เลือกหน้า

“กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ ฮ่า ไฮ่ กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ แก้กองกิเลส ทำตนให้เป็นคน ผลของการฝึกตน เล่นกีฬาสากล ตาละล่า” เนื้อร้องและท่วงทำนองของเพลงกราวกีฬา ที่คุ้นหูคนไทยมาเกือบร้อยปี เรียกว่าคนที่ได้ยินเพลงนี้แรก ๆ ตั้งแต่เด็ก ๆ ตอนนี้กลายเป็นปู่ ย่า ตา ทวด กันหมดแล้ว
.
ที่สำคัญความหมายของเพลงไม่ได้ผิดจากความเป็นจริง ที่บอกว่า กีฬาเป็นยาวิเศษ เพราะผ่านการพิสูจน์มาแล้วทั้งคนที่เล่นกีฬาออกกำลังกายพิชิตโรค สร้างความหวัง พิชิตความฝันของเหล่าฮีโร่นักกีฬาที่สร้างทั้งชื่อเสียง
และเงินทองมากมาย แต่ในอีกมุมหนึ่งใครจะคิดว่ายาวิเศษขนานนี้ จะช่วยสมานแผลแตกแยกและความห่างเหินในครอบครัวได้ด้วย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นความคิดและแรงบันดาลใจของ สุริยัน สุวรรณกาล อาจารย์คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่อยากสื่อสารให้สังคมเห็นยาวิเศษอย่างกีฬา ในมุมที่สร้างความสัมพันธ์ สร้างรอยยิ้ม และความสุขในครอบครัว ให้กีฬาเป็นเหมือนยาสามัญประจำบ้าน ผ่านสารคดีชุดกีฬาสามัญประจำบ้านทั้ง 12 ตอน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ประเภทเชิงยุทธศาสตร์ ประจำปี 2564
.
“ถ้าเราเอากีฬามาผูกสัมพันธ์ หรือนำมาบูรณาการกับการสร้างความสัมพันธ์กับครอบครัว มันน่าจะเป็นรายการกีฬาอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ยังไม่ค่อยเคยเห็นสักเท่าไหร่ หรือแทบยังไม่เคยเห็นเลยด้วยซ้ำไป ก็เลยเป็นแรงบันดาลใจ
ให้ลองทำรายการที่มีคอนเทนต์ในลักษณะนี้ดู”
โดยสารคดีทั้ง12 ตอน ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตจริงของหลากหลายครอบครัว ที่มีปัญหาแตกต่างกัน แต่ใช้กีฬา
เข้ามาเป็นจุดร่วมที่ลงตัว ซึ่งบางครอบครัวกีฬากลายเป็นยาวิเศษที่สมานรอยแตกแยก และกลับมาพลิกชีวิต
ของพวกเขาได้เลยทีเดียว

อย่างเรื่องราวของหมูแฮม เด็กชายที่เป็นตัวละครเอกในตอนลูกเตะมุม ที่นำเสนอเรื่องราวของเด็กชายในชุมชนคลองเตย กลางกรุงเทพฯ ที่เผชิญปัญหาในครอบครัวที่แทบจะแตกแยก สุ่มเสี่ยงที่ชีวิตจะเลี้ยวเข้าสู่วงจรยาเสพติด แต่เมื่อหมูแฮม ได้เจอกับฟุตบอล ซึ่งครูจิตอาสาสอนในชุมชนตั้งแต่ 4 ขวบ กลายเป็นสิ่งที่สร้างความมุ่งมั่น
ให้เขา ใช้เวลาหลังเลิกเรียนฝึกซ้อมหลายครั้ง อาศัยนอนที่อาคารโรงเรียนในสนาม ค่อย ๆ ฝึกฝนพัฒนาฝีเท้าก้าวสู่ตัวหลักของทีมฟุตซอลที่โดดเด่น จนครูต้องบอกพ่อหมูแฮมด้วยประโยคสั้น ๆ ว่า “คิดจะไปดูลูกบ้างไหม เคย
รู้ไหมว่ามันเล่นบอลยังไง ลองไปดูมันสักครั้งสิ” นั่นทำให้พ่อหมูแฮมแอบเข้าไปดูลูกชาย และเมื่อได้เห็นฝีเท้าของลูกชายในสนามถึงกับน้ำตาคลอเบ้า พร้อมๆกับการพลิกกลับมาทำหน้าที่พ่อ ด้วยการหักดิบเลิกยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข หันมาทำงานเก็บเงิน พาครอบครัวไปเชียร์ลูกทุกครั้ง ครอบครัวกลับมามีรอยยิ้มด้วยความสุขอีกครั้ง พร้อมๆกับชีวิตของหมูแฮมที่เดินหน้าสู่เส้นทางการเป็นนักกีฬาฟุตซอล จนเริ่มมีชื่อเสียง กลายเป็นตัวอย่าง
ของเด็กในชุมชนคลองเตย ซึ่งเป็นสารคดีตอนหนึ่ง ที่สุริยัน สุวรรณกาล หัวหน้าโครงการและผู้ควบคุมการผลิตสารคดีกีฬาสามัญประจำบ้าน ชื่นชอบที่สุดตอนหนึ่ง

“ตัวเองดูแล้วแอบน้ำตาซึม คือตอนของน้องหมูแฮม ที่ชุมชนคลองเตย เพราะมันพลิกชีวิต เรื่องนี้ต้องขอบคุณครอบครัวนี้ด้วย ที่เขายอมเปิดเผยตัวเองว่า คุณพ่อเคยเดินผิดพลาดเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและการพนันอยู่ช่วงหนึ่ง”

เช่นเดียวกับสารคดีกีฬาสามัญประจำบ้าน อีก 11 ตอน ทั้งพ่อลูกตะลุยเทรล , หัวใจผูกกัน , วิ่งต้านเศร้า , โยคะ
แห่งชีวิต , ของเล่นของลูก , Man of the match , เชือกวิเศษ , ขอเวลานอก , กติกาเดียวกัน , ก้าวไปกับครูและพลังแห่งชีวิต ซึ่งล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวชีวิตกึ่งเรียลลิตี้ที่เข้มข้นของหลากหลายครอบครัว ที่ใช้กีฬาเป็นยาวิเศษ
ในการรักษาความสัมพันธ์ในครอบครัว สร้างพลังชีวิตและแรงบันดาลใจ โดยสารคดีชุดนี้ ออกอากาศทางช่อง9 MCOT HD ไปแล้ว แต่ยังสามารถติดตามชมได้ในยูทูบช่องกีฬาสามัญประจำบ้าน เพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสยาวิเศษ
จากกีฬา และอยากให้คนไทยมีกีฬาสามัญประจำบ้าน ไว้เป็นยาวิเศษของทุกครอบครัว
.
#กองทุนสื่อ #กีฬาสามัญประจำบ้าน #หมูเเฮมลูกเตะมุม
#เล่าสื่อกันฟัง #บทความเล่าสื่อกันฟัง
#ผลงานผู้รับทุนกองทุนสื่อ
#สื่อสร้างสรรค์เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม
#กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
.
ติดตาม “กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์” ได้ที่
Website : www.thaimediafund.or.th
Facebook : www.facebook.com/ThaiMediaFundOfficial
Youtube : www.youtube.com/c/ThaiMediaFund
Line Official : @thaimediafund