิตสื่อเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมและสร้างสรรค์อนาคตของเด็กและเยาวชนให้มีคุณภาพต่อไป