เลือกหน้า

“ดิไอคอนกรุ๊ป” ขึ้นอันดับ 1 “หมูเด้ง” ลงเป็นอันดับ 2 ของความสนใจในโลกออนไลน์เดือนตุลาคม 67 ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาเป็นอันดับ 3 “หมีเนย” หลุด 10 อันดับเป็นครั้งแรก TikTok ยังครอง Engagement สูงกว่าทุกแพลตฟอร์ม

จากการสำรวจประเด็นการสื่อสารในโลกออนไลน์ผ่าน 5 แพลตฟอร์มในเดือนตุลาคม 2567 พบว่า “คดีดิไอคอนกรุ๊ป” ได้รับความสนใจสูงสุดในอันดับที่ 1 ด้วยสัดส่วนการมีส่วนร่วม (Engagement) สูงถึง 26.48% ตามด้วย “หมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระ” ในอันดับที่ 2 ด้วยสัดส่วนการมีส่วนร่วมที่ 21.64% สำหรับ “อุบัติเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษานักเรียน” อยู่ในอันดับที่ 3 ด้วยสัดส่วนการมีส่วนร่วม 10.48% และ “ภาพยนตร์ธี่หยด 2″ อยู่ในอันดับที่ 4 ด้วยสัดส่วนการมีส่วนร่วม 10.32% และเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนที่”น้องหมีเนย” ไม่ติด 10 อันดับแรก

ความสนใจใน “คดีดิไอคอนกรุ๊ป” เริ่มต้นจากการรายการโหนกระแส นำผู้เสียหายมาเล่าถึงการถูกฉ้อโกงจากกลไกการตลาดของดิไอคอนกรุ๊ป นำไปสู่การสอบสวนและดำเนินคดีกับผู้บริหาร ที่มีบุคคลในวงการบันเทิง เช่น กันต์ กันตถาวร, ยุรนันท์ ภมรมนตรี, พิชญา วัฒนามนตรี รวมถึงบุคคลอื่น ๆ อีกหลายคน โดยมีผู้เสียหายมากกว่า 10,000 ราย ส่งผลให้ได้รับความสนใจจากสังคมอย่างกว้างขวาง 

แม้ในเดือนตุลาคม 2567 จะมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ เช่น อุทกภัยในจังหวัดเชียงใหม่ การสิ้นสุดอายุความของคดีตากใบ นักธุรกิจสาวแจ้งความทนายษิทราข้อหาฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท รวมถึงพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินในขบวนพยุหยาตราทางชลมารค แต่เหตุการณ์ที่กล่าวมาทั้งหมดกลับไม่ติด 10 อันดับแรก ในความสนใจของโลกออนไลน์เดือนตุลาคม 2567

10 ประเด็นที่ได้รับความสนใจ มีการสื่อสารและมีส่วนร่วมมากที่สุดในโลกออนไลน์ เดือนตุลาคม 2567

Media Alert กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับบริษัท Wisesight ดำเนินการศึกษาการสื่อสารในโลกออนไลน์ของสังคมไทย โดยใช้เครื่องมือ ZocialEye สำรวจข้อมูลจาก 5 แพลตฟอร์มหลัก ได้แก่ 1) Facebook 2) X (Twitter) 3) Instagram 4) YouTube และ 5) TikTok โดยเริ่มต้นจากการค้นหาแนวโน้มกระแสสังคมที่เป็นที่พูดถึง เช่น Wisesight Trend และแนวโน้มจากทั้ง 5 แพลตฟอร์ม หลังจากนั้นได้ใส่คำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญที่พบจากการสำรวจในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้แก่ คำว่า ดิไอคอน” “หมูเด้ง” “ไฟไหม้รถบัส” “ธี่หยด “คนตื่นธรรม” “#bus_knockknockknock” “ปิ่นภักดิ์” “มิสแกรนด์ 2024” “แม่หยัว” “หนึ่งในร้อย” หลังจากนั้นจึงนำข้อมูลที่ได้มาคัดกรองและจัดหมวดหมู่ตามประเด็น กลุ่มเนื้อหา ประเภทแพลตฟอร์ม และกลุ่มผู้สื่อสารตามเกณฑ์ที่กำหนดขึ้น พร้อมจัดทำสรุปข้อมูลสำคัญใน 10 อันดับแรกของการมีส่วนร่วม (Engagement) ประจำเดือน โดยอ้างอิงหลักฐานเชิงประจักษ์ (Empirical Data) ซึ่งประกอบด้วย จำนวนค่าการมีส่วนร่วม ข้อความจากสื่อสังคมออนไลน์ วันที่และเวลา เพื่อความถูกต้องแม่นยำ และลดอคติของผู้วิเคราะห์ข้อมูล ทั้งนี้ ประเด็นที่ได้รับความสนใจในโลกออนไลน์ในช่วงเดือนตุลาคม 2567 มีดังนี้

อันดับที่ 1 คดีดิไอคอนกรุ๊ป (103,965,017 Engagement)

            ดิไอคอนกรุ๊ปเป็นบริษัทที่ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และความงาม โดยจดทะเบียนเป็นธุรกิจการตลาดแบบตรง โดยมีวรัตน์พล วรัทย์วรกุล เป็นผู้บริหารหลัก อีกทั้งยังมีบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิงเกี่ยวข้องด้วย เช่น กันต์ กันตถาวร ยุรนันท์ ภมรมนตรี พิชญา วัฒนามนตรี เป็นต้น คดีเกี่ยวกับบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปเริ่มได้รับความสนใจเมื่อมีผู้เสียหายมาร้องเรียนผ่านรายการโหนกระแส และต่อมามีการนำผู้เสียหายเข้าแจ้งความบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์เพื่อรับแจ้งเหตุจากประชาชนที่ได้รับความเสียหาย ต่อมาในวันที่ 16 ตุลาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจขออนุมัติศาลออกหมายจับ 18 ผู้ต้องหาคดีดิไอคอนกรุ๊ปในข้อหาร่วมฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จฯ โดยคุมตัวมาสอบปากคำ รวมถึงยึดทรัพย์สินหลายรายการ อาทิ รถยนต์หรู เงินสด และสินค้าแบรนด์เนม เป็นต้น ในส่วนของผู้ส่งสาร พบว่าสำนักข่าวและสื่อ เช่น โหนกระแส ข่าวสดออนไลน์ และเรื่องเล่าเช้านี้ เป็นแหล่งข้อมูลที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ได้มากที่สุด โดยแพลตฟอร์ม TikTok มียอดการมีส่วนร่วมสูงสุดที่ 48.81%

อันดับที่ 2 หมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระ (84,970,100 Engagement)

            “หมูเด้ง” ลูกฮิปโปแคระซึ่งได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในสื่อสังคมออนไลน์ตั้งแต่เดือนกันยายน โดยมีการเผยแพร่ภาพและวิดีโอที่นำเสนอความน่ารักในอิริยาบถต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ ในเดือนตุลาคมได้มีการนำเสนอเนื้อหาหลากหลายรูปแบบเพิ่มเติม อาทิ วิดีโอการ์ตูน, ภาพวาด, การ Cover เพลงเกี่ยวกับหมูเด้ง, ข่าวนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางจากนิวยอร์กเพื่อมาชมหมูเด้งโดยเฉพาะ นอกจากนี้บัญชี TikTok krubaheng ได้นำเสนอวิดีโอในการสอนศาสนา โดยใช้ตัวละครหมูเด้งในรูปแบบการ์ตูนฮิปโป ซึ่งได้รับการมีส่วนร่วม (Engagement) เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีการเปรียบเทียบความน่ารักของหมูเด้ง แห่งสวนสัตว์เปิดเขาเขียวกับลูกฮิปโปแคระเกิดใหม่ที่สวนสัตว์ศรีสะเกษ ในส่วนของผู้ส่งสาร พบว่าผู้มีอิทธิพลในสื่อสังคมออนไลน์สามารถสร้างการมีส่วนร่วมได้สูงสุด อาทิ khamoo.andthegang pairoat และ pimprapa โดยแพลตฟอร์ม TikTok มีสัดส่วนการมีส่วนร่วมสูงสุดที่ 48.81%

อันดับที่ 3 ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา (41,137,905 Engagement)

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้รถบัสนำนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดชัยนาท เดินทางไปทัศนศึกษา แต่เกิดเพลิงไหม้ขณะเดินทางบนถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้าบริเวณหน้าศูนย์การค้าเซียร์รังสิต ส่งผลให้นักเรียนและครูเสียชีวิตรวม 23 ราย เหตุการณ์นี้เป็นที่กล่าวถึงในวงกว้าง เนื่องจากเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกี่ยวข้องกับเด็กนักเรียนก่อให้เกิดข้อกังวลและเป็นประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับความจำเป็น ความเหมาะสมในการพานักเรียนไปทัศนศึกษา ความปลอดภัยของรถโดยสารที่มีอายุการใช้งานยาวนาน ระบบการติดตั้งถังแก๊สและการตรวจสอบของกรมการขนส่ง รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมมาตรฐานของรถรับส่งนักเรียน ในสื่อสังคมออนไลน์มีการแสดงความเสียใจอย่างล้นหลามต่อเหตุการณ์นี้ โดยเนื้อหาในช่วงแรกเน้นการรายงานเหตุการณ์และการอัปเดตสถานการณ์ในวันที่เกิดเหตุ รวมถึงในวันพระราชทานเพลิงศพครูและนักเรียนทั้ง 23 ราย สื่อและสำนักข่าวที่มีบทบาทสำคัญในการสื่อสารประเด็นนี้ เช่น thairath_news khaosodonline และ thaich8news โดยแพลตฟอร์ม TikTok เป็นช่องทางที่สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) สูงที่สุดที่ 51.94%

อันดับที่ 4 ภาพยนตร์ธี่หยด 2 (40,502,912 Engagement)

ภาพยนตร์ “ธี่หยด” ภาค 1 ได้รับความสนใจในสื่อสังคมออนไลน์เป็นอันดับที่ 6 ในเดือนตุลาคม 2566 โดยเป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญที่ได้รับคำชมอย่างล้นหลาม ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้จากการทำรายได้มากกว่า 400 ล้านบาทภายในระยะเวลาเพียง 10 วัน สำหรับปีนี้ ภาพยนตร์ “ธี่หยด” ภาค 2 สามารถทำรายได้สูงถึง 700 ล้านบาท ด้วยเนื้อเรื่องที่มีความแปลกใหม่และสนุกสนานมากกว่าภาพยนตร์ผีทั่วไป ส่งผลให้ได้รับการชื่นชมอย่างกว้างขวางในสื่อสังคมออนไลน์ ในด้านผู้ส่งสาร พบว่าผู้มีอิทธิพลในสื่อสังคมออนไลน์สามารถสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ได้มากที่สุด เช่น sunantra_chery, denise_jelilcha, และ zo_pim เป็นต้น โดยแพลตฟอร์ม TikTok มียอดการมีส่วนร่วมสูงที่สุดที่ 67.74%

อันดับที่ 5 อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม (30,190,697 Engagement)

อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม ผู้มีอิทธิพลในสังคมออนไลน์ด้านธรรมะ มีความโดดเด่นจากการสอนธรรมะในสไตล์ที่เข้มข้นและเข้าใจง่าย โดยได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางจากการให้สัมภาษณ์ในรายการเปิดปากกับภาคภูมิเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2567 ในประเด็น “อยากรวยต้องทำยังไง” และรายการโหนกระแสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม  2567 ตอน “หมอดูสวนกลับอาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม พูดไปเรื่อย ไม่มีอาจารย์โหรคนไหนสอนให้หลอกคน” หลังจากนั้นในสื่อสังคมออนไลน์มีการพูดถึงอาจารย์เบียร์อย่างแพร่หลาย จากคลิปสั้นตอบปัญหาธรรมะในแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ รวมถึงการถูกเชิญไปออกรายการต่าง ๆ เช่น Woody FM เป็นต้น ในด้านผู้ส่งสาร พบว่าผู้มีอิทธิพลในสื่อสังคมออนไลน์สามารถสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ได้มากที่สุด เช่น  pondonnews, gurion99, และ Woody โดยแพลตฟอร์ม TikTok มียอดการมีส่วนร่วมสูงที่สุดที่ 68.29%

อันดับที่ 6 การประกวด Miss Grand International 2024 (29,871,433 Engagement)

การประกวด Miss Grand International 2024 จากเดิมประเทศเมียนมาได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพในการจัดการประกวด แต่เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งภายในประเทศ ทำให้ไม่สามารถจัดการประกวดได้ ประเทศกัมพูชาจึงเสนอตัวเป็นเจ้าภาพแต่สุดท้ายไม่พร้อม จึงขอเป็นเจ้าภาพร่วมกับประเทศไทย แต่ระหว่างกิจกรรมเก็บตัวที่ประเทศกัมพูชา มีความไม่ราบรื่นในการจัดกิจกรรม จนเป็นข่าว ทำให้ในวันที่ 8 ตุลาคม 2567 ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทมีสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ประกาศยกเลิกให้กัมพูชาเป็นเจ้าภาพและตัดสินใจจัดการประกวดในประเทศไทย โดยในการประกวดรอบสุดท้ายเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ผู้ครองตำแหน่ง Miss Grand International 2024 คือ เรเชล คุปตะ จากประเทศอินเดีย รองอันดับหนึ่งคือ คริสติน จูเลียน โอเปียซ่า จากประเทศฟิลิปปินส์ รองอันดับสอง คือ แต้ ซู เญ่น จากเมียนมา แต่ Nation Director (ND) ของเมียนมา ไม่พอใจผลการตัดสิน จึงพากลุ่มคนทำการถอดสายสะพายและมงกุฎ ทั้งนำตัว แต้ ซู เญ่น ออกจากงาน วันต่อมาแต้ ซู เญ่น ก็สื่อสารทางออนไลน์ไม่ยอมรับผลการตัดสิน ทำให้สังคมตั้งคำถามถึงความไม่เหมาะสมและวิเคราะห์สาเหตุของพฤติกรรม ในวันที่ 28 ตุลาคม 2567 ช่องทางอย่างเป็นทางการของ Miss Grand International ได้ออกแถลงการณ์ปลด แต้ ซู เญ่น รองอันดับ 2 ออกจากตำแหน่งเนื่องจากประพฤติตนไม่เหมาะสม  ในด้านผู้ส่ง

อันดับที่ 7 คอนเสิร์ต Knock Knock Knock: BUS 1st THAILAND FANCON TOUR (28,391,620 Engagement)

         วงบอยแบนด์ชาวไทย “Bus” หรือ “Because of You I Shine” ได้ประกาศจัดคอนเสิร์ต “ Knock Knock Knock: BUS 1st THAILAND FANCON TOUR” ซึ่งเป็นการทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกใน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น นครราชสีมา สงขลา ชลบุรี และเชียงใหม่ ในด้านผู้ส่งสาร พบว่าผู้ส่งสารส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้งานทั่วไป ซึ่งประกอบไปด้วยแฟนคลับและผู้ที่ติดตามวง ได้มีการโพสต์ภาพการแสดงคอนเสิร์ตในจังหวัดต่าง ๆ ทำให้สามารถสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ได้มากที่สุด โดยแพลตฟอร์ม TikTok มีการสร้างการมีส่วนร่วมสูงที่สุดที่ 48.59%

อันดับที่ 8 ซีรีส์ปิ่นภักดิ์ (13,948,360 Engagement)

ปิ่นภักดิ์ ซีรีส์แนวแซฟฟิค (Sapphic) หญิงรักหญิงพี่เรียดย้อนยุคโรแมนติกจากช่อง Workpoint นำแสดงโดย ฟรีน สโรชา และ เบ็คกี้ รีเบคก้า โดยในเดือนนี้ได้มีการปล่อยเพลงประกอบละคร “Cheevee” (ชีวี) ซึ่งร้องโดยสองนักแสดงนำ นอกจากนี้ยังมีการปล่อยซีรีส์ในรูปแบบ Uncut ส่งผลให้ในเดือนนี้ การมีส่วนร่วม (Engagement) ในแง่ผู้สื่อสาร มีผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์เป็นผู้สื่อสารหลัก ส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนช่องทางอย่างเป็นทางการของซีรีส์ รวมถึงบัญชีของดารานักแสดง เช่น idolfactory, srchafreen, และ workpointofficial เป็นต้น โดยแพลตฟอร์ม X ยังคงสามารถสร้างการมีส่วนร่วมสูงสุดที่ 73.37%

อันดับที่ 9 ละครแม่หยัว (10,057,059 Engagement)

ละคร “แม่หยัว” จากช่อง One 31 เป็นละครที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริงในประวัติศาสตร์สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยมีการตีความเนื้อหาใหม่ของ “แม่หยัวศรีสุดาจันทร์” ซึ่งเป็นสนมเอกของสมเด็จพระไชยราชาธิราช ละครนี้นำแสดงโดย ใหม่ ดาวิกา, ฟิล์ม ธนภัทร, ตุ้ย ธีรภัทร์ ในส่วนของผู้ส่งสารพบว่าผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์สามารถสร้างการมีส่วนร่วมได้มากที่สุด ส่วนใหญ่เกิดจากการโปรโมทละครของทางช่อง ผู้จัด นักแสดง และผู้ที่เกี่ยวข้องกับนักแสดง เช่น davikah, channel. one31, และ terchantavit เป็นต้น โดยแพลตฟอร์ม TikTok สามารถสร้างการมีส่วนร่วมสูงสุดที่ 35.79%

อันดับที่ 10 ละครหนึ่งในร้อย (9,614,475 Engagement)

 ละคร “หนึ่งในร้อย” จากช่อง 3 สร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกันของดอกไม้สด เล่าเรื่องราวของหญิงสาวทายาทนายธนาคารผู้สูงศักดิ์ ที่ครอบครัวคัดสรรคู่ครองให้ด้วยความพิถีพิถัน วิชัย ผู้พิพากษาหนุ่มบังเอิญเข้ามาเป็นพ่อสื่อ ช่วยกีดกันชายที่ไม่เหมาะสม แต่อนงค์กลับพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อพิชิตใจวิชัยให้ได้ ในสื่อสังคมออนไลน์ พบว่าการมีส่วนร่วม (Engagement) ส่วนใหญ่เกิดจากการโปรโมทละครจากช่องทางอย่างเป็นทางการของช่อง 3 และนักแสดงนำ เช่น Ch3 Thailand, ญาญ่า อุรัสยา และ ต่อ ธนภพ เป็นต้น โดยสื่อและสำนักข่าวสามารถสร้าง Engagement ได้มากที่สุด ส่วนใหญ่มาจากช่องทางอย่างเป็นทางการของช่อง 3 ที่มีการโปรโมทและได้ Engagement สูง โดยแพลตฟอร์ม TikTok สามารถสร้าง Engagement สูงสุดที่ 48.22%

ผลการสำรวจการสื่อสารออนไลน์ในเดือนตุลาคม 2567 ในด้านกลุ่มเนื้อหา ผู้สื่อสาร แพลตฟอร์ม

กลุ่มเนื้อหา

จาก 10 ประเด็นที่ได้รับความสนใจและมีการสื่อสารในสื่อสังคมออนไลน์มากที่สุดในช่วงเดือนตุลาคม 2567 สามารถจำแนกเนื้อหาออกเป็น 3 กลุ่ม ตามจำนวน Engagement ดังนี้

อันดับหนึ่ง กลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง รวม 217,355,959 Engagement คิดเป็น 55.36% จาก 7 ประเด็น ประกอบด้วย อันดับ 2 หมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระ (84,970,100 Engagement) ตามด้วยภาพยนตร์ธี่หยด 2 (40,502,912 Engagement), การประกวด Miss Grand International 2024 (29,871,433 Engagement), คอนเสิร์ต Knock Knock Knock: BUS 1st THAILAND FANCON TOUR (28,391,620 Engagement), ซีรีส์ปิ่นภักดิ์ (13,948,360 Engagement), ละครแม่หยัว (10,057,059 Engagement) และละครหนึ่งในร้อย (9,614,475 Engagement)

อันดับสอง กลุ่มเนื้อหาอาชญากรรม อุบัติเหตุ พบ 2 ประเด็น จำนวน 145,102,922 Engagement คิดเป็น 36.95% คือคดีดิไอคอนกรุ๊ป (103,965,017 Engagement) ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา (41,137,905 Engagement)

อันดับสาม กลุ่มเนื้อหาศาสนา ความเชื่อ พบ 1 ประเด็น จำนวน 30,190,697 Engagement คิดเป็น 7.69% คือ อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม

จะเห็นว่า กลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง ยังคงเป็นกลุ่มเนื้อหาหลักที่ได้รับ Engagement สูงติด 10 อันดับแรก ของทุกเดือน โดยในเดือนตุลาคม 2567 พบว่าหมูเด้งยังคงได้รับความนิยมใกล้เคียงกับเดือนกันยายน 2567 แต่ด้วยในเดือนนี้มีประเด็นคดีดิไอคอนกรุ๊ปซึ่งมีผู้เสียหายจำนวนมากและมีผู้มีชื่อเสียง ดารา นักแสดงที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทำให้สื่อสังคมออนไลน์ให้ความสนใจมากกว่าหมูเด้ง

กลุ่มเนื้อหาที่ได้รับความสนใจมากที่สุดจำแนกตามผู้สื่อสารและแพลตฟอร์ม

กลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง มีกลุ่มผู้สื่อสารที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วม หรือมี Engagement มากที่สุด คือ ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ (54.52%) รองลงมา ได้แก่ ผู้ใช้งานทั่วไป (38.30%), สื่อ สำนักข่าว (6.93%) และ แบรนด์ (0.25%) โดยมี TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement มากที่สุดที่ 58.58% รองลงมาได้แก่ X (15.04%), Facebook (13.90%), Instagram (10.67%) และ YouTube (1.81%)

กลุ่มเนื้อหาอาชญากรรม อุบัติเหตุ มีกลุ่มผู้สื่อสารที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วม หรือมี Engagement มากที่สุด คือ สื่อ สำนักข่าว (47.23%) รองลงมา ได้แก่สื่อ ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ (38.26%), ผู้ใช้งานทั่วไป (14.06%) และ อื่น ๆ ได้แก่ พรรคการเมือง (0.28%) แบรนด์ (0.15%) ภาครัฐ (0.02%) โดยมี TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement มากที่สุดที่ 49.70% รองลงมาได้แก่ Facebook (35.65%), YouTube (5.52%), X (4.99%) และ Instagram (4.14%)

กลุ่มเนื้อหาศาสนา ความเชื่อ มีกลุ่มผู้สื่อสารที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วม หรือมี Engagement มากที่สุด คือ ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ (38.37%) รองลงมา ได้แก่ ผู้ใช้งานทั่วไป (33.38%), สื่อ สำนักข่าว (28.21%) และ แบรนด์ (0.04%) โดยมี TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement มากที่สุดที่ 68.29% รองลงมาได้แก่ Facebook (24.83%), YouTube (4.58%), Instagram (1.25%) และ X (1.05%)

กลุ่มผู้สื่อสาร ในภาพรวมช่วงเดือนตุลาคม 2567 พบว่ากลุ่มผู้สื่อสารที่สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ในสื่อออนไลน์ สามารถแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มหลัก ได้แก่ ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ (47.27%) ตามด้วย ผู้ใช้งานทั่วไป ในสัดส่วน (28.97%), สื่อ สำนักข่าว (23.46%), แบรนด์ (0.20%) พรรคการเมือง (0.09%) และภาครัฐ (0.01%)

กลุ่มผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) สูงสุดในกลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง จากการโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหมูเด้ง เช่น การโพสต์ภาพชีวิตประจำวันของหมูเด้ง การเต้น Cover เพลงหมูเด้ง รวมถึงครูบาเฮงที่สอนธรรมะโดยการใช้ตัวละครฮิปโปที่ชื่อหมูเด้ง ส่วนภาพยนตร์ธี่หยด 2 เป็นการโปรโมทภาพยนตร์ตามสื่อช่องทางต่าง ๆ ส่วนในกลุ่มเนื้อหาอื่น ๆ ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์มีบทบาทในการสรุปประเด็นที่เกิดขึ้น เช่น สรุปประเด็นในคดีดิไอคอน ทำความรู้จักกับอาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม เป็นต้น ตัวอย่างกลุ่มมีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ที่สามารถสร้าง Engagement ได้สูง ได้แก่ pairoat.edit2, khamoo.andthegang, gurion99 เป็นต้น

ผู้ใช้งานทั่วไป สามารถสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ได้มากที่สุดในกลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง โดยส่วนใหญ่เกิดจากการแชร์ภาพหมูเด้ง, คอนเสิร์ต Knock Knock Knock: BUS1st THAILAND FANCON TOUR, ภาพยนตร์ธี่หยด 2, การประกวด Miss Grand International 2024, ละครแม่หยัว, ละครหนึ่งในร้อย และซีรีส์ปิ่นภักดิ์ รวมถึงการกล่าวถึงอาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม โดยการแชร์ข้อมูลคำสอนของอาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม ส่วนประเด็นคดีดิไอคอนกรุ๊ป และไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา เป็นการแชร์ข้อมูล การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น การแชร์ภาพอุบัติเหตุ การตัดคลิปข่าวมาโพสต์ซ้ำ การแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นต้น

สื่อ สำนักข่าว สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) สูงสุดในกลุ่มเนื้อหาอาชญากรรรม อุบัติเหตุ จาก คดีดิไอคอนกรุ๊ป และไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา โดยสื่อ สำนักข่าวยังคงมีบทบาทสำคัญในการนำเสนอข่าวที่มีเนื้อหาหนักอย่างอาชญากรรม อุบัติเหตุ ด้วยผู้สื่อข่าวสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลและมีทักษะในการนำเสนอที่ดีกว่าผู้สื่อสารกลุ่มอื่น ๆ

ส่วนกลุ่มผู้สื่อสารอื่น ๆ ได้แก่ แบรนด์, พรรคการเมือง และ ภาครัฐ พบว่า แม้ในภาพรวมสร้าง Engagement ได้น้อยกว่า 3 กลุ่มแรก แต่ก็สามารถสร้างการมีส่วนร่วมในกลุ่มเนื้อหาอาชญากรรม อุบัติเหตุ, สื่อ สิ่งบันเทิง, ศาสนาและความเชื่อ แม้จะไม่ได้เป็นผู้สื่อสารหลัก ยกตัวอย่างประเด็นคดีดิไอคอนกรุ๊ป พบว่าห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม แถลงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับดิไอคอนกรุ๊ป หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติโพสต์ความคืบหน้าของคดีดิไอคอนกรุ๊ป เป็นต้น

แพลตฟอร์มการสื่อสาร

จากการสำรวจ 10 อันดับประเด็นที่ได้รับความสนใจสูงสุดในโลกออนไลน์ช่วงเดือนตุลาคม 2567 ในภาพรวมพบว่าแพลตฟอร์มที่สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) มากที่สุดเรียงตามลำดับคือ TikTok ซึ่งมีสัดส่วน 56.04% ตามด้วย Facebook 22.78%, X 10.25%, Instagram 7.54% และ YouTube 3.39%

 เมื่อพิจารณารายแพลตฟอร์ม พบว่า TikTok ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) สูงที่สุดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 ในกลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง สาเหตุมาจากความนิยมในเนื้อหาวิดีโอที่ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ชื่นชอบในเดือนนี้ เช่น การพากย์เสียงหมูเด้ง, การตามติดหมูเด้งในอิริยาบถต่าง ๆ, การเผยแพร่วิดีโอที่เกี่ยวข้องกับหมูเด้ง, การเผยแพร่คำสอนพุทธศาสนาของอาจารย์เบียร์ รวมถึงการสรุปเหตุการณ์ของคดีดิไอคอน ซึ่ง TikTok สามารถตอบโจทย์การสื่อสาร และสร้าง Engagement จากคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอสั้นได้ดีกว่าแพลตฟอร์มอื่น

ขณะที่แพลตฟอร์ม X พบว่า เด่นในกลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง โดยเฉพาะจากซีรีส์ปิ่นภักดิ์ ซึ่งมี Engagement บนแพลตฟอร์ม X เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนตุลาคม 2567 ที่ 73.37% ทั้งนี้ การสื่อสารในแพลตฟอร์ม X ส่วนใหญ่จะเป็นการสื่อสารหรือแสดงความสนใจในเรื่องเฉพาะเจาะจง เช่น ดารา นักแสดงวัยรุ่น คอนเสิร์ต หรือซีรีส์ที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายทางเพศ หรือเนื้อหาที่ต้องการความสดใหม่และการสื่อสารแบบเรียลไทม์ จากกลุ่มแฟนคลับละคร รวมถึงแฟนคลับนักแสดงที่ชื่นชอบละครแนวแซฟฟิค หรือ หญิงรักหญิง ที่พบว่าเริ่มเป็นที่นิยมหรือมีการสื่อสารใน X มากขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2567

แม้ X จะเป็นแพลตฟอร์มที่กลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง สามารถสร้าง Engagement ได้สูงต่อเนื่อง แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตระหนกในสังคม เช่น เหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา X ก็เป็นช่องทางในการแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การอัพเดทสถานการณ์ รวมถึงการสดุดีต่อวีรกรรมของครูที่เสียชีวิตจากการปกป้องเด็กนักเรียน ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับเหตุการณ์กราดยิงที่สยามพารากอน ที่ X มีบทบาทในการอัพเดทสถานการณ์ขณะเกิดเหตุ การสื่อสารเพื่อหาพื้นที่ปลอดภัยของผู้ประสบเหตุ ทำให้ X เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการอัพเดทข้อมูลข่าวสารที่ทันการณ์หากเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ หรือเป็นประเด็นที่มีความสนใจเป็นวงกว้าง

Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement จาก อาชญากรรม อุบัติเหตุ และ สื่อ สิ่งบันเทิง โดยกลุ่มเนื้อหา อาชญากรรม อุบัติเหตุ จะมาจากสื่อหรือนักข่าวที่ลงพื้นที่เป็นตัวกลางในการสื่อสารเพื่อติดตาม เพื่อรายงานเรื่องราวที่สังคมกำลังให้ความสนใจ เช่น ภาพเหตุการณ์การเข้าจับกุมบอสพอล วรัตน์พล และทีมผู้บริหารดิไอคอนกรุ๊ป, การอัพเดทเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาการดีเบตในประเด็นความเชื่อเรื่องดวงระหว่างอาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม กับหมอดู ในรายการโหนกระแส เป็นต้น ส่วนสื่อ สิ่งบันเทิง เป็นการโปรโมท ละครแม่หยัว ละครหนึ่งในร้อย จากช่องทางอย่างเป็นทางการอย่าง One31 และ ช่อง 3 ทำให้ Facebook มีบทบาทในการสร้าง Engagement ของกลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง ด้วยเช่นกัน

Instagram สร้าง Engagement ได้สูง ในกลุ่มเนื้อหา สื่อ สิ่งบันเทิง และอาชญากรรม อุบัติเหตุ เนื่องจากเป็นช่องทางที่สามารถแบ่งปันภาพถ่ายได้ดีที่สุด และเป็นช่องทางที่ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ส่วนใหญ่เลือกใช้มากในทุกกลุ่มเนื้อหา เช่น การแชร์ภาพบรรยากาศคอนเสิร์ต, การโพสต์โปรโมทละครของนักแสดง, การโพสต์ภาพผู้เข้าประกวด Miss Grand International 2024, การแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา เป็นต้น

YouTube เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement ได้สูงจากกลุ่มเนื้อหาอาชญากรรม อุบัติเหตุ โดยเฉพาะจากสื่อ สำนักข่าว ทั้งนี้ เนื่องจากคดีดิไอคอนกรุ๊ป และเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา เป็นประเด็นที่ผู้รับสารต้องการเปิดรับข้อมูลจากสื่อมวลชน ซึ่งถือเป็นแหล่งข่าวที่มีความน่าเชื่อถือ และสามารถลงพื้นที่เพื่อติดตามและรายงานสถานการณ์ได้ดีกว่ากลุ่มผู้สื่อสารอื่น ๆ แต่เป็นที่น่าสนใจว่ากลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิงที่อยู่ใน YouTube มักถูกใช้โดยผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ เช่น คอนเทนต์ดูธี่หยด 2 คนเดียว การโพสต์ซีรี่ส์หรือละครตอนต่าง ๆ บนช่องทางอย่างเป็นทางการของช่องที่ออกอากาศหรือจากทางผู้สร้างละคร เป็นต้น

กล่าวโดยสรุป การสื่อสารออนไลน์ของเดือนตุลาคม 2567 ในภาพรวม 10 อันดับแรก พบว่า กลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง ได้ความสนใจสูงถึง 7 อันดับ คิดเป็นสัดส่วนที่ 55.36% โดยนับรวม หมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระ (อันดับที่ 2) นอกนั้นเป็นสื่อและกิจกรรมให้ความบันเทิง คือ ภาพยนตร์ธี่หยด 2 (อันดับที่ 4) การประกวด Miss Grand International 2024 (อันดับที่ 6) คอนเสิร์ต Knock Knock Knock: BUS1st THAILAND FANCON TOUR (อันดับ 7) ซีรีส์ปิ่นภักดิ์ (อันดับ 8) ละครแม่หยัว (อันดับ 9) ละครหนึ่งในร้อย (อันดับ 10) ตามด้วยกลุ่มเนื้อหา อาชญากรรม อุบัติเหตุ คิดเป็นสัดส่วนที่ 36.95% จาก 2 ประเด็น ได้แก่ ประเด็น คดีดิไอคอนกรุ๊ป (อันดับ 1) ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา (อันดับ 3) นอกจากนี้ ยังพบกลุ่มเนื้อหาศาสนา ความเชื่อ คิดเป็นสัดส่วนที่ 7.69% จากประเด็นอาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม (อันดับ 5)

ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์สร้าง Enagaement ได้มากกว่าผู้ใช้งานทั่วไป

             ในเดือนกันยายนที่ผ่านมาผู้ใช้งานทั่วไปมีบทบาทในการสร้าง Engagement ได้สูงที่สุดเมื่อเทียบกับผู้สื่อสารกลุ่มอื่น แต่ในเดือนตุลาคม 2567 พบว่า ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์สามารถสร้าง Engagement สูงที่สุด ทั้งนี้อาจมาจาก มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเนื้อหา สื่อ สิ่งบันเทิง มากถึง 7 ประเด็น นอกจากนั้นในกลุ่มเนื้อหาอื่น อย่างศาสนา ความเชื่อ ที่ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์สามารถสร้าง Engagement ได้เป็นอันดับที่ 1 ในขณะเดียวกันในกลุ่มเนื้อหาอาชญากรรม อุบัติเหตุ ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ก็สามารถสร้าง Engagement ได้เป็นอันดับที่ 2 ส่งผลในเดือนตุลาคม 2567 ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ สามารถสร้าง Engagement มาเป็นอันดับที่ 1

หมูเด้งยังคงได้รับความนิยมใกล้เคียงกับเดือนที่แล้ว / สื่อ สิ่งบันเทิงยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

หมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 แต่ในเดือนตุลาคม 2567 นอกจากการนำเสนอความน่ารักของหมูเด้งแล้ว ยังพบการนำชื่อของหมูเด้งไปเป็นส่วนประกอบของเนื้อหาแล้วโพสต์ลงในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อให้ได้รับความนิยม เช่น การแต่งเพลงหมูเด้ง การทำหมูเด้งให้เป็นการ์ตูน เป็นต้น ทั้งนี้วิดิโอเหล่านั้นก็ประสบความสำเร็จในแง่ของ Engagement ยกตัวอย่าง บัญชี krubaheng ที่นำหมูเด้งไปเป็นตัวละครในวิดีโอของตนเองแล้วประสบความสำเร็จ ได้รับ Engagement สูง ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้ทำให้หมูเด้งได้รับความนิยมในเดือนตุลาคมนี้ใกล้เคียงกับเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ละครหนึ่งในร้อย แม้จะอยู่ในกลุ่มเนื้อหา สื่อ สิ่งบันเทิง แต่กลับมีผู้สื่อสารหลักเป็น สื่อ สำนักข่าว เนื่องจาก Engagement ส่วนใหญ่มาจากการโปรโมทละครของช่องทางอย่างเป็นทางการของช่อง 3  ซึ่งเป็นที่น่าสนใจว่า จากการสำรวจข้อมูลที่ผ่านมา กลุ่มสื่อ สำนักข่าว มักมีบทบาทมากในการสื่อสาร กลุ่มเนื้อหา อาชญากรรม อุบัติเหตุ และการเมือง ในขณะที่กลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป เช่น กลุ่มแฟนคลับ มักมีบทบาทสูงในการสื่อสารเรื่องบันเทิง เช่น ละครที่เป็นกระแสต่างๆ  แต่ผลการสำรวจครั้งนี้พบว่า ช่อง 3 คือผู้สื่อสารหลักเพื่อโปรโมทละครของช่อง จนทำให้ในภาพรวม Engagement ของละครหนึ่งในร้อยส่วนใหญ่มาจากกลุ่มสื่อ สำนักข่าว เป็นหลัก  

 คดีดิไอคอนกรุ๊ปขึ้นมาเป็นอันดับที่ 1 แซงหน้าหมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระ

คดีดิไอคอนกรุ๊ปเป็นประเด็นที่ได้รับ Engagement เป็นอันดับที่ 1 สาเหตุจากเกิดจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก และมีผู้ต้องหาเป็นผู้มีชื่อเสียงทั้งดารา นักแสดง พิธีกร ส่งผลให้สื่อสังคมออนไลน์ให้ความสนใจเป็นอย่างมากจนแซงหมูเด้งลูก ฮิปโปแคระ ที่ได้รับ Engagement เป็นอันดับที่ 1 ในเดือนกันยายน

เหตุการณ์สะเทือนขวัญแม้ได้รับความสนใจเป็นช่วงเวลาที่สั้น แต่สามารถสร้าง Engagement ที่สูง

 จากเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของเด็กนักเรียน จนเป็นเหตุให้มีนักเรียนและครูเสียชีวิตจำนวน 23 คน ทำให้สังคมออนไลน์อยู่ในความตื่นตระหนกและแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้จำนวน Engagement พุ่งขึ้นสูงในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ และลดลงอย่างมากหลังจากผ่านไปเพียง 2 วัน ซึ่งรูปแบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อเดือนตุลาคม 2566 ที่มีเหตุการณ์ยิงใส่ฝูงชนที่ห้างสยามพารากอน โดยในช่วงเวลาเกิดเหตุพบว่าจำนวน Engagement พุ่งขึ้นสูง และลดระดับลงอย่างรวดเร็วเมื่อเวลาผ่านไปเพียง 1 -2 วัน

ทั้งนี้เหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษายังมีประเด็นที่สอดแทรกขึ้นมาเช่น ความกังวลเรื่องการทัศนศึกษาของเด็กเล็ก หรือความตื่นตัวในเรื่องรถบัสนำเที่ยวที่ไม่ได้มาตรฐานตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด แต่กลับสามารถนำรถออกมาให้บริการได้ แต่ประเด็นดังกล่าวก็เลือนหายไปจากการสื่อสารออนไลน์ในเวลาไม่นาน เช่นเดียวกับกระแสความสนใจในประเด็นอุบัติเหตุอื่น ๆ

ประเด็นที่ไม่ติด 10 อันดับแรก และแนวโน้มความสนใจในภาพรวม

จากการสำรวจข้อมูลในเดือนตุลาคม 2567 ยังพบว่ามีประเด็นเชิงสังคม และข่าวใหญ่อื่น ๆ ที่แม้จะไม่ติด 10 อันดับแรก แต่อยู่ในความสนใจในอันดับที่ 11-20 เช่น คดีนักธุรกิจสาวแจ้งความทนายษิทราข้อหาฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท  (อันดับที่ 11) อุทกภัยที่จังหวัดเชียงใหม่ (อันดับที่ 13) คดีตากใบสิ้นสุดอายุความ (อันดับที่ 15) และพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค (อันดับที่ 17) เป็นต้น 

ความสนใจของโลกออนไลน์ใน 10 อันดับแรก ของเดือนตุลาคม 2567 มีแนวโน้มเหมือนเดือนที่ผ่านมาตั้งแต่ช่วงมกราคม 2567 ที่มักเป็นเรื่องของสื่อ สิ่งบันเทิง เป็นหลัก แต่ถ้ามีประเด็นที่ ส่งผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง หรือเหตุฉุกเฉินสะเทือนอารมณ์ เกิดขึ้นเมื่อใดก็สามารถ ติดอันดับขึ้นมาได้เช่นกัน เช่น คดีดิไอคอนกรุ๊ป ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา  เป็นต้น เป็นที่น่าสนใจว่าในช่วงปลายปี 2567 กลุ่มเนื้อหาเทศกาลอย่างวันลอยกระทง และวันส่งท้ายปีเก่า จะสามารถติด 1 ใน 10 อันดับ ประเด็นที่ถูกกล่าวถึงบนสื่อสังคมออนไลน์เช่นเดียวกับปี 2566 หรือไม่ รวมถึงเทศกาลอื่น ๆ อย่าง คริสต์มาส หรือวันสำคัญ อย่างวันรัฐธรรมนูญ จะถูกกล่าวถึงบนสื่อสังคมออนไลน์มากน้อยเพียงใด

10 ประเด็นที่ได้รับความสนใจ มีการสื่อสารและมีส่วนร่วมมากที่สุดในโลกออนไลน์ เดือนกันยายน 2567

“หมูเด้ง” ขึ้นอันดับ 1 เดือน ก.ย. 67 อุทกภัยในภาคเหนือและภาคอีสานติดอันดับ 2 และอันดับ 10 ส่วนคดีทอง “แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์” ขึ้นอันดับ 5 และ TikTok ยังคงเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยม

การสำรวจประเด็นการสื่อสารในโลกออนไลน์ 5 แพลตฟอร์ม ในเดือนกันยายน 2567 พบว่า หมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระ เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 ด้วยสัดส่วน Engagement มากถึง 34.24% ตามด้วยอุทกภัยทางภาคเหนือ เป็นอันดับ 2 ด้วยสัดส่วน Engagement ที่ 27.47% อ๋อม อรรคพันธ์ เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ ติดอันดับ 3 ด้วยสัดส่วน 8.21% ซีรีส์ปิ่นภักดิ์เป็นอันดับ 4 ด้วยสัดส่วน Engagement ที่ 5.63% ด้านน้องหมีเนย หล่นจากอันดับที่ 5 เมื่อ ส.ค.67 เป็นอันดับที่ 8 ด้วยสัดส่วน 3.81%

สาเหตุที่หมูเด้ง เป็นประเด็นที่คนในสังคมออนไลน์ให้ความสนใจเป็นอันดับ 1 ในเดือนกันยายน 67 เริ่มจากเพจขาหมู แอนด์เดอะแก๊งโพสต์ภาพลูกฮิปโปแคระที่มีความน่ารักและมีเอกลักษณ์ คือ ชอบกระโดดเด้งไปมา ทำให้เกิดกระแสชื่นชอบบนสังคมออนไลน์ทั้งในไทยและต่างประเทศ จนกลายเป็นไวรัลในโลกโออนไลน์ และส่งผลให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปเยี่ยมชม หมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว

  ข้อสังเกต คือ แม้เดือนกันยายน 67 เป็นเดือนที่มีเหตุการณ์สำคัญทางการเมือง เช่น โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี หรือมีคณะรัฐบาลเต็มรูปแบบ นายกรัฐมนตรีแพทองธารแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 ฯลฯ รวมถึงยังมีเหตุการณ์อื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น ฟุตซอลชิงแชมป์โลกที่ทีมชาติไทยได้เข้าร่วมแข่งขัน, ดราม่าครูเบญที่ชื่อหายไปจากประกาศผลการรับสมัครพนักงานราชการ, จำคุกครูไพบูลย์ นักแต่งเพลงชื่อดังข้อหาพรากผู้เยาว์ เป็นต้น แต่ประเด็นเหล่านี้กลับไม่ติด 10 อันดับแรก   

10 ประเด็นที่ได้รับความสนใจ มีการสื่อสารและมีส่วนร่วมมากที่สุดในโลกออนไลน์ เดือนกันยายน 2567

Media Alert กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับ Wisesight ศึกษาการสื่อสารออนไลน์ของสังคมไทย โดยใช้เครื่องมือ ZocialEye สำรวจจาก 5 แพลตฟอร์ม ได้แก่ 1) Facebook 2) X 3) Instagram 4) YouTube และ 5) TikTok โดยเริ่มจากการค้นหาเทรนด์ หรือกระแสสังคมที่เป็นที่พูดถึง เช่น Wisesight Trend และเทรนด์ของแพลตฟอร์มทั้ง 5 แพลตฟอร์ม หลังจากนั้นใส่คำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญที่พบจากการสำรวจในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา เช่น หมูเด้ง น้ำท่วม อ๋อม อรรคพันธ์ เป็นต้น จากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาคัดกรองและจัดหมวดหมู่ประเด็น กลุ่มเนื้อหา ประเภทแพลตฟอร์ม กลุ่มผู้สื่อสาร ตามเกณฑ์ที่ได้จัดทำขึ้น แล้วอธิบายสรุปข้อมูลสำคัญที่ค้นพบใน 10 อันดับ Engagement ของเดือนที่ทำการสำรวจ โดยอ้างอิงจากหลักฐานเชิงประจักษ์ (Empirical Data) ได้แก่ ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ วันที่และเวลา จำนวนค่าปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเที่ยงตรง และลดอคติของนักวิเคราะห์ข้อมูล โดยประเด็นที่โลกออนไลน์ให้ความสนใจในช่วงเดือนกันยายน 2567 มีดังนี้

อันดับที่ 1 หมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระ (86,830,577 Engagement)

            หมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระ ที่โด่งดังในสื่อสังคมออนไลน์ จากการโพสต์เพื่อแนะนำ เชิญชวนตั้งชื่อ และนำเสนอความน่ารัก ในอิริยาบถต่าง ๆ เช่น การกิน การเล่นน้ำ การหยอกล้อกับผู้ดูแล แม้ตอนนอนหลับก็ยังเป็นที่สนใจ  โดยเฉพาะเอกลักษณ์จากการเด้งหรือดีดตัวจนเป็นกระแสโด่งดังในสื่อหลักและสื่อสังคมออนไลน์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปเยี่ยมชมความน่ารักของหมูเด้งที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ส่วนในสื่อสังคมออนไลน์มีการติด #หมูเด้ง ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทำให้กลายเป็นไวรัลขึ้นมา โดยเฉพาะใน TikTok ที่สามารถสร้าง Engagement มากที่สุด ที่ 59.11% โดยผู้สร้าง Engagement มากที่สุดเป็นผู้ใช้งานทั่วไป

อันดับที่ 2 อุทกภัยภาคเหนือ (69,669,213 Engagement)

            อุทกภัยภาคเหนือที่จังหวัดเชียงราย สามารถสร้าง Engagement เป็นอันดับที่ 8 ในเดือนสิงหาคม แต่ในเดือนกันยายน สามารถสร้าง Engagement มากขึ้นเป็นอันดับที่ 2 โดยเฉพาะเหตุการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดเชียงรายที่สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนและโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนและระบบไฟฟ้า ทำให้การสัญจรถูกตัดขาด โดยในสื่อสังคมออนไลน์ยังคงให้กำลังใจผู้ประสบภัย การบริจาคสิ่งของและเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่สิ่งที่แตกต่างจากเดือนสิงหาคม คือ ผู้สร้าง Engagement สูงสุดกลับกลายเป็นผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ ที่มีบทบาทในการกล่าวถึงภัยพิบัติในครั้งนี้ เช่น บัญชี win.william_official ที่โพสต์วิดิโอนำของไปบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัย, บัญชี Jha_eves โพสต์วิดีโอบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย และให้กำลังใจผู้ประสบภัย เป็นต้น โดยมี TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement สูงสุดที่ 46.35%

อันดับที่ 3 อ๋อม อรรคพันธ์ เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง (20,817,761 Engagement)

            อ๋อม อรรคพันธ์ นะมารต์ นักแสดงช่อง 7 มีผลงานละครมากมาย เช่น สัจจะในชุมโจร, อินทรีแดง, ราชนาวีที่รัก ฯลฯ โดยผลงานที่สร้างชื่อเสียงคือละครเรื่องพระจันทร์ลายพยัคฆ์ ได้เสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ เมื่อวันที่ 21 กันยายน สร้างความโศกเศร้าและ ร่วมแสดงความเสียใจทางสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งจากสื่อ สำนักข่าว รวมทั้งนักแสดงที่เคยร่วมงานกับอ๋อม อรรคพันธ์ เช่น ขวัญ อุษามณี, มิน พิชญา ในแง่ผู้ส่งสารพบว่าสื่อ สำนักข่าว สามารถสร้าง Engagement ได้มากที่สุด เช่น thairath_ent, Khaosod—ข่าวสด และ Ch7HD เป็นต้น โดยแพลตฟอร์ม Facebook สามารถสร้าง Engagement ได้สูงที่สุด ที่ 55.21%

อันดับที่ 4 ซีรีส์ปิ่นภักดิ์ (14,264,331 Engagement)

            ปิ่นภักดิ์ ซีรีส์แนวแซฟฟิค (Sapphic) หรือหญิงรักหญิงนำแสดงโดยฟรีน สโรชา และ เบ็คกี้ รีเบคก้า กลับมาติด 10 อันดับอีกครั้ง จากการติดใน 10 อันดับเมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา สาเหตุที่ปิ่นภักดิ์ ได้รับความสนใจอีกครั้ง อาจมาจากการเข้าสู่ช่วงกลางของซีรีส์ ทำให้มีเนื้อหาที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ ตอนที่ 7 และ 8 ที่มีฉากรักระหว่างนักแสดงนำ ทำให้ถูกกล่าวถึงเป็นจำนวนมากจากผู้ชมซีรีส์ และกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบละครแนวแซฟฟิค โดยผู้ใช้งานทั่วไป สร้าง Engagement มากที่สุด มีแพลตฟอร์ม X สร้าง Engagement สูงสุด ที่ 72.04% 

อันดับที่ 5 คดีซื้อขายทองออนไลน์ของแม่ตั๊ก – ป๋าเบียร์ (11,770,775 Engagement)

            ดราม่าร้านขายทองออนไลน์ของแม่ตั๊ก กรกนก และ ป๋าเบียร์ กานต์พล ถูกกล่าวถึงบนสื่อสังคมออนไลน์ หลังจากมีผู้ใช้งานออกมาโพสต์ว่าได้ซื้อสินค้าจากร้านทองออนไลน์ แต่เมื่อนำมาขายต่อ ร้านทองไม่รับซื้อ เพราะไม่มีใบรับรองและน้ำหนักน้อย จากนั้นรายการโหนกระแสได้เชิญ แม่ตั๊ก และ ป๋าเบียร์ ร่วมออกรายการกับ ผู้เสียหายจากการซื้อทองออนไลน์ ทำให้กลายเป็นไวรัล โดยผู้ใช้งานที่สร้าง Engagement ได้มากที่สุด ได้แก่ สื่อ สำนักข่าว เช่น ไทยรัฐ, ข่าวสด เป็นต้น จากการทำข่าวบรรยากาศหน้าร้านทองแม่ตั๊กที่ลูกค้านำทองไปคืน เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกบ้านจับแม่ตั๊ก และ ป๋าเบียร์ ในข้อหาฉ้อโกงประชาชนและผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ โดยพบว่าแพลตฟอร์ม Facebook มีอัตราการสร้าง Engagement สูงสุดถึง 60.48%

อันดับที่ 6 แน็ก ชาลี ประกาศยุติความสัมพันธ์กับกามิน (11,613,669 Engagement)

            แน็ก ชาลี หรือ ชาลี ไตรรัตน์ นักแสดงที่โด่งดังจากภาพยนตร์แฟนฉัน เมื่อปี 2546 ต่อมายังมีผลงานในวงการบันเทิงออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งมีช่องยูทูปของตัวเอง ช่วงต้นปี 67  แน็ก ชาลี และติ๊กต๊อกเกอร์สาวชาวเกาหลีชื่อ “กามิน” ได้เป็นไวรัลบนโซเชียลมีเดีย ต่อมาทั้งคู่กลายเป็นขวัญใจชาวโซเชียล แต่ต้นเดือน กันยายน 67 แน็ก ชาลี ชี้แจงผ่านไลฟ์ว่าความสัมพันธ์ กับ กามิน TikToker แฟนสาวชาวเกาหลีใต้ได้สิ้นสุดลงแล้วตั้งแต่เดือนสิงหาคม โดยยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาส่วนตัวกับกามิน และอยากให้แยกย้ายกันไปทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ หลังจากก่อนหน้ามีการไลฟ์ตอบโต้กันไปมา โดยในสื่อสังคมออนไลน์ต่างตำหนิกามิน โดยเฉพาะประเด็นการเสียภาษี การมองคนไทยเป็นเพียงแหล่งหาเงิน ผู้ใช้งานที่สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ได้มากที่สุด ได้แก่ ผู้ใช้งานทั่วไป โดยพบว่าแพลตฟอร์ม TikTok มีอัตราการสร้าง Engagement สูงสุดถึง 50.05%

อันดับที่ 7 งาน MCHOICE & MINT AWARD 2024 (11,432,641 Engagement)

         งาน MCHOICE & MINT AWARD 2024 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2567 เพื่อมอบรางวัลให้กับศิลปิน ดารานักแสดงรุ่นใหม่ที่ได้รับความนิยมและมีผลงานเป็นที่น่าสนใจในรอบปี ภายในงานมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เช่น การขายสินค้า การเดินพรมแดง รวมถึงแฟชั่นโชว์จากศิลปิน ดารานักแสดง ซึ่งงานในปีนี้ติดอันดับความนิยมเช่นเดียวกับปี 2566 โดยโพสต์ที่ได้รับ Engagement สูงมาจากกลุ่มแฟนคลับและผู้ที่ชื่นชอบศิลปินที่เข้าร่วมงาน ซึ่งมีการแชร์ภาพหรือวิดีโอเกี่ยวกับงานอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการโพสต์รูปภาพการร่วมงานของศิลปิน ดารานักแสดง เช่น ออฟ จุมพล เจ็ท ภัทร์ไพบูลย์ แจ๊คกี้ จักริน เป็นต้น ผู้ใช้งานที่สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ได้มากที่สุด ได้แก่ ผู้ใช้งานทั่วไป โดยแพลตฟอร์ม X มีอัตราการสร้าง Engagement สูงสุดถึง 47.18%

อันดับที่ 8 น้องหมีเนย มาสคอตร้าน Butterbear (9,652,391 Engagement)

            น้องหมีเนย มาสคอตจากร้าน Butterbear ได้รับความสนใจจากสังคมออนไลน์เป็นอันดับ 1 ต่อเนื่องในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม จนเดือนสิงหาคมความนิยมอยู่ในอันดับที่ 5 แต่ในเดือนกันยายน พบว่า ความสนใจลดลงมาอยู่ในอันดับที่ 8 โดยโพสต์ที่ได้รับ Engagement สูง ยังคงเป็นคลิปน้องหมีเนยขณะทำกิจกรรมต่าง ๆ จากช่องทางสื่อสารอย่างเป็นทางการของร้าน Butterbear โดยกลุ่ม มัมหมี หรือแฟนคลับ และจากกิจกรรมที่ทำร่วมกับศิลปิน วิน เมธวิน ในงาน SOURIxButterbear day เป็นต้น ผู้ใช้งานที่สร้าง Engagement มากที่สุดยังคงเป็นผู้ใช้งานทั่วไป โดยมีแพลตฟอร์ม TikTok สร้าง Engagement สูงสุด ที่ 42.34%

อันดับที่ 9 การแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก 2024 (9,107,313 Engagement)

            พาราลิมปิกครั้งที่ 17 จัดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม – 8 กันยายน 2567 โดยนักกีฬาไทยเข้าร่วม 79 คน ได้เหรียญรางวัลรวมทั้งหมด 30 เหรียญ แบ่งเป็น เหรียญทอง 6 เหรียญ เหรียญเงิน 11 เหรียญ เหรียญทองแดง 13 เหรียญ โดยนักกีฬาที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุดในสื่อสังคมออนไลน์ ได้แก่ สายสุนีย์ จ๊ะนะ ที่สามารถกวาดเหรียญทองได้มากถึง 3 เหรียญ จนได้ฉายาราชินีฟันดาบโลก นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงนักกีฬาคนอื่น ๆ เช่น พงศกร แปยอ กับชัยวัฒน์ รัตนะ นักกรีฑา และวรวุฒิ แสงอำภา นักกีฬาบอคเซีย เป็นต้น ผู้ใช้งานที่สร้าง Engagement มากที่สุดยังคงเป็นผู้ใช้งานทั่วไป โดยมีแพลตฟอร์ม Facebook สร้าง Engagement สูงสุด ที่ 56.66%

อันดับที่ 10 อุทกภัยที่จังหวัดหนองคาย (8,428,089 Engagement)

            อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดหนองคาย เกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน ประกอบกับระดับน้ำจากแม่น้ำโขงที่มีปริมาณสูงขึ้นจากการปล่อยน้ำจากเขื่อนในประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงล้นตลิ่ง ท่วมพื้นที่ 6 อำเภอในจังหวัดหนองคาย สร้างความเสียหายต่อพื้นที่ทางการเกษตรหลายหมื่นไร่ ในสื่อสังคมออนไลน์ ส่วนใหญ่เป็นการสื่อสารให้กำลังใจผู้ประสบภัย การบริจาคสิ่งของและเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย เช่นเดียวกับอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ โดยผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์มีบทบาทมากที่สุดในการกล่าวถึงภัยพิบัติครั้งนี้ เช่น บัญชี Cardcnyn โพสต์วิดิโอนำของไปบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัย, บัญชี tack_pharunyoo โพสต์วิดีโอหน่วยกู้ภัยถอนตัวจากเชียงรายไปที่หนองคาย เป็นต้น โดยมี TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement สูงสุดที่ 39.32%

ผลการสำรวจการสื่อสารออนไลน์ในเดือนกันยายน 2567 ในด้านกลุ่มเนื้อหา ผู้สื่อสาร แพลตฟอร์ม

กลุ่มเนื้อหา

จาก 10 ประเด็นที่ได้รับความสนใจและมีการสื่อสารในสื่อสังคมออนไลน์มากที่สุดในช่วงเดือนกันยายน 2567 สามารถจำแนกเนื้อหาออกเป็น 4 กลุ่ม ตามจำนวน Engagement ดังนี้ 

กลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง รวม 154,611,370 Engagement คิดเป็น 60.97% จาก 6 ประเด็น อันดับ 1 คือ หมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระ (86,830,577 Engagement) ซึ่งถูกพูดถึงในฐานะ เซเลบริตี้ และเป็น มีม มากกว่าในมิติความเป็นสัตว์ทั่วไป ตามด้วย อ๋อมอรรคพันธ์ เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง (20,817,761 Engagement), ซีรีส์ปิ่นภักดิ์ (14,264,331 Engagement), แน็ก ชาลี ประกาศยุติความสัมพันธ์กับกามิน (11,613,669 Engagement), งาน MCHOICE & MINT AWARD 2024 (11,432,641 Engagement), น้องหมีเนย มาสคอตร้าน Butterbear (9,652,391 Engagement)

 

กลุ่มเนื้อหาภัยพิบัติ จำนวน 2 ประเด็น จำนวน 78,097,302 Engagement คิดเป็น 30.80% คือ อุทกภัยที่ภาคเหนือ (69,669,213 Engagement) อุทกภัยที่จังหวัดหนองคาย (8,428,089 Engagement)

 

กลุ่มเนื้อหาอาชญากรรม อุบัติเหตุ จำนวน 1 ประเด็น จำนวน 11,770,775 Engagement คิดเป็น 4.64% คือ คดีซื้อขายทองออนไลน์แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์

 

กลุ่มเนื้อหากีฬา จำนวน 1 ประเด็น จำนวน 9,107,313 Engagement คิดเป็น 3.59% คือ การแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก 2024

 

จะเห็นว่า กลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง ยังคงเป็นกลุ่มเนื้อหาหลักที่ได้รับ Engagement สูงติด 10 อันดับแรก ของทุกเดือน โดยเฉพาะในเดือนกันยายน 2567 ที่จัดให้ประเด็น หมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระ จัดอยู่ในกลุ่มนี้ ทำให้ประเด็นหมูเด้ง และกลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง ครองอันดับสูงสุดของความสนใจ  ในขณะที่กลุ่มเนื้อหาอื่น ๆ มักพบว่าได้รับความสนใจในการสื่อสารของโลกออนไลน์ ตามสถานการณ์จริงในขณะนั้น

 

กลุ่มเนื้อหาที่ได้รับความสนใจมากที่สุดจำแนกตามผู้สื่อสารและแพลตฟอร์ม

กลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง มีกลุ่มผู้สื่อสารที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วม หรือมี Engagement มากที่สุด คือ ผู้ใช้งานทั่วไป (48.85%) รองลงมา ได้แก่ ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ (36.01%), สื่อ สำนักข่าว (14.35%) และ แบรนด์ (0.79%) โดยมี TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement มากที่สุดที่ 46.54% รองลงมาได้แก่ Facebook (20.66%), X (19.94%), Instagram (10.82%), YouTube (2.04%)

 

กลุ่มเนื้อหาภัยพิบัติ มีกลุ่มผู้สื่อสารที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วม หรือมี Engagement มากที่สุด คือ ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ (40.04%) รองลงมา ได้แก่สื่อ สำนักข่าว (32.44%), ผู้ใช้งานทั่วไป (24.87%) และ อื่น ๆ ได้แก่ แบรนด์ (2.31%) ภาครัฐ (0.21%) พรรคการเมือง (0.13%) โดยมี TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement มากที่สุดที่ 45.59% รองลงมาได้แก่ Facebook (36.28%), Instagram (7.26%), X (6.52%), YouTube (4.35%)

 

กลุ่มเนื้อหากีฬา มีกลุ่มผู้สื่อสารที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วม หรือมี Engagement มากที่สุด คือ ผู้ใช้งานทั่วไป (44.81%) รองลงมา ได้แก่ ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ (29.89%), สื่อ สำนักข่าว (21.22%) และอื่น ๆ ได้แก่ แบรนด์ (4.02%) พรรคการเมือง (0.04%) และ ภาครัฐ 0.02% โดยมี Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement มากที่สุดที่ 56.66% รองลงมาได้แก่ TikTok (20.54%), X (15.65%), Instagram (5.49%), YouTube (1.66%)

 

กลุ่มเนื้อหาอาชญากรรม อุบัติเหตุ มีกลุ่มผู้สื่อสารที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วม หรือมี Engagement มากที่สุด คือสื่อ สำนักข่าว (69.49%) รองลงมา ได้แก่ ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ (23.91%), ผู้ใช้งานทั่วไป (6.58%) และ อื่น ๆ ได้แก่ พรรคการเมือง (0.02%) โดยมี Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement มากที่สุดที่ 60.48% รองลงมาได้แก่ TikTok (31.72%), YouTube (5.84%), Instagram (1.64%), X (0.32%)

 

กลุ่มผู้สื่อสาร

            ในภาพรวมช่วงเดือนกันยายน 2567 พบว่ากลุ่มผู้สื่อสารที่สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ในสื่อออนไลน์ สามารถแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มหลัก ได้แก่ ผู้ใช้งานทั่วไป ในสัดส่วน 39.36% ตามด้วย ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ (36.47%), สื่อ สำนักข่าว (22.73%), แบรนด์ (1.33%) ภาครัฐ (0.07%) และ พรรคการเมือง (0.04%)

 

ผู้ใช้งานทั่วไป สามารถสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ได้มากที่สุดในกลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง โดยส่วนใหญ่เกิดจากการแชร์ภาพหมูเด้ง, Highlight ซีรีส์ปิ่นภักดิ์, งาน MCHOICE & MINT AWARD 2024, น้องหมีเนย มาสคอตร้าน Butterbear, อ๋อม อรรคพันธ์ เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง และ แน็ก ชาลี ประกาศยุติความสัมพันธ์กับกามิน รวมถึง การแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก 2024 ในกลุ่มเนื้อหากีฬา ที่ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถสร้าง Engagement ได้สูงกว่าผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ แตกต่างจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ในเดือนกรกฎาคม ที่นักกีฬา หรือผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์สายกีฬาเป็นผู้สร้าง Engagement โดยประเด็นการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก 2024 โพสต์ของผู้ใช้งานทั่วไปส่วนใหญ่เป็นการชื่นชมความสามารถของนักกีฬาของไทย เช่น สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาฟันดาบทีมชาติไทยที่ได้เหรียญทอง 3 เหรียญ นักกรีฑา คือ พงศกร แปยอ และ ชัยวัฒน์ รัตนะ วรวุฒิ แสงอำภา นักกีฬาบอคเซีย รวมถึงนักกีฬาที่เข้าร่วมแข่งขันจนได้เหรียญรวมทั้งสิ้น 30 เหรียญ

 

กลุ่มผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) สูงสุดในกลุ่มเนื้อหาภัยพิบัติ จากการโพสต์ของผู้มีชื่อเสียงในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย เช่น กัน จอมพลัง, Jha_eve, ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เป็นต้น การให้กำลังใจผู้ประสบภัย รวมถึงผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์บางส่วนยังเป็นผู้บริจาคหรือทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการนำของบริจาคไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัยและเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือและชี้เป้าให้แก่ภาครัฐในการช่วยเหลือ ผู้ประสบภัย ตัวอย่างกลุ่มผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ที่สามารถสร้าง Engagement ได้สูง ได้แก่ กัน จอมพลัง, Jha_eve, ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เป็นต้น ต่างจากเดือนสิงหาคม ที่สื่อสำนักข่าวคือกลุ่มที่สื่อสารสร้าง Engagement ในประเด็นนี้ได้มากที่สุด

 

สื่อ สำนักข่าว สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) สูงสุดในกลุ่มเนื้อหาอาชญากรรรม อุบัติเหตุ            จากดราม่าร้านทองแม่ตั๊ก โดยสื่อ สำนักข่าวยังคงมีบทบาทสำคัญในการนำเสนอข่าวที่มีเนื้อหาหนัก เช่น การเมือง ภัยพิบัติ อาชญากรรม อุบัติเหตุ ด้วยผู้สื่อข่าวสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลและมีทักษะในการนำเสนอที่ดีกว่าผู้สื่อสาร อื่น ๆ

 

ส่วนกลุ่มผู้สื่อสารอื่น ๆ ได้แก่ แบรนด์, พรรคการเมือง และ ภาครัฐ พบว่า ในภาพรวมสร้าง Engagement ได้น้อยกว่า 3 กลุ่มแรก แต่ก็มีส่วนในการสร้างการมีส่วนร่วม ในกลุ่มเนื้อหาภัยพิบัติ กีฬา อาชญากรรม อุบัติเหตุ แม้จะไม่ได้เป็นผู้สื่อสารหลัก

ยกตัวอย่างเช่น ในประเด็นอุทกภัยในภาคเหนือ และอุทกภัยที่จังหวัดหนองคาย พบว่า Brand สามารถสร้าง Engagement ได้ดีจากโพสต์ให้กำลังใจ หรือแบรนด์ที่ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย เช่น Eves, The Mall, Sansiri เป็นต้น ในขณะที่ภาครัฐ สามารถสื่อสารสร้าง Engagement ได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม (เพิ่มขึ้นจากเดิม 7.09%) โดย 2 หน่วยงานในกลุ่มภาครัฐที่มีบทบาทในการสื่อสารช่วงเหตุการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ คือ กองพันทหารสื่อสารที่ 4 กองพลทหารราบที่ 4 จากการโพสต์ภาพการช่วยเหลือผู้ประสบภัย, ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองพันปฏิบัติการจิตวิทยา ในกองทัพบก โพสต์ภาพการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เป็นต้น

 

แพลตฟอร์มการสื่อสาร

         จากการสำรวจ 10 อันดับประเด็นที่ได้รับความสนใจสูงสุดในโลกออนไลน์ช่วงเดือนกันยายน 2567 ในภาพรวมพบว่าแพลตฟอร์มที่สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) มากที่สุดเรียงตามลำดับคือ TikTok ซึ่งมีสัดส่วน 44.62% ตามด้วย Facebook 28.61%, X 14.75%, Instagram 9.11% และ YouTube 2.91%

 

 เมื่อพิจารณารายแพลตฟอร์ม พบว่า TikTok ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) สูงที่สุดอย่างต่อเนื่องจากเดือนสิงหาคม ในกลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง สาเหตุมาจากความนิยมในเนื้อหาวิดีโอที่ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ชื่นชอบในเดือนนี้ เช่น การพากย์เสียงหมูเด้ง, การตามติดหมูเด้งในอิริยาบถต่างๆ  นอกจากนั้นพบว่ากลุ่มเนื้อหาภัยพิบัติ ก็ใช้ TikTok ในการสื่อสารเกี่ยวกับการให้กำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม การบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่ง TikTok สามารถตอบโจทย์การสื่อสาร และสร้าง Engagement จากคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอสั้นได้ดีกว่าแพลตฟอร์มอื่น

 

ขณะที่แพลตฟอร์ม X พบว่า เด่นในกลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง เช่นเดียวกับเดือนสิงหาคม โดยเฉพาะจากซีรีส์ปิ่นภักดิ์ ซึ่งมี Engagement บนแพลตฟอร์ม X สูงถึง 72.04% ทั้งนี้ การสื่อสารในแพลตฟอร์ม X ส่วนใหญ่ จะเป็นการสื่อสารหรือแสดงความสนใจในเรื่องเฉพาะเจาะจง เช่น ดารา นักแสดงวัยรุ่น คอนเสิร์ต หรือซีรีส์ที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายทางเพศ หรือเนื้อหาที่ต้องการความสดใหม่และการสื่อสารแบบเรียลไทม์ จากกลุ่มแฟนคลับละคร รวมถึงแฟนคลับนักแสดงที่ชื่นชอบละครแนวแซฟฟิค หรือ หญิงรักหญิง ที่พบว่าเริ่มเป็นที่นิยมหรือมีการสื่อสารใน X มากขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2567

 

Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement จาก อาชญากรรม อุบัติเหตุ และกลุ่มเนื้อหากีฬา โดยกลุ่มเนื้อหาอาชญากรรม อุบัติเหตุ จะมาจากสื่อหรือนักข่าวที่ลงพื้นที่เป็นตัวกลางในการสื่อสารเพื่อรายงาน รวมถึงการวิเคราะห์ที่ต้องใช้ทักษะและประสบการณ์เพื่อความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ต้องการนำเสนอ ส่วนกลุ่มเนื้อหากีฬา ส่วนใหญ่มาจากผู้ใช้งานทั่วไปที่โพสต์แสดงความชื่นชมนักกีฬาพาราลิมปิกที่ได้เหรียญจากการแข่งขันมากที่สุดในประวัติศาสตร์

 

Instagram สร้าง Engagement ได้สูง ในกลุ่มเนื้อหา สื่อ สิ่งบันเทิง และ ภัยพิบัติ เนื่องจากเป็นช่องทางที่สามารถแบ่งปันภาพถ่ายได้ดีที่สุด และเป็นช่องทางที่ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ส่วนใหญ่เลือกใช้มากที่สุดในทุกกลุ่มเนื้อหา เช่น การแชร์ภาพเบื้องหลังละครของกลุ่มนักแสดง, การโพสต์ให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย เป็นต้น

YouTube เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement ได้สูงจากกลุ่มเนื้อหาภัยพิบัติ โดยเฉพาะจากสื่อ สำนักข่าว ทั้งนี้ อาจเนื่องจากข่าวอุทกภัยเป็นประเด็นที่ผู้รับสารต้องการเปิดรับข้อมูลจากสื่อมวลชน ซึ่งถือเป็นแหล่งข่าวที่มีความน่าเชื่อถือ และสามารถลงพื้นที่เพื่อติดตามและรายงานสถานการณ์ได้ดีกว่ากลุ่มผู้สื่อสารอื่น ๆ

กล่าวโดยสรุป การสื่อสารออนไลน์ของเดือนกันยายน 2567 ในภาพรวม 10 อันดับแรก พบว่า กลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง ได้ความสนใจสูงถึง 6 อันดับ คิดเป็นสัดส่วนที่ 60.97%  โดยนับรวมประเด็น หมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระ (อันดับ 1) อ๋อม อรรคพันธ์ เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง (อันดับที่ 3) ซีรีส์ปิ่นภักดิ์ (อันดับที่ 4) แน็ก ชาลี ประกาศยุติความสัมพันธ์กับกามิน (อันดับที่ 6) งาน MCHOICE & MINT AWARD 2024 (อันดับ 7) น้องหมีเนย มาสคอตร้าน Butterbear (อันดับ 8) ตามด้วยกลุ่มเนื้อหา ภัยพิบัติ คิดเป็นสัดส่วนที่ 30.80% จาก 2 ประเด็น ได้แก่ อุทกภัยภาคเหนือ (อันดับ 2) อุทกภัยจังหวัดหนองคาย (อันดับ 10) นอกจากนี้ ยังพบกลุ่มเนื้อหาอาชญากรรม อุบัติเหตุ คิดเป็นสัดส่วนที่ 4.64% จากประเด็นคดีซื้อขายทองออนไลน์แม่ตั๊ก – ป๋าเบียร์และกลุ่มเนื้อหากีฬา คิดเป็น 3.59% จาก 1 ประเด็น คือ พาราลิมปิก ครั้งที่ 17 ที่ฝรั่งเศส (อันดับ 9)

 

หมูเด้ง อันดับ 1 แซงน้องหมีเนย ด้านวงการบันเทิงสูญเสียอ๋อม อรรคพันธ์ แน็ก ชาลี ยุติความสัมพันธ์ ในขณะที่ละครหญิง-หญิง อีเวนต์รวมดารา ยังเป็นกระแสต่อเนื่อง

         หมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระ จากสวนสัตว์เปิดเขาเขียวเป็นที่สนใจบนสังคมออนไลน์ ในทุกอิริยาบถ ไม่ว่าจะทำอะไร ทั้ง กิน เดิน วิ่ง นอน เล่นน้ำ หยอกล้อกับผู้ดูแล ฯลฯ ก็ดูน่ารัก น่าเอ็นดู จนเป็นกระแสทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ยอดนักท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยมชมสวนสัตว์เปิดเขาเขียวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดย Engagement ที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ พบใน TikTok โดยผู้สื่อสารหลักยังคงเป็น ผู้ใช้งานทั่วไปที่ไปเยี่ยมชมแล้วโพสต์ภาพหรือวิดิโอหมูเด้ง หรือการนำภาพจากช่องทางทางการของสวนสัตว์มาตัดต่อแล้วรีโพสต์ เป็นที่น่าสังเกตว่าสัดส่วนของผู้สื่อสารอันดับที่ 1 ผู้ใช้งานทั่วไป และอันดับที่ 2 ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ มีความใกล้เคียงกัน คือ 45.78% และ 43.64% ตามลำดับ ด้านน้องหมีเนย พบว่าความนิยมลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนสิงหาคม ทั้งจำนวน Engagement และสัดส่วนการถูกกล่าวถึงบนสังคมออนไลน์  

            ขณะที่วงการบันเทิง ต้องสูญเสีย อ๋อม อรรคพันธ์ ที่เสียชีวิตจาก โรคมะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นเพียง 0.1 ต่อ 1 ล้านคน โดยผู้สื่อสารหลักเป็นสื่อ สำนักข่าว จากการนำเสนอข่าว และการร่วมไว้อาลัย ส่วนผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ส่วนใหญ่จะเป็นไว้อาลัยของดารานักแสดงที่เคยร่วมงานกับอ๋อม อรรคพันธ์ จากช่องทางอย่างเป็นทางการของของนักแสดงเอง ในขณะที่แน็ก ชาลี ยุติความสัมพันธ์ กับกามิน TikToker สาวชาวเกาหลี หลังจากก่อนหน้ามีการไลฟ์ตอบโต้กันไปมา ทำให้สังคมออนไลน์ต่างให้ความสนใจในประเด็นนี้

           สำหรับซีรีส์ปิ่นภักดิ์ ละครแนวหญิงรักหญิง พบว่ากลับมาติด 10 อันดับแรกอีกครั้ง หลังจากเคยติดอันดับ 7 ในเดือนมิถุนายน โดยในเดือนกันยายน พบว่าละครปิ่นภักด์สามารถสร้าง Engagement ในแพลตฟอร์ม X ได้มากถึง 72.04% ในขณะที่ละครเรื่องอื่นๆ ที่ติดอันดับ หรือเป็นที่พูดถึง มักสร้าง Engagement ได้ดีในแพลตฟอร์ม TikTok ข้อมูลดังกล่าว ประกอบกับผลการสำรวจในเดือนก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นว่า ละครที่เน้นคู่จิ้น ไม่ว่าจะเป็นจากคู่นักแสดงชาย-หญิง คู่ชาย-ชาย หรือคู่หญิง-หญิง เช่น กรณีละครปิ่นภักดิ์ มักมีกลุ่มฐานแฟนคลับที่ช่วยสื่อสาร ให้ละครเรื่องดังกล่าว ติดอยู่ในกระแส ผ่านแพลตฟอร์ม X

 

ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์มีบทบาทในการผลักดันประเด็นอุทกภัยสูงกว่า สื่อ สำนักข่าว

             ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สื่อ สำนักข่าว มีบทบาทในการผลักดันประเด็นอุทกภัยมากกว่าผู้สื่อสารอื่น ๆ จากการรายงานข่าว ติดตามสถานการณ์ การแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยในจังหวัดต่าง ๆ รวมถึงการเปิดพื้นที่รับบริจาคสิ่งของให้แก่ผู้ประสบภัยจากองค์กรต่าง ๆ

            แต่ในเดือนกันยายน พบว่าผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์มีบทบาทในการสร้าง Engagement ประเด็นอุทกภัยได้มากกว่า สื่อ สำนักข่าว จากการโพสต์ระดมความช่วยเหลือ ขอรับบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยผู้ประสบภัย และการเข้าไปให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ เช่น กัน จอมพลัง บุ๋ม ปนัดดา รวมถึงผู้มีชื่อเสียงท่านอื่น ๆ ด้วยวิธีการสร้างคอนเทนต์ที่เข้าใจง่าย เข้าถึงผู้ใช้งานในทุกระดับ อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่สามารถสร้างความสนใจได้มากกว่าสื่อ สำนักข่าว ทำให้ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์สามารถช่วงชิงพื้นที่และสร้าง Engagement ได้มากกว่า และยังพบว่าแพลตฟอร์มที่ใช้ในการสื่อสารในเนื้อหาอุทกภัยได้ถูกเปลี่ยนไปตามผู้สื่อสารหลัก คือจาก Facebook โดย สื่อ สำนักข่าว ในเดือน สิงหาคม กลายเป็น TikTok โดยผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ในเดือนกันยายน

 

คดีซื้อขายทองออนไลน์ของแม่ตั๊ก – ป๋าเบียร์ ประเด็นที่ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 5 ได้ในเวลา 1 สัปดาห์

            ในประเด็นดราม่าร้านทองของแม่ตั๊ก – ป๋าเบียร์ เริ่มถูกกล่าวถึงบนสื่อสังคมออนไลน์ในวันที่ 23 กันยายน จากการที่แม่ตั๊ก และป๋าเบียร์ไปออกรายการโหนกระแส หลังจากนั้นสังคมออนไลน์ได้มีการกล่าวถึงประเด็นดังกล่าวอย่างต่อเนื่องและสูงที่สุดในวันที่ 30 กันยายน จากการที่ตำรวจเข้าจับกุมแม่ตั๊กและป๋าเบียร์ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวพบว่า สื่อ สำนักข่าว สามารถสร้าง Engagement ได้สูงที่สุดเนื่องจากมีการติดตามรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เริ่มจากการร้องเรียนของผู้เสียหายผ่านทางสื่อต่าง ๆ การเปิดประเด็นที่เกี่ยวข้องโดยรายการโหนกระแส และรายการข่าวอื่น ๆ  อีกทั้งยังเป็นประเด็นอาชญากรรมที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก

 

พาราลิมปิก ติดอันดับที่ อันดับที่ 9 ผู้สื่อสารหลักเป็นผู้ใช้งานทั่วไป

         เมื่อเปรียบเทียบโอลิมปิก 2024 และ พาราลิมปิก 2024 พบความแตกต่างในประเด็นผู้สื่อสารและแพลตฟอร์ม กล่าวคือ โอลิมปิก 2024 ผู้สื่อสารหลักจะเป็นผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ เช่น เทนนิส พาณิภัค เฟรม ธนาคาร หรือ ต้อง ภานุวัฒน์ นักพากย์กีฬา เป็นต้น ซึ่งกลุ่มผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ มักใช้ TikTok ในการสื่อสารมากกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ แต่สำหรับพาราลิมปิก 2024 กลับมาจากผู้ใช้งานทั่วไป ในช่องทาง Facebook ส่งผลให้ Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถสร้าง Engagement ได้สูงกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ

 

ประเด็นที่ไม่ติด 10 อันดับแรก และแนวโน้มความสนใจในภาพรวม

          นอกจากนี้ จากการสำรวจข้อมูลในเดือนกันยายน พ.ศ. 2567 ยังพบว่ามีประเด็นเชิงสังคมและข่าวใหญ่อื่น ๆ ที่แม้จะไม่ติด 10 อันดับแรก แต่อยู่ในช่วงชั้นความสนใจในอันดับที่ 11-20 ตัวอย่างเช่น โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 (ดิจิทัลวอลเล็ต) อันดับที่ 11 การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์โลก (อันดับที่ 12) ดราม่าครูเบญชื่อหายจากประกาศรับสมัครพนักงานราชการ (อันดับที่ 13) อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร แถลงนโยบายต่อรัฐสภา (อันดับที่ 16) และจำคุกครูไพบูลย์ คดีพรากผู้เยาว์ (อันดับที่ 20) เป็นต้น 

         เมื่อเปรียบเทียบกับแนวโน้ม 10 อันดับแรก พบว่า ประเด็นที่ติด 10 อันดับ ตั้งแต่ช่วงมกราคม จนถึงปัจจุบัน มักเป็น เรื่องของสื่อ สิ่งบันเทิง เป็นหลัก โดยอาจมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง กีฬา เทศกาล รวมถึงประเด็นสาธารณะอื่น ๆ ที่อาจแทรกติดอันดับขึ้นมาได้เช่นกัน โดยเฉพาะประเด็นที่มีความฉุกเฉิน หรือเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง เช่น อุทกภัยภาคเหนือ คดีซื้อขายทองออนไลน์ของแม่ตั๊ก – ป๋าเบียร์ เป็นต้น ในขณะที่ประเด็นทางการเมืองยังได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะไม่ติด 10 อันดับแรกในเดือนกันยายน แต่ก็อาจได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นหากมีเกิดความพลิกผันอย่างฉับพลัน ซึ่งเป็นที่น่าจับตาว่าในเดือนถัดไป หมูเด้ง ฮิปโปแคระ จะยังติด 1 ใน 10 อันดับแรกอยู่หรือไม่  หรือจะมีประเด็นอื่นใดที่สามารถช่วงชิงความสนใจในโลกออนไลน์ได้

เมื่อซีรีส์ยูริ “หญิงรักหญิง (Girl’s Love)” กลายเป็นเทรนด์ออนไลน์ที่น่าจับตามอง และกำลังมาแรง

คอนเทนต์บันเทิงโดยเฉพาะซีรีส์ แนว ‘หญิงรักหญิง (Girl’s Love) ที่เรียกกันว่า Sapphic หรือยูริ (Yuri) กำลังกลายเป็นจุด สปอตไลต์ที่ได้รับความสนใจจากสังคมมากขึ้น เป็นที่น่าสังเกตและชวนตั้งคำถามต่อว่า ปรากฏการณ์ความฮิตของซีรีส์ยูรินั้นมีต้นสายมาจากจุดใด

สิ่งยืนยันว่า ซีรีส์ยูริ ได้กลายเป็นที่สนใจนั้นก็คือเทรนด์ในโลกออนไลน์ของไทย จากงานการสำรวจการสื่อสารออนไลน์ของสังคมไทยตลอดปี 2567 โดย Media Alert กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับ  Wisesight  พบว่า คอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับยูริ ติดเข้ามาใน Top 10 ประเด็นออนไลน์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุด จากช่วงกลางปีนี้

  • เดือน มิ.ย. 2567 มีคอนเทนต์แนวยูริติด Top 10 จำนวน 2 อันดับ ได้แก่

ซีรีส์ Club Friday The Series: Love Bully รักให้ร้าย (16,413,533 engagement) อยู่ในอันดับที่ 5 นำแสดงโดย อิงฟ้า วราหะ และชาล็อต ออสติน เนื้อหาเป็นการสะท้อนปัญหาการทำร้ายจิตใจกันในสื่อสังคมออนไลน์ ผ่านการนำเสนอเรื่องราวความรักของผู้หญิงสองคน

ซีรีส์ปิ่นภักดิ์ (14,629,797 engagement) อยู่ในอันดับที่ 7 เป็นซีรีส์ Girl’s Love แนวพีเรียด นำแสดงโดยนักแสดงสาว ‘ฟรีนสโรชา จันทร์กิมฮะ’ และ เบ็คกี้รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง

  • เดือน ก.ค. 2567 มีคอนเทนต์แนวยูริติด Top 10 จำนวน 2 อันดับ ได้แก่

ซีรีส์ใจซ่อนรัก (24,669,345 engagement) อยู่ในอันดับที่ 3 นำแสดงโดย หลิงหลิงศิริลักษณ์ คอง และ ออมกรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงศ์’ เนื้อหาเล่าถึงแพทย์ผิวหนังผู้มีปมในใจจากการถูกหญิงสาวที่เธอรักหักอกจนชีวิตแทบพัง เธอพยายามอยู่นานกว่าจะกลับมามีชีวิตปกติได้ แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกให้ทั้งคู่ต้องกลับมาเจอกันอีกครั้ง

 งานเปิดตัวภาพยนตร์ยูเรนัส 2324 (14,679,970 engagement) อยู่ในอันดับที่ 10 ภาพยนตร์ไซไฟอวกาศเรื่องแรกของไทยที่ผสมเรื่องราวโรแมนติกดราม่าระหว่างนักบินอวกาศหญิงไทยคนแรกกับหญิงสาวผู้มีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักกีฬาดำน้ำ นำแสดงโดยฟรีนสโรชา และเบคกี้รีเบคก้า

  • เดือน ส.ค. 2567 ซีรีส์ใจซ่อนรัก ยังคงมีกระแสต่อเนื่อง ได้ 21,045,173 engagement อยู่ในอันดับที่ 9
  • เดือน ก.ย. 2567 ซีรีส์ปิ่นภักดิ์ กลับขึ้นมาติดอันดับอีกครั้ง ได้ 14,264,331 engagement โดยครั้งนี้อยู่ในอันดับ
    ที่
    4

สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องบ่งบอกว่าในโลกออนไลน์ไทยมีการพูดถึง ‘ซีรีส์ยูริ’ มากขึ้น และการรับรู้ถึงคำ ๆ นี้มีมากขึ้นและชัดเจนขึ้น

ปรากฏการณ์นี้มีที่มาที่ไปอย่างไร และทิศทางต่อไปข้างหน้าจะเป็นอย่างไร มาร่วมกันหาความหมายที่แท้จริงของซีรีส์ยูริ พร้อมเหตุผลเบื้องหลังว่า เหตุใดคอนเทนต์แนว ‘หญิงรักหญิงจึงกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นในสังคมไทย

 

[ ความนิยม ‘ซีรีส์ยูริ’ เกิดขึ้นในไทยเมื่อใด ]

คำถามแรก ๆ สำหรับคนที่ยังไม่คุ้นเคยกับคำว่า คอนเทนต์แนว Sapphic คืออะไร ? ‘ซีรีส์ยูริ คืออะไร ? คงต้องเริ่มอธิบายในเรื่องนี้ก่อน โดยคำว่ายูริ (百合) ที่เราใช้กันในบริบทนี้ เป็นคำในภาษาญี่ปุ่น แปลว่าดอกลิลลี่ และในอีกความหมายหนึ่ง หมายถึงคอนเทนต์ที่เล่าเรื่องราวความรักระหว่างผู้หญิงด้วยกัน ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบของ นิยาย มังงะ เกม ซีรีส์ ภาพยนตร์ ฯลฯ

รศ.ดร.นัทธนัย ประสานนาม อาจารย์ประจำภาควิชาวรรณคดี คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ความเห็นว่า วัฒนธรรมย่อยอย่าง Sapphic ก็มีความคล้ายคลึงกับวัฒนธรรมวาย (Yaoi – คอนเทนต์แนวชายรักชาย) ที่มีรูปแบบความนิยมใกล้เคียงกัน แต่ทว่าในไทยนั้น วัฒนธรรม Sapphic จะมาช้ากว่าวัฒนธรรมวายเล็กน้อย

“สิ่งเหล่านี้เกิดมาพร้อม ๆ กับทีวีดิจิทัลในไทย เมื่อปี พ.ศ.2557 ขณะที่ในปี พ.ศ.2563 เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมืองในไทย (ชุมนุมใหญ่ทางการเมืองของกลุ่มคณะราษฏร พ.ศ.2563) ได้ส่งผลมาถึงเนื้อหา และ ‘ความลึก ของเนื้อหาในการทำคอนเทนต์ความหลากหลายทางเพศในไทยด้วย เริ่มมีความสนใจ activism การเคลื่อนไหวทางสังคม สมรสเท่าเทียม เรื่องเกย์ เลสเบียน LGBTQIA+ ทั้งหลาย หรือ การปรากฏของ transgender ในซีรีส์วาย สิ่งเหล่านี้ปรากฏอย่างชัดเจนหลังปี พ.ศ.2563 ทั้งสิ้น นี่คือจุดเปลี่ยนในเชิงอุดมการณ์ และเป็นจุดเปลี่ยนของสุนทรียภาพด้วย เพราะหลังจากนั้น จะมีความพิถีพิถันในการเล่าเรื่องความหลากหลายทางเพศมากขึ้น เพราะการแข่งขันสูงขึ้น”

[ พลังของ ‘แฟนคลับ’ ]

ในส่วนของ ‘ซีรีส์ยูริ ความนิยมจากเหล่า แฟนคลับ เป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลมากถึงขั้นสามารถกำหนดได้ว่า อยากให้นักแสดงคนใด จิ้น กับใคร โดยจักรวาลของเนื้อหาในแนวความหลากหลายทางเพศนั้น ได้ถูกขยายออกไปเพราะกลุ่มแฟน ๆ นั่นเอง

“แฟนคอนเทนต์ซีรีส์วาย ซีรีส์ยูริ มีอํานาจมาก นักแสดงคู่ใดจะคู่กันจริง ๆ หรือเปล่า ไม่รู้ แต่แฟน ๆ ซีรีส์สามารถจะบอกว่า จะเอาคนนั้น คนนี้ไหม จับคู่กันก็ได้ แล้วก็จะมาจินตนาการต่อ ด้วยการสร้าง fan fiction” รศ.ดร.นัทธนัยกล่าว

อีกหนึ่งกลยุทธ์ในการสร้างกระแสให้กับ ‘ซีรีส์ยูริ คือ ผู้สร้างคอนเทนต์นั้นจะใช้กลยุทธ์จัดงาน fan meet ทั้งในไทยและในต่างประเทศ ซึ่งนี่เป็นเครื่องย้ำว่า โมเดลของการสร้างความฮิตให้ปังนั้นคล้ายคลึงกับช่วงที่ซีรีส์วายได้รับความนิยมมาก่อน โดย รศ.ดร.นัทธนัยวิเคราะห์ว่า ในบางครั้งมีการวางกลยุทธ์สร้างการรับรู้ให้กับแฟน ๆ ด้วยการจับ “คู่จิ้น” กันก่อน เพื่อเป็นการวางกรอบเคมีของนักแสดงให้คนรับรู้ว่า ใครอยู่ในตำแหน่งโพล (Pole Position) ของความสัมพันธ์ ตามไวยากรณ์ของซีรีส์วาย ตั้งแต่รูปแบบ มังงะ อนิเมะ รวมถึงซีรีส์ที่ฮิตในไทยด้วย โดยชื่อของนักแสดงที่อยู่ข้างหน้าจะถือเป็นฝ่ายรุกในความสัมพันธ์

[ ยูริ-วาย ทำให้คนไม่เดียวดาย โดยเฉพาะในประเทศยังไม่เปิดรับ LGBTQ]

ขณะที่ กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ผู้กำกับซีรีส์แนวยูริ มองว่า สาเหตุที่คอนเทนต์วายรวมถึงยูริได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นเพราะมีกลุ่มฐานคนดูอยู่ก่อนแล้ว อีกทั้งกลุ่มคนที่เป็นแฟนซีรีส์เหล่านี้ ไม่ได้มีแค่ในประเทศไทยเท่านั้น เพราะมีกลุ่มที่เป็นแฟนคลับอยู่ทั่วโลกด้วย

ขณะเดียวกัน บางประเทศในโลกนี้ยังไม่เปิดกว้างเรื่องความหลากหลายทางเพศ ดังนั้นการที่ประเทศไทยมีการผลิตเนื้อหาในเชิงสนับสนุน LGBTQ หรือซีรีส์ยูรินั้น เปรียบเสมือนเป็นพื้นที่ที่ให้พวกเขาได้เติมเต็มความรู้สึก

“ผู้คนที่เสพซีรีส์วาย-ยูริ ไม่จำเป็นต้องเป็น LGBTQ เสมอไป กลุ่มคนดูคือเขาเลือกเสพสิ่งที่เขาดูแล้วมีความสุข แต่ในส่วนของแฟนคลับต่างประเทศ บางคนที่เป็น LGBTQ อาจมองว่าซีรี่ย์วายไทย-ยูริไทย เป็นเหมือนกับโอเอซิสกลางทะเลทราย เป็นสิ่งที่ปลอบประโลมจิตใจผูุ้คนในประเทศที่ความหลากหลายทางเพศ ยังไม่เป็นที่ยอมรับ เปรียบเสมือนพวกเขาเหล่านั้นมีเพื่อนและไม่ได้อยู่อย่างเดียวดายบนโลกใบนี้”

อดีตผู้กำกับภาพยนตร์ “It Gets Better ไม่ได้ขอให้มารัก” ยังเชื่อว่า ในเชิงธุรกิจของกลุ่มเนื้อหา LGBTQ หรือหากเฉพาะเจาะจงไปที่ตัวซีรีส์แนวยูริ มีเม็ดเงินจำนวนมากในธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้มากมาย และเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทำให้อุตสาหกรรมบันเทิงโตได้ในระดับภูมิภาค

“ลองพิจารณาดูนะ ต่อให้เป็นคู่นักแสดงวาย ที่เล่นเรื่องเดียวแล้วดัง ก็กลายเป็น brand ambassador ระดับโลกได้ เป็นพรีเซ็นเตอร์ของสินค้าระดับโลกได้ นี่คือเครื่องยืนยันการันตีว่า กลุ่มแฟนคลับสามารถทําให้ศิลปินที่พวกเขาเชียร์ ไปแตะระดับนั้นได้ แปลว่ามันมีมูลค่าทางธุรกิจแน่นอน”

กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ยังฉายภาพให้เห็นอีกว่า การที่ประเทศไทยมีคอนเทนต์แนววาย-คอนเทนต์ยูริเพิ่มขึ้นมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถือเป็นกระจกเงาส่องสะท้อนสังคมว่าให้มองเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่ปกติ และเมื่อสิ่งเหล่านี้มีอยู่อย่างเป็นปกติอยู่แล้วในเชิงการรับรู้ของสังคม นั่นส่งผลในแง่กฎหมายต่าง ๆ เช่น กฎหมายสมรสเท่าเทียม ที่ผ่านแล้ว (ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว มีผลบังคับใช้หลังจากนี้ 120 วัน หรือตั้งแต่ 22 ม.ค.2568 เป็นต้นไป)

[ ใครคือกลุ่มคนดูของ ซีรีส์ยูริ ]

หลายคนอาจจะตั้งคำถามว่าซีรีส์ยูรินั้น ‘ตลาด หรือกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงคือใคร ต่อข้อสงสัยนี้ ครูธัญ-ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อของพรรคประชาชน หนึ่งในผู้ผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมในไทย มองว่า ซีรีส์ยูริเป็นตลาดของหญิงรักหญิงหรือผู้หญิงที่เป็น bisexual เป็นส่วนใหญ่

“ในช่วง 10 ปีหลัง เรามีการพูดเรื่องความหลากหลายทางเพศของซีรีส์วาย-ยูริ ซึ่งเป็นคนละตลาด อย่างซีรีส์วายตลาดจริง ๆ แล้วเป็นกลุ่มผู้หญิงตรงเพศ ขณะที่ซีรีส์ยูริเป็นตลาดของหญิงรักหญิง หรือผู้หญิงที่เป็นไบเซ็กชวล”

ครูธัญยังชี้ว่า สังคมไทยตอนนี้มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม มีการขับเคลื่อนความหลากหลายทางเพศ นี่ถือเป็นประตูที่ทําให้วัฒนธรรมบันเทิงกล้าที่จะผลิตอย่างท้าทายกรอบขนบเดิม

“เรื่องเล่าในสังคมจะเปลี่ยนไป จะครอบคลุมมากขึ้นในความหลากหลายทางเพศในทุกเพศวิถี ซีรีส์ยูริจะเปลี่ยนแปลงสังคมในเชิงการรับรู้เรื่องเล่าวรรณกรรม สื่อบันเทิงของสังคม” สส.บัญชีรายชื่อจากพรรคประชาชนกล่าว

[ อนาคตคอนเทนต์ความหลากหลายทางเพศ ]

หากมองภาพอนาคต คอนเทนต์ยูริจะถูกถ่ายทอดหรือพัฒนาไปทางไหนต่อไป ครูธัญมองว่า ในอนาคต ‘ความไม่เป็นหญิง ไม่เป็นชาย จะถูกนำเสนอมากขึ้น ขณะเดียวกันการเป็นซีรีส์ยูรินั้น ก็อาจจะนําพาไปสู่การเป็นเกิร์ลกรุ๊ปอีกรูปแบบหนึ่ง เหมือนกับที่คอนเทนต์ซีรีส์วายนำพาให้เกิดบอยแบนด์ในรูปแบบใหม่

อย่างไรก็ตาม ในการผลิตเนื้อหาของกลุ่มคนที่มีอัตลักษณ์ทางเพศ ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ เพราะในชีวิตจริง กลุ่มคนเหล่านี้ยังถูกเลือกปฏิบัติจากสังคม แต่สิ่งที่จะสะท้อนความหลากหลายได้ดีคือสังคมใดที่นำเสนอภาพความหลากหลายทางเพศได้อย่างเป็นธรมมชาติได้มากเท่าไร ถือเป็นเครื่องชี้วัดความหลากหลายในสังคมได้มากขึ้นเท่านั้น

ขณะที่ กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน คาดการณ์ว่า ต่อไปในอนาคต จะมีกระแสของคำว่า genderless (ไร้เพศ หรือ ไม่มีเพศ) ในงานบันเทิง จะมีการสร้างตัวละครที่มีคาแร็กเตอร์แบบ จะคบกับใครก็ได้ เพศใดก็ได้ กับผู้ชาย กับผู้หญิง หรือกับ LGBTQ ได้หมด ตัวละครจะสามารถคบหากันได้ ด้วยความเป็นมนุษย์ของคนสองคน

นี่คือบทสนทนาเกี่ยวกับความนิยมในซีรีส์ยูริที่เพิ่มขึ้นในปี 2567 นี้ โดยเสนออย่างกินความตั้งแต่เหตุผลที่คอนเทนต์แนวนี้ได้รับความนิยม, พลังของแฟนคลับ ไปจนถึงความเปลี่ยนแปลงทางสังคมไทยและในหลายประเทศที่มีการเปิดรับความหลากหลายทางเพศมากขึ้นเรื่อย ๆ

ปรากฏการณ์ “หมีเนย” Mascot Marketing สะพานเชื่อมใจในยุคที่มีคนรู้สึกโดดเดี่ยว

ในโลกออนไลน์ ตามธรรมชาติแล้ว กระแสหรือเทรนด์ต่าง ๆ มักจะมาไวไปไว ไม่ต่างอะไรกับ แสงไฟจากประกายพลุบนท้องฟ้าที่สว่างวาบเพียงชั่ววูบแล้วก็หายไป..

แต่ปรากฏการณ์คลั่งรัก ‘หมีเนย’หรือButterbearในช่วง 3-4เดือนที่ผ่านมาดูจะเป็นสิ่งที่แตกต่างออกไปจากธรรมชาติของเทรนด์ฮิตในโลกออนไลน์  เพราะความฮิตและกระแส ‘หมีเนยฟีเวอร์’ อยู่ได้ยาวนานเป็นหลักเดือน ๆ โดยมีเครื่องพิสูจน์คือการติด TOP10 ประเด็นที่ได้รับ engagement มากที่สุดจากการสำรวจโดย Wisesight ตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2567 – เดือน ก.ย. 2567 ไม่มีประเด็นไหนจะติด TOP10 ยาวนานเช่นนี้อีกแล้วในปีนี้

ที่สำคัญ ยังเป็นอันดับหนึ่ง ถึง 2 เดือนซ้อนติดต่อ คือในเดือน มิ.ย. และ ก.ค. 2567

  • เดือน มิ.ย. 2567 หมีเนยได้รับ 36,915,745 engagement ติด TOP10 เป็นครั้งแรก เป็นอันดับที่หนึ่ง
  • เดือน ก.ค. 2567 หมีเนยได้รับ 44,187,828 engagement อยู่ในอับดับที่หนึ่งอีกครั้ง
  • เดือน ส.ค. 2567 หมีเนยได้รับ 26,841,751 engagement ตกมาเป็นอันดับที่ห้า ในช่วงมหกรรมกีฬาโอลิมปิก
  • เดือน ก.ย. 2567 หมีเนยได้รับ 9,652,391 engagement ตกมาอยู่ในอันดับที่แปด โดยมีปรากฎการณ์ ‘หมูเด้ง’ ลูกฮิปโปแคระโผล่ของสวนสัตว์เขาเขียวขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในเดือนเดียวกัน

หากเจาะลึกลงไป จะพบว่า engagement ของหมีเนยจำนวนมาก จะมาจากแพลตฟอร์ม TikTok มากที่สุด โดยส่วนใหญ่มาจากกลุ่ม ‘ผู้ใช้งานทั่วไป’ เป็นแฟนคลับที่เรียกตนเองว่า ‘มัมหมี’ รวมถึงการสื่อสารจากช่องทางอย่างเป็นทางการของร้านต้นสังกัดของหมีเนย – ร้านเบเกอรี่ Butterbear ซึ่งเป็นร้านใหม่ในเครือ Coffee beans by Dao ร้านเค้กแบรนด์ไทย ตั้งอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า Emsphere ชั้น G เปิดให้บริการมาแค่ 1 ปี แต่พอหมีเนยดังทะลุกราฟ นั่นก็ทำให้ร้านนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นมาด้วยตาม ๆ กัน

กับปรากฏการณ์ไวรัลครั้งนี้, อะไรที่ทำให้น้องหมีเนยครองใจผู้คนได้ขนาดนี้ ทำไมเหล่าแฟนคลับ รวมทั้ง มัมหมี จึงมีความรู้สึกร่วมกันต่อหมีเนยอย่างร่วมกันละเลยว่าข้างในหุ่นนั้น คือ คน ทั้งไม่ร่วมกันค้นหาว่าคนๆนั้น คือ ใคร ? ร่วมถอดปรากฎการณ์หมีเนยไปกับ ผศ.ดร.บุปผา ลาภะวัฒนาพันธ์ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์และสื่อสารการตลาด

จุดเริ่มต้นของการพูดคุย ผศ.ดร.บุปผาตั้งประเด็นไว้อย่างน่าสนใจ โดยระบุว่า หมีเนยไม่ใช่ mascot ทั่วไป แต่หมีเนยนั้นคือ ‘คน’ (เด็กหญิง วัย 3 ขวบ) เมื่อคนที่ใช้โซเชียลมีเดียหรือคนที่รับรู้ถึงการมีอยู่ของหมีเนยแล้ว ก็จะเห็นภาพการจำลองชีวิตของคน ๆ หนึ่ง

“ฉะนั้นมันคือการถอดรหัสพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน แล้วใส่รหัสนี้เข้าไปในตัวน้องหมี ผ่านคาแร็กเตอร์ น่ารัก ขี้เล่น ขี้เขิน ขี้อาย ฉะนั้น มันเลยเป็นการฝั่งวิธีคิดต่าง ๆ โดยการจำลองพฤติกรรมของลูกค้ายุคนี้ แล้วทำให้เขา react ออกมาเหมือนคนที่มีช่วงเวลาของการผิดหวัง เสียใจ เริ่มต้นของการก่อนจะดัง ต้องมีความพยายาม สร้างตัวตน” ผศ.ดร.บุปผาให้ความเห็น

ขณะเดียวกัน ทุกอย่างในโลกนี้ย่อมมี 2 ด้านเหมือนกับเหรียญ, แต่หมีเนยกลับไม่ค่อยมีกระแสต่อต้าน หรือ anti มากเท่าไรนักส่วนใหญ่จะเทไปในทางเดียวกันคือชื่นชอบ ตรงประเด็นนี้ ผศ.ดร.บุปผามองว่า เป็นเพราะการสร้างหมีเนยขึ้นมา ไม่ได้วางตัวเองเป็นไอดอล แต่มีเป้าหมายในชีวิตที่อยากจะเป็นไอดอลต่างหาก ช่วงแรก หมีเนยจะไม่ประสบความสำเร็จใด ๆ แต่ก็ไม่เคยยอมแพ้ ตรงจุดนี้เลยทำให้ หมีเนยได้ใจเหล่าแฟนคลับ

หมีเนย คือ หนึ่งในสะพานเชื่อมใจคน

ประเด็นที่น่าสนใจอีกเรื่องก็คือ หมีเนยถือเป็นตัวแทนของผู้บริโภค เปรียบเสมือนกับเขาเป็นคน ๆ หนึ่งในยุคสมัยนี้ มีวิถีชีวิต มีไลฟ์สไตล์เหมือนกับคนยุคนี้ ดังนั้น มันจึงสามารถ connect เชื่อมต่อความรู้สึก กับผู้คนในยุคนี้ได้

ถ้าหากใช้ ทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์ (Maslow’s Hierarchy of Needs) ปรากฏการณ์หมีเนยที่เกิดขึ้นนั้น ก็จะเห็นได้ว่า ‘หมีเนย’ จะอยู่ในลำดับขั้นที่ 3 นั่นคือ ความต้องการด้านความรักหรือการเป็นเจ้าของ (Love/Sense of Belongings) เพราะหมีเนยที่ทำให้วัยรุ่นชอบ รู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง การแชร์ การส่งต่อ เป็นความสัมพันธ์แนวระนาบ ในระดับเดียวกัน กล่าวคือ ‘เพื่อนส่งต่อเพื่อน’

แต่ในเวลาเดียวกัน มันก็เกิดความสัมพันธ์ในแนวตั้งด้วย เป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างสังคมครอบครัวให้แน่นหนายิ่งขึ้น พ่อแม่ผู้ปกครองพาลูกไปที่ Emsphere ไปดูหมีเนย หรือทำให้เกิดความเท่าเทียมกันในองค์กร พนักงานสามารถเอาน้องหมีเนยมาคุยกับหัวหน้าได้ พ่อแม่เอาน้องหมีเนยมาคุยกับลูกได้ เพราะนี่คือ Sense of Belongings ที่เราเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน

“หมีเนยคือสะพานเชื่อม ยุคนี้มันคือยุคของความว้าเหว่ โดดเดี่ยว แต่อย่างน้อยน้องหมีเนยทำให้คนเห็นแล้วยิ้มได้ หัวเราะได้ และรู้สึกจับต้องได้ในความเป็นจริง เขาไม่ใช่แค่ตุ๊กตา เราได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของน้องหมีเนย เหมือนเขาเป็นเพื่อนเรา เขาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราได้”

กับไวรัลหมีเนยที่เกิดขึ้นนั้น ถือเป็นกระจกสะท้อนสังคมในหลาย ๆ มิติ หนึ่งในนั้นคือภาพสะท้อนเศรษฐกิจสังคม เพราะนี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่บอกว่า ‘คนยังมีกำลังซื้ออีกเยอะ’ ..หากมองหมีเนยเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่ง สำหรับคนที่มีกำลังซื้อ ในแง่ของการชื่นชอบที่เป็นความรู้สึก ผู้ใช้จับจ่ายหรือ ‘เปย์’ ให้กับทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับหมีเนย จะไม่มีเหตุผลของคำว่าเงิน

คนทั่วโลก มีความสุขน้อยลง หมีเนยจึงเป็นโอเอซิส ?

และอีกสิ่งที่น่าสนใจของปรากฏการณ์นี้ ก็คือการเจอ ‘พฤติกรรมร่วม’ อิทธิพลของโซเชียลมีเดีย ทำให้หมีเนยดังไปยังต่างประเทศ จนไปสัมผัสใจคนต่างชาติ ซึ่งหากลองถอดรหัสจริง ๆ แล้ว นั่นแปลว่าคนทั่วโลกกำลังมี pain point เรื่องนี้อยู่

“คนทั่วโลกมีความสุขลดลง ไม่ค่อยได้หัวเราะ” ผศ.ดร.บุปผาระบุ

เหตุผลที่คนทั่วโลกมีความสุขน้อยลง นั่นอาจจะเป็นเพราะตอนนี้ ทุกคนอยู่ใน โซเชียลมีเดียมากเกินไป  ทำให้ปฏิสัมพันธ์ความเป็นจริงลดลง ผลที่ตามมาคือทำให้คนว้าเหว่ในใจลึก ๆ และแสวงหาความสัมพันธ์เสมือน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วจับต้องไม่ได้สักเท่าไร

และหากลงลึกไปกว่านั้น ทุกวันนี้ ทุกคนบีบคั้นตัวเองมากขึ้น ความเร่งรีบกลายเป็นสิ่งที่อยู่ในตัวทุกคนแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว เป็นภาพสะท้อนว่า นี่คือสังคมของการแข่งขัน ที่ความเป็นเมืองทั่วโลกมีเหมือนกัน

“เราต้องการออกซิเจนคล้ายกัน ออกซิเจนที่มาจากความน่ารัก ฮีลใจ ตรงนี้หมีเนยคือ oasis เป็นพื้นที่อากาศบริสุทธิ์ให้เราได้หัวเราะ กลายเป็น save zone เป็นที่ที่เราได้ปล่อยใจ หัวเราะดัง ๆ ได้ โดยไม่ต้องระแวงว่าจะมีใครมาแทงข้างหลัง” ผศ.ดร.บุปผาเปรียบเทียบให้เห็นภาพอย่างชัดเจน

 

หมีเนย คือความ real แบบศตวรรษที่ 21 

ในเชิงปรากฏการณ์ของสังคม ‘หมีเนยฟีเวอร์’ นี่คือกระบวนการสร้างตัวตนผ่าน mascot ด้วยเทคนิคเหนือชั้นกว่า mascot แบบเดิม ๆ ในอดีต โดยมีการใส่ความ real (จริง) ของชีวิตเข้าไปในตัวหมีเนย

“มันคือความเรียลแบบ Gen Z เรียลแบบศตวรรษที่ 21 ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีขนาดนี้” ผศ.ดร.บุปผากล่าว

ส่วนในแง่มุมการตลาดนั้น, หมีเนยถือเป็นสินค้าหนึ่ง ซึ่งลูกค้าพอใจจะจ่าย โดยทุกสินค้าในท้องตลาด ‘ราคา’ จะเป็นส่วนผสมระหว่าง functional benefit (ประโยชน์ด้านการใช้สอย) กับ emotional benefit (ประโยชน์ด้านอารมณ์ความรู้สึก) อยู่ที่ว่าแต่ละคนจะให้ตรงไหนมากกว่า มันจึงไม่สำคัญว่าถูกหรือแพง แต่อยู่ที่ว่า การจ่ายให้กับหมีเนยนั้น ‘เติมเต็ม’ เขาได้แค่ไหน เพราะสินค้าแบบหมีเนย มันคือคุณค่าที่เขาได้รับจากสิ่งนี้

ในภาคส่วนขยายไปในภาพใหญ่ของประเทศกับประเด็น soft power ที่ใครหลายคนพูดถึง ผศ.ดร.บุปผามองว่า ประเด็นนี้ สามารถแตกกอต่อยอดไปได้อีกไกล ขึ้นอยู่กับว่าทางรัฐจะเอาจริงแค่ไหน

“สิ่งที่อยากจะฝากกับทางภาครัฐ กับประเด็น soft power จะเริ่มทำจริง ๆ ได้หรือยัง เพราะหมีเนยไม่ได้เกิดมาครั้งแรก เรามีปรากฏการณ์หลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ‘หมีเนย’ แล้วต่อมาก็เป็น ‘หมูเด้ง’ ถ้าคุณทำจริงจัง จะให้หมีเนยไปหาหมูเด้งยังได้เลย ให้เกิดการ collab กันระหว่างแบรนด์” ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์และสื่อสารการตลาดจากมหาวิทยาลัยหอการค้ารายนี้กล่าวทิ้งท้าย

ปรากฎการณ์หมีเนยเป็นภาพสะท้อนความเป็นไปหลาย ๆ อย่างทั้งในสังคมไทยและโลกว่า เราต่างก็เหงา เศร้า และโดดเดี่ยว แม้จะมีสื่อสารกันได้ง่ายขึ้นในยุคโซเชียลมีเดีย แต่ความรู้สึกเร่งรัดบีบคั้นในสังคมเมืองยุคปัจจุบัน การจะหาบางสิ่งมาเป็น oasis เป็นที่พักใจ ฮีลใจ เป็นเซฟโซนให้ได้พักหายใจ ก็เป็นสิ่งที่จำเป็น

หากยังจำกันได้ ก่อนจะมี ‘หมีเนย’ ก็เคยมี Art Toy น่ารักอย่าง ‘ลาบูบู้’ ที่คนจำนวนมากคลั่งไคล้ หรือเมื่อกระแส mascot ร้านเบเกอรี่นี้เริ่มแผ่ว ก็มีลูกฮิปโปแคระอย่างน้อง ‘หมูเด้ง’ ผู้สะดีดสะดิ้งโดดเด้งมารับลูกต่อ

เหล่านี้เป็น soft power ที่ภาครัฐน่าจะหยิบไปต่อยอด อย่าให้กลายเป็นเพียงพลุบนท้องฟ้า ที่สว่างเพียงชั่ววูบแล้วก็หายไป เหมือนกับปรากฎการณ์อื่น ๆ ที่เคยผ่านมาในอดีต

 

“หมูเด้ง” ขึ้นอันดับหนึ่ง ความสนใจโลกออนไลน์

เดือน ส.ค. 2567 น่าจะเป็นช่วงเวลาที่สื่อสายการเมือง ยุ่งที่สุด ครั้งหนึ่งในรอบปี เพราะมีสารพัดอีเว้นต์ใหญ่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้ง

  • พรรคก้าวไกลที่มี สส.อันดับหนึ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบ จากคดีเสนอแก้ไข ม.112 (7 ส.ค. 2567)
  • พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นักการเมืองยอดนิยมถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี (7 ส.ค. 2567)
  • นายกรัฐมนตรีคนเดิมถูกถอดถอน ได้นายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศและคนที่ 4 จากสายตระกูลเดียวกัน (14-18 ส.ค. 2567)

 

แต่แม้จะมีเหตุการณ์ที่เต็มไปด้วยองค์ประกอบสำคัญทางการเมืองอย่างครบถ้วน (พรรคอันดับหนึ่งถูกยุบ, เปลี่ยนตัวนายกฯ, พิธาโดนตัดสิทธิ) จนน่าจะได้เอ็นเกจเม้นต์ถล่มทลายจากชาวเน็ตไทย

เชื่อหรือไม่ว่า หากเทียบกับข่าวอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน ‘การก้าวขึ้นมาเป็นนายกฯ คนที่ 31 ของ
อุ๊งอิ๊งค์-นางสาวแพทองธาร ชินวัตร’ หรือ ‘พรรคก้าวไกลถูกยุบ เปิดตัวพรรคใหม่ พรรคประชาชน’
กลับไม่ใช่ประเด็นการเมืองที่ผู้คนสนใจเป็นอันดับ 1 แต่ได้รับความสนใจมาเป็นอันดับที่ 4 (28,369,606 เอ็นเกจเม้นต์) และอันดับที่ 6 (24.787,182 เอ็นเกจเม้นต์) ตามลำดับ แพ้ให้กับมหกรรมโอลิมปิก, เทศกาลวันแม่ หรือกระทั่งความนิยมของละครพรชีวัน ที่อยู่ในละครชุดดวงใจเทวพรหม ของสถานีโทรทัศน์ ช่อง 3

ขณะที่เดือน ก.ย. 2567 ที่เริ่มต้นการจ่ายเงิน 10,000 บาท ให้กับกลุ่มเปราะบางตามโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งมีผู้ได้รับผลประโยชน์มากถึง 14.5 ล้านคน คิดเป็น 20% ของประชากรไทยทั้งหมด แต่ประเด็นนี้กลับได้รับความสนใจอยู่ในลำดับที่ 11 ของเดือน (8,200,741 เอ็นเกจเม้นต์) ไม่ติดกระทั่ง TOP 10 แพ้ให้กับประเด็น หมูเด้งลูกฮิปโปแคระ ซึ่งอยู่ในอันดับ 1 ที่ได้ 86,830,577 เอ็นเกจเม้นต์ หรือได้รับความสนใจน้อยกว่านับสิบเท่า

หากย้อนเวลากลับไปยังครึ่งแรกของปี 2567 ก็จะพบข้อมูลในลักษณะที่ใกล้เคียงกัน เพราะมีประเด็นการเมือง
แค่
2 เรื่องเท่านั้น ที่ติด TOP 10 ในเดือนนั้น ๆ คือ การกลับเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล หลังพ้นผิดจากคดีถือหุ้น ITV โดยอยู่ในอันดับที่ 4 ของเดือน ม.ค.2567 (13,464,309 เอ็นเกจเม้นต์) และร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ที่อยู่ในอันดับที่ 9 ของเดือน มิ.ย. 2567 (12,350,146 เอ็นเกจเม้นต์)

นั่นแปลว่า ระหว่าง ม.ค. – ก.ย. 2567 จากทั้งหมด 90 ประเด็นที่ติด TOP 10 ความสนใจของผู้คนในช่วง 9 เดือน มีประเด็นการเมืองติดอันดับเพียง 4 ครั้งเท่านั้น

อ่านข้อมูลจนถึงบรรทัดนี้ นึกย้อนกลับไปปี 2565 และปี 2566 หลายคนอาจต้องเกาศีรษะ เพราะถ้ายังจำกันได้ 2-3 ปีก่อน จะเต็มไปด้วย ข่าวการเมือง ที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ทั้งข่าวการเมืองในและการเมืองต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม., กระแสชัชชาติฟีเวอร์, สงครามรัสเซียยูเครน, ไปจนถึงการเลือกตั้ง สส. ทั่วประเทศของไทย ที่พรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้งอย่างสุดเซอร์ไพรส์ แต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เพราะถูกขัดขวางจากกลไกที่คณะรัฐประหารวางเอาไว้ โดยเฉพาะเหล่า สว. แต่งตั้ง

เวลาผ่านมาไม่นาน เหตุใดประเด็นการเมืองจึงถูกลดระดับความสนใจในโลกออนไลน์อย่างน่าใจหาย ทำไมคนไทยจึง ‘เลิกสนใจการเมืองมาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน

คนไทยเคยสนใจการเมืองแค่ไหน

ข้อมูลเรื่องข่าวสารต่าง ๆ ที่ได้รับความสนใจ SpringNews ได้มาจากรายงานการศึกษาการสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์ของสังคมไทย โดย Media Alert กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับ Wisesight ผู้ให้บริการรวบรวมข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย ที่สำรวจเอ็นเกจเม้นต์ต่อประเด็นต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ที่เป็น TOP 10 ในแต่ละเดือน บนแพลตฟอร์มหลัก ทั้งเฟซบุ๊ก ยูทูบ ทวิตเตอร์(เอ็กซ์) อินสตาแกรม และติ๊กต๊อก ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2565 – ปัจจุบัน

 ถามว่าแล้วคนไทย ‘เคยสนใจการเมือง มากแค่ไหน ? หากเอาข้อมูลดิบมากาง 

ปี 2565 ประเด็นการเมืองติด TOP 10 ทุกเดือน โดยเอ็นเกจเม้นต์รวมทั้งปี ข่าวการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. (อันดับ 2 – 135,743,129 เอ็นเกจเม้นต์) ได้รับความสนใจมากกว่าข่าวการแข่งขันฟุตบอลโลก (อันดับ 3 – 100,930,319 เอ็นเกจเม้นต์) แพ้ให้กับข่าวการเสียชีวิตของแตงโมนิดา พัชรวีระพงษ์ ซึ่งเต็มไปด้วยปริศนา จนชาวเน็ตต้องลุกขึ้นมาช่วยกันตั้งข้อสมมุติฐานและหาพยานหลักฐานกันเอง จากความไม่เชื่อใจเจ้าหน้าที่รัฐ (อันดับ 1 – 394,602,306 เอ็นเกจเม้นต์) เพียงข่าวเดียวเท่านั้น

ปี 2566 คนก็ยิ่งสนใจข่าวการเมือง โดยในเดือน พ.ค. ที่มีการเลือกตั้ง สส. ทั่วประเทศ การเมืองติด TOP 10 ถึง 9 ประเด็นข่าว !

ทว่านับแต่เดือน ต.ค. 2566 ลากยาวไปจนถึงครึ่งแรกของปี 2567 สถานการณ์กลับพลิกผัน เมื่อประเด็นการเมืองแค่ 2 เรื่อง  ที่ติด TOP 10 ในช่วงเวลาดังกล่าว คือกรณีนายพิธากลับเข้าสภาฯ หลังสิ้นสุดคดี ITV และร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น

ส่วนระหว่าง มิ.ย. – ก.ย. 2567 ที่สถานการณ์การเมืองกลับมาคึกคักอีกครั้ง ทั้งจากการยุบพรรคการเมืองยอดนิยม, การเปลี่ยนตัวนายกฯ, การเริ่มต้นนโยบายที่จะมีคนได้รับประโยชน์หลักสิบล้านคน ประเด็นการเมืองก็กลับมาได้รับความสนใจบนโลกออนไลน์แค่ ในระดับหนึ่งเท่านั้น

เหตุใดประเด็นการเมือง จึงไม่ค่อยได้รับความสนใจนักในระยะหลัง และสถานการณ์เช่นนี้จะส่งผลเสียอย่างไร

ไม่สนใจ เพราะไร้ความหวัง?

ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในฐานะนักวิชาการด้านสื่อมวลชน และอดีตนักข่าวสายการเมือง มองว่า ปรากฎการณ์ที่คนไทยให้ความสนใจข่าวการเมืองน้อยลงเรื่อย ๆ นับแต่เลือกตั้ง สส. ทั่วไปในปี 2565 เป็นสิ่งที่ไม่น่าแปลกใจนัก เพราะความสนใจในข่าวการเมืองมักจะผูกโยงกับ ความหวัง ที่จะได้สร้างความเปลี่ยนแปลง หลังจากการเมืองหยุดนิ่งมานาน นับแต่รัฐประหาร ปี 2557

แต่พอผลการเลือกตั้งออกมา ‘สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นกลับเป็นการ ทำลายความหวัง ของผู้คน

“มีศัพท์ในเชิงรัฐศาสตร์อย่างหนึ่ง คือเรื่องของ Political Hopelessness หรือความไร้หวังทางการเมือง สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้คนไทยจำนวนหนึ่งรู้สึกท้อถอยหรือเบื่อหน่ายกับสถานการณ์ทางการเมือง คือขณะที่ตัวเองมีความหวังและโดนทุบทำลาย ก็จะรู้สึกว่า เอ๊ะ! แล้วเราจะติดตามไปทำไม ยิ่งเจอกับกระบวนการในเชิงตุลาการต่าง ๆ ด้วย จึงไม่แปลกที่ข่าวการเมืองจะลดทอนความสนใจของคนไทยไป

“แล้วพอในโลกออนไลน์ ความสนใจของคนไม่ได้อยู่แค่การเมือง คนก็เลยหันไปสนใจเรื่องอื่นที่เขารู้สึกว่ามันผ่อนคลายกว่า ทั้งเรื่องใกล้ตัวหรือเศรษฐกิจสังคมต่าง ๆ ซึ่งก็จะมีศัพท์ทางการเมืองอีกอันหนึ่งก็เรียกว่า Political Apathy คือแยกการเมืองออกจากชีวิตของเขาเลย” ดร.มานะกล่าว

ความเห็นดังกล่าว สอดคล้องกับมุมมองของ นายวีระศักดิ์ พงษ์อักษร บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่น ที่กล่าวว่า หัวใจสำคัญเลยคือความหวัง ถ้ามีความหวัง คนจะคึกคัก จะสนใจการเมืองมากกว่านี้

“แต่ตอนนี้ คนมันไม่มีความหวัง”

อีกเหตุผลคือ ประเด็นการเมืองที่เกิดขึ้นระยะหลังเป็นสิ่งที่ ‘ไกลตัว เช่น จะแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตรา แล้วมันเกี่ยวข้องกับปากท้องประชาชนอย่างไร หรือความขัดแย้งภายในพรรคการเมืองของลุงบ้านป่า (หมายถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกฯ ประธานมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด) ที่สื่อสายการเมืองหรือคอการเมืองอาจจะสนใจ แต่คนทั่ว ๆ ไปจะรู้สึกว่า แล้วมันเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขา มันไม่ใช่ การเมืองกินได้ ที่เกี่ยวข้องกับปากท้องของผู้คน

“โดยสรุปก็คือ 1.คนไม่มีความหวัง 2.ประเด็นมันไกลตัวคน ทำให้ความสนใจข่าวการเมืองลดลง” บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่นสรุป

ผลเสียของการ ‘ไม่สนใจการเมือง’ และทางออก

การที่คนไทยลดระดับความสนใจข่าวการเมือง จะส่ง ‘ผลเสียอย่างไรต่อสังคมบ้าง ..อาจเป็นคำถามที่หลายคนสนใจ

นายวีระศักดิ์มองว่า มันเปิดโอกาสให้ผู้มีอำนาจสอดไส้ทำอะไรก็ได้ เพราะบางเรื่องที่ดูเหมือนเล็ก ๆ แต่อาจจะกลายเป็นจิ๊กซอว์สำคัญของเรื่องใหญ่ในอนาคต

“ถ้าคนสนใจเยอะ มันจะเก็บรายละเอียด คอยเกาะติดตามวิพากษ์วิจารณ์ แต่ถ้าคนสนใจน้อยลงหรือไม่ใส่ใจรายละเอียด วันหนึ่งมันก็จะเกิดเป็นพายุใหญ่ข้างหน้า คือความสนใจก็เหมือนสปอตไลต์ เหมือนแสงสว่างไม่ให้พวกผีเข้ามาทำอะไร แต่พอคนไม่สนใจ สปอตไลต์น้อยลง จะทำอะไรก็ง่ายเลย”

ดร.มานะก็คิดถึงมุมการตรวจสอบการใช้อำนาจเหมือนกันว่า ยิ่งคนสนใจข่าวการเมืองน้อยลง โอกาสในการเกิดคอร์รัปชั่นก็ยิ่งง่ายขึ้น ทั้งในเชิงนโยบายหรือในเชิงปฏิบัติ ทั้งจากนักการเมืองไปจนถึงข้าราชการประจำ

แล้วสถานการณ์เช่นนี้มีโอกาสเปลี่ยนแปลงหรือไม่?

นักวิชาการด้านสื่อรายนี้มองว่า มันต้องมีสถานการณ์ที่ทำให้คนรู้สึกว่ายังพอมีความหวังอยู่ คนถึงจะหันกลับมาสนใจข่าวการเมือง สิ่งเหล่านี้คนที่ยังหวังว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นจะต้องช่วยกัน อาจจะทำเรื่องเล็กๆ ให้สำเร็จก่อนแล้วค่อยขยายไปสู่เรื่องใหญ่ “ต้องค่อย ๆ ก่อกองไฟเล็ก ๆ แล้วค่อยขยายเป็นไฟกองใหญ่”

ส่วนตัว ดร.มานะมองว่า พลังจากโลกออนไลน์ยังช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อยู่ แต่ถึงขนาดจะสร้างกระแสเช่นที่เคยเกิดขึ้นในปี 2563-2564 คงจะเป็นสิ่งที่ไม่ง่ายนัก

ด้านนายวีระศักดิ์กล่าวในฐานะสื่อมวลชนว่า สื่อเองก็ต้องพยายามทำหน้าที่ตัวเองให้ดี รายงานสิ่งที่ไม่ชอบมาพากล และพยายามให้ความหวังกับผู้คน ในมุมที่ใกล้ตัวของพวกเขา – “เราต้องเป็นตัวกลางในการบอกสังคมนะว่า ในวิกฤตมันก็ยังมีความหวังอยู่ คนจะสนใจมากหรือน้อยก็เรื่องหนึ่ง แต่สื่อก็ต้องทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด”

เมื่อ ‘ความหวัง, ความใกล้ตัว’ เป็นปัจจัยสำคัญในการชี้ขาดว่า คนจะสนใจข่าวการเมืองหรือไม่

สถานการณ์ปัจจุบันที่คนสนใจประเด็นทางการเมืองน้อยลง จึงเป็นภาพสะท้อนที่ทั้งน่าสนใจและน่าเป็นห่วงในเวลาเดียวกัน เพราะยิ่งสปอตไลต์สาดแสงน้อยลง ผู้มีอำนาจก็มีโอกาสที่จะทำอะไรก็ได้โดยไร้การตรวจสอบมากขึ้น

 

สิงหาคม 2567 แพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี ติดอันดับ 4 ของความสนใจในโลกออนไลน์น้ำท่วมภาคเหนือ มาอันดับ 8 ขณะที่โอลิมปิก 2024 ครองอันดับ 1และ TikTok เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมต่อเนื่อง

สิงหาคม 2567 แพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี ติดอันดับ 4 ของความสนใจในโลกออนไลน์ น้ำท่วมภาคเหนือ
มาอันดับ 8 ขณะที่โอลิมปิก 2024 ครองอันดับ 1  
และ TikTok เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมต่อเนื่อง

การสำรวจประเด็นการสื่อสารในโลกออนไลน์ 5 แพลตฟอร์ม ในเดือนสิงหาคม 2567 พบว่า การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 ด้วยสัดส่วน Engagement มากถึง 36.26% ตามด้วยเทศกาลวันแม่ เป็นอันดับ 2 ด้วยสัดส่วน Engagement ที่ 12.78% ละครพรชีวัน ติดอันดับ 3 ด้วยสัดส่วน 7.47% ขณะที่แพทองธาร ชินวัตรได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นอันดับ 4 ด้วยสัดส่วน Engagement ที่ 7.39% ด้านน้องหมีเนย หล่นจากแชมป์อันดับ 1 ถึง 2 สมัย ลงมาเป็นอันดับที่ 5 ด้วยสัดส่วน 6.99%

เป็นที่น่าสนใจว่าเดือนสิงหาคมมีประเด็นทางการเมืองติดใน 10 อันดับ ถึง 2 ประเด็น คือ แพทองธาร ชินวัตรได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ในอันดับที่ 4 และการก่อตั้งพรรคประชาชน ในอันดับที่ 6 ทั้งนี้ จากความพลิกผันของสถานการณ์ทางการเมือง เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ให้ยุบพรรคก้าวไกล ในวันที่ 7 สิงหาคม อีกทั้งในสัปดาห์ถัดมามีคำวินิจฉัยให้เศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำให้กลุ่มเนื้อหาการเมืองถูกกล่าวถึงเพิ่มมากขึ้นจน เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 8 เดือน ที่ประเด็นการเมืองติด 10 อันดับความสนใจ นับจากกรณีพิธากลับเข้าสภา ติดอันดับ 4 ในเดือนมกราคม และการผ่านร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมฯ ติดอันดับ 9 ในเดือนมิถุนายน

สาเหตุที่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 เป็นประเด็นที่คนในสังคมออนไลน์ให้ความสนใจเป็นอันดับ 1 ในเดือนสิงหาคม 67  อาจเพราะสร้าง Engagement สูงต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกรกฎาคม จากพิธีเปิดการแข่งขันกีฬา ด้วยการใช้สถานที่จริงในกรุงปารีส นำเสนอพิธีการสำคัญ เช่น การเชิญธง การจุดคบเพลิง  ผ่านการนำเสนอเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ รวมทั้ง ศิลปะ วัฒนธรรม และการแสดงที่หลากหลาย แต่ประเด็นการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ในเดือนสิงหาคม ส่วนใหญ่เป็นการกล่าวถึงการแข่งขันของนักกีฬาทีมชาติไทย การกล่าวชื่นชมนักกีฬาไทยที่ได้เหรียญในการแข่งขัน เช่น เทนนิส พาณิภัค,วิว กุลวุฒิ, วีรพล วิชุมา, จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง เป็นต้น จากนั้นความสนใจก็ลดลงหลังจากพิธีปิดในวันที่ 11 สิงหาคม 2567   

ส่วนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเมือง เช่น เศรษฐา ทวีสิน พ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรีและการยุบพรรคก้าวไกล การตั้งคำถามถึงความโปร่งใสของศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งประเด็นอื่น ๆ เช่น การลงทะเบียนรับเงินดิจิทัลผ่านแอปทางรัฐ อุบัติเหตุเครื่องบินตกที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งได้รับความสนใจสูงจากโลกออนไลน์เช่นกัน แต่กลับไม่ติด 10 อันดับแรกของความสนใจในการสื่อทางทางออนไลน์เดือนสิงหาคม 67

10 ประเด็นที่ได้รับความสนใจ มีการสื่อสารและมีส่วนร่วมมากที่สุดในโลกออนไลน์ เดือนสิงหาคม 2567

Media Alert กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับ Wisesight ศึกษาการสื่อสารออนไลน์ของสังคมไทย โดยใช้เครื่องมือ ZocialEye สำรวจจาก 5 แพลตฟอร์ม ได้แก่ 1) Facebook 2) X 3) Instagram 4) YouTube และ 5) TikTok โดยเริ่มจากการค้นหาเทรนด์ หรือกระแสสังคมที่เป็นที่พูดถึง เช่น Wisesight Trend และเทรนด์ของแพลตฟอร์มทั้ง 5 แพลตฟอร์ม หลังจากนั้นใส่คำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญที่พบจากการสำรวจในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เช่น โอลิมปิก วันแม่ พรชีวัน เป็นต้น จากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาคัดกรองและจัดหมวดหมู่ประเด็น ประเภทแพลตฟอร์ม กลุ่มผู้สื่อสาร กลุ่มเนื้อหา ตามเกณฑ์ที่ได้จัดทำขึ้น แล้วอธิบายสรุปข้อมูลสำคัญที่ค้นพบใน 10 อันดับ Engagement ของเดือนที่ทำการสำรวจ  โดยอ้างอิงจากหลักฐานเชิงประจักษ์ (Empirical Data) ได้แก่ ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ วันที่และเวลา จำนวนค่าปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเที่ยงตรง และลดอคติของนักวิเคราะห์ข้อมูล โดยประเด็นที่โลกออนไลน์ให้ความสนใจในช่วงเดือนสิงหาคม 2567 มีดังนี้

อันดับที่ 1 การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 (139,153,467 Engagement)

          โอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 33 จัดขึ้นที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม ถึง 11 สิงหาคม 2567 ซึ่งในเดือนสิงหาคม การสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์ในประเทศไทยเป็นการกล่าวถึงนักกีฬาชาวไทยที่เข้าแข่งขันกีฬาต่าง ๆ เช่น มวยสากล แบดมินตัน เทควันโด และยกน้ำหนัก เป็นต้น รวมถึงนักกีฬาที่ได้เหรียญรางวัล เช่น เทนนิส พานิภัค ที่ได้เหรียญทองเป็นสมัยที่ 2 พร้อมประกาศเลิกเป็นนักกีฬาทีมชาติ และเปิดตัวแฟนหนุ่ม การได้เหรียญเงินแรกในประวัติศาสตร์แบดมินตันไทยของวิว กุลวุฒิ การให้กำลังใจจันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง นักกีฬามวยสากลหญิงที่ได้เหรียญทองแดงหลังแพ้ อิมาน เคลิฟ นักมวยชาวแอลจีเรียที่มีโครโมโซม XY รวมถึงท่ายิงปืน ที่เป็นเอกลักษณ์ของ คิมเยจี นักกีฬายิงปืนชาวเกาหลีใต้ และของ ยูซุฟ ดิเคช นักกีฬายิงปืนชาวตุรกี โดยเฉพาะยูซุฟที่ถูกนำไปเปรียบเทียบกับท่ายิงปืนของ เท่ง เถิดเทิง ในรายการชิงร้อยชิงล้านและถูกส่งต่อจนเป็นไวรัลระดับโลก โดยผู้ใช้งานที่สร้าง Engagement มากที่สุด ได้แก่ ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ เช่น บัญชี panipak2540 ของเทนนิส พานิภัค, วาทะลูกหนัง -Football Quotes- โดยมีแพลตฟอร์ม TikTok สร้าง Engagement สูงสุด ที่ 40.26%

อันดับที่ 2 เทศกาลวันแม่ (49,044,641 Engagement)

          วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปีเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นวันที่ชาวไทยได้แสดงความรักและความกตัญญูต่อแม่ โดยในสื่อสังคมออนไลน์มีการกล่าวถึงเทศกาลวันแม่เป็นอันดับที่ 2 จากการโพสต์อวยพรวันแม่จากผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ที่สร้าง Engagement มากที่สุด เช่น หมอโบว์ หมอรักษาช้าง โพสต์เกี่ยวกับการดูแลแม่ที่เป็นอัลไซเมอร์พร้อมกับต้องทำงานไปด้วย เป็นต้น โดยมีแพลตฟอร์ม TikTok สร้าง Engagement สูงสุด ที่ 51.62%

อันดับที่ 3 ละครพรชีวัน (28,664,783 Engagement)

          พรชีวัน เป็นหนึ่งในละครชุดจากดวงใจเทวพรหม ซึ่งออกอากาศทางช่อง 3 เป็นเรื่องสุดท้ายของชุดละครนี้ นำแสดงโดย เก้า นพเก้า และ พีพี ปุญญ์ปรีดี เนื้อเรื่องเล่าถึงความรักของสรุจ และชีวัน ทายาทรุ่นที่ 2 ของตระกูลจุฑาเทพ และเทวพรหม ด้วยปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นของผู้คนรอบข้าง ความรักของทั้งคู่จึงมีอุปสรรคมากมาย โดยละครเริ่มออกอากาศตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม และเสนอตอนจบช่วงปลายเดือนสิงหาคม ทำให้คำสนทนาส่วนใหญ่เป็นการกล่าวถึงเนื้อหาของละคร และการตัดฉาก Highlight ในละครมาโพสต์ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ  โดยเฉพาะ TikTok ของผู้ใช้งานทั่วไป ทำให้ได้รับ Engagement จำนวนมาก ที่ 55.71%

อันดับที่ 4 แพทองธาร ชินวัตร ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี (28,369,606 Engagement)

          หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้เศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากละเมิดมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงในการแต่งตั้งรัฐมนตรีที่เคยต้องคำพิพากษาจำคุกหกเดือนฐานละเมิดอำนาจศาล  ส่งผลให้พรรคเพื่อไทยต้องพิจารณาเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อเข้าสู่การพิจารณาลงมติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยมีแคนดิเดต 2 คน ได้แก่ ชัยเกษม นิติศิริ และ แพทองธาร ชินวัตร ที่สุดพรรคเพื่อไทยมีมติเสนอชื่อ แพทองธาร ชินวัตร ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบให้ แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 และเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย โดยในสื่อสังคมออนไลน์ส่วนใหญ่เป็นการนำเสนอข่าวการได้เป็นนายกรัฐมนตรีของแพทองธาร การวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นหลังจากแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี โดย สื่อ สำนักข่าวสร้าง Engagement ได้มากที่สุด เช่น บัญชี amarintvhd ของช่องอมรินทร์ทีวี, บัญชี thairath_news ของช่องไทยรัฐทีวี เป็นต้น มีแพลตฟอร์ม TikTok สร้าง Engagement สูงสุด ที่ 39.30%

อันดับที่ 5 น้องหมีเนย มาสคอตร้าน Butterbear (26,841,751 Engagement)

          น้องหมีเนย มาสคอตจากร้าน Butterbear ที่ได้รับความนิยมในอันดับที่ 1 ต่อเนื่อง 2 เดือน คือเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม แต่ในเดือนสิงหาคมนี้ ความนิยมตกลงมาเป็นอันดับที่ 5 โดยโพสต์ที่ได้รับ Engagement สูง ยังคงเป็นคลิปน้องหมีเนย การเข้าร่วมกิจกรรมหรือการเต้นร่วมกับศิลปินอื่น ๆ เช่น แจ็คสัน หวัง, เจฟ ซาเตอร์, พีพี กฤษฏ์, บิวกิ้น พุฒิพงศ์ นอกจากนี้ยังมีการแชร์ภาพและวิดีโอที่แสดงความน่ารักของน้องหมีเนยขณะทำกิจกรรมต่าง ๆ จากช่องทางสื่อสารอย่างเป็นทางการของร้าน Butterbear โดยกลุ่ม มัมหมี หรือแฟนคลับ นอกจากนี้ยังพบประเด็นดราม่า บิวกิ้น พุฒิพงศ์ ออกมาขอโทษหมีเนยและแฟนคลับจากกรณีจับพุงหมีเนย และ เจมิไนท์ นรวิชญ์ ออกมาขอโทษที่พูดถึงหมีเนยด้วยถ้อยคำรุนแรง ผู้ใช้งานที่สร้าง Engagement มากที่สุด ได้แก่ ผู้ใช้งานทั่วไป โดยมีแพลตฟอร์ม TikTok สร้าง Engagement สูงสุด ที่ 53.15%

อันดับที่ 6 การก่อตั้งพรรคประชาชน (24,787,182 Engagement)

          7 สิงหาคม 2567 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ให้ยุบพรรคก้าวไกล เนื่องจากมีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง ทั้งสั่งเพิกถอนสิทธิคณะกรรมการบริหารพรรคในการสมัครรับเลือกตั้ง การจดทะเบียนหรือการมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ การเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง เป็นระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค ต่อมาวันที่ 9 สิงหาคม อดีต สส.พรรคก้าวไกล 143 คน ได้จัดประชุมและแถลงข่าวการจัดตั้งพรรคพรรคประชาชน ซึ่งเปลี่ยนชื่อเดิมของพรรคที่อดีต สส.พรรคก้าวไกลเข้ามาสังกัด โดยมี ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นหัวหน้าพรรค ในเหตุการณ์นี้ สื่อสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับการแถลงจุดยืนของพรรคประชาชน ที่จะไม่ล้มล้างสถาบัน และจะไม่ลงมติให้แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังมีการรายงานถึงปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ คือภายในระยะเวลาเพียง 9 ชั่วโมงหลังแถลงข่าวเปิดตัวพรรค มีผู้สมัครสมาชิกพรรคจำนวนถึง 20,000 คน และได้รับเงินบริจาครวม 10,000,000 บาท ผู้ใช้งานที่สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ได้มากที่สุด ได้แก่ สื่อ สำนักข่าว เช่น สรยุทธ สุทัศนจินดา กรรรมกรข่าว, The Reporters เป็นต้น โดยพบว่าแพลตฟอร์ม Facebook มีอัตราการสร้าง Engagement สูงสุดถึง 34.88%

อันดับที่ 7 ละครทองประกายแสด (23,737,128 Engagement)

          นวนิยายทองประกายแสด มีการสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว 2 ครั้ง สร้างเป็นละครโทรทัศน์มาแล้ว 5 ครั้ง ครั้งนี้จึงเป็นละครโทรทัศน์ครั้งที่ 6 ที่ผลิตโดยบริษัท CHANGE2561 เผยแพร่ทางช่อง ONE31 โดยผู้รับบท ทองดี ตัวเอกของเรื่องคือใบเฟิร์น พิมพ์ชนก แก่นหลักของเรื่อง คือ ความทะเยอทะยาน และมุ่งมั่นใฝ่หาชื่อเสียง เงินทอง และเกียรติยศของทองดี เพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยการใช้ความสวย และเสน่ห์ ทำให้ผู้ชายเข้ามาติดพันหลายคน และเธอใช้ผู้ชายเหล่านั้นเป็นบันไดแห่งชีวิตสู่การเป็นคุณทองประกายที่เลิศหรูและร่ำรวย โดยส่วนใหญ่ของการสื่อสารในสื่อสังคมออนไลน์ เป็นการแชร์ Highlight จากละคร ผู้ใช้งานที่สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) สูงที่สุด ได้แก่ ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ เช่น ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก, บริษัท CHANGE2561 และช่อง ONE31 ซึ่งแพลตฟอร์ม Facebook มีอัตราการสร้าง Engagement สูงสุดถึง 61.94%)

อันดับที่ 8 อุทกภัยภาคเหนือ (21,454,213 Engagement)

          ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2567 เกิดเหตุอุทกภัยใน 5 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ และสุโขทัย สาเหตุจากร่องมรสุมที่พาดผ่านพื้นที่ดังกล่าว ทำให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ในสื่อสังคมออนไลน์มีการติดตามสถานการณ์ของอุทกภัย และภาวะน้ำไหลบ่าสู่จังหวัดในภาคเหนือ การให้กำลังใจผู้ประสบภัย การรับบริจาคสิ่งของและเงินเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย เช่น การใช้โดรนเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยกลางน้ำป่า การรายงานความสูญเสียจากอุทกภัยของสื่อ สำนักข่าว เป็นต้น โดยผู้ที่สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) สูงสุด ได้แก่ สื่อ สำนักข่าว เช่น บัญชี amarintvhd ของช่องอมรินทร์ทีวี, รายการโหนกระแส เป็นต้น และแพลตฟอร์ม Facebook มีอัตราการสร้าง Engagement สูงสุดถึง 42.47%)

อันดับที่ 9 ซีรีส์ใจซ่อนรัก (21,045,173 Engagement)

          ใจซ่อนรัก (The Secret Of Us) เป็นซีรีส์แนวแซฟฟิค (Sapphic) หรือ หญิงรักหญิง นำแสดงโดยหลิงหลิง ศิริลักษณ์ และ ออม กรณ์นภัส ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มออกอากาศทางช่อง 3 ในเดือนกรกฎาคม และในเดือนสิงหาคมได้เข้าสู่ช่วงสุดท้ายและตอนจบของละคร เนื้อหาที่ได้รับความสนใจในช่วงเวลานี้ส่วนใหญ่เป็นการแบ่งปัน Highlight ของละคร รวมถึงคลิปเบื้องหลังต่าง ๆ การขอบคุณผู้ชมจากดารานักแสดง การตัด Highlight ของละครจากช่องทางอย่างเป็นทางการของช่อง 3 โดยผู้ใช้งานทั่วไปเป็นผู้สื่อสารที่สร้าง Engagement มากที่สุด ซึ่งแพลตฟอร์ม X สร้าง Engagement สูงสุดที่ 55.96%

อันดับที่ 10 ภาพยนตร์วิมานหนาม (20,658,720 Engagement)

          วิมานหนาม (The Paradise of Thorns)  ภาพยนตร์จากค่าย GDH กำกับการแสดงโดย นฤเบศ กูโน เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึง เสกและทองคำ คู่รักหนุ่มชาวสวนที่ช่วยกันปลูกบ้าน และทำสวนทุเรียน ทองคำใช้เงินก้อนใหญ่ทั้งหมดในชีวิตไถ่ถอนที่ดินให้เสก จนได้โฉนดที่ดิน แต่แล้วเสกเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต ทรัพย์สินทั้งหมดที่ร่วมสร้างกันมา ต้องตกไปเป็นของแม่เสก ผู้มีสิทธิ์ตามกฎหมาย แม่แสงได้พา โหม๋ ลูกสาวที่เก็บมาเลี้ยง รวมทั้ง จิ่งนะ น้องชายของโหม๋ เข้ามาอยู่ในบ้านของเสกด้วย ทำให้ทองคำต้องต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิ์ความเป็นเจ้าของทรัพย์สินกลับคืนมา โดยในสื่อสังคมออนไลน์ได้แสดงความชื่นชมต่อเนื้อหาของภาพยนตร์ และนักแสดง เช่น เจฟ ซาเตอร์ และอิงฟ้า วราหะ รวมถึงเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ร้องโดยเจฟ ซาเตอร์ โดยผู้ใช้งานทั่วไปมีบทบาทสำคัญในการสร้าง Engagement สูงสุด แพลตฟอร์ม TikTok มีอัตราการสร้าง Engagement สูงสุดถึง 47.81%

ผลการสำรวจการสื่อสารออนไลน์ในเดือนสิงหาคม 2567 ในด้านกลุ่มเนื้อหา ผู้สื่อสาร แพลตฟอร์ม

กลุ่มเนื้อหา
จาก 10 ประเด็นที่ได้รับความสนใจและมีการสื่อสารในสื่อสังคมออนไลน์มากที่สุดในช่วงเดือนสิงหาคม 2567 สามารถจำแนกเนื้อหาออกเป็น 5 กลุ่ม ตามจำนวน Engagement ดังนี้

กลุ่มเนื้อหากีฬา ได้รับความสนใจรวม 139,153,467 Engagement คิดเป็น 36.26% ของทั้งหมด โดยมีประเด็นการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 เพียงประเด็นเดียว ซึ่งแม้กระแสจะเริ่มลดลงตั้งแต่พิธีปิดวันที่ 11 สิงหาคม 2567 แต่ในภาพรวมตลอดทั้งเดือน พบว่า มี Engagement สูงสุด

กลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง รวม 120,947,555 Engagement คิดเป็น 31.52% จาก 5 ประเด็น คือ ละครพรชีวัน (28,664,783 Engagement), น้องหมีเนยมาสคอตร้าน Butterbear (26,841,751 Engagement), ละครทองประกายแสด (23,737,128 Engagement), ซีรีส์ใจซ่อนรัก (21,045,173 Engagement), ภาพยนตร์วิมานหนาม (20,658,720 Engagement)

กลุ่มเนื้อหาการเมือง 2 ประเด็น จำนวน 53,156,788 Engagement คิดเป็น 13.85% คือ แพทองธาร ชินวัตร ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี (28,369,606 Engagement), การก่อตั้งพรรคประชาชน (24,787,182 Engagement)

กลุ่มเนื้อหาเทศกาล 1 ประเด็น จำนวน 49,044,641 Engagement คิดเป็น 12.78% คือ เทศกาลวันแม่

กลุ่มเนื้อหาภัยพิบัติ 1 ประเด็น จำนวน 21,454,213 Engagement คิดเป็น 5.59% คือ อุทกภัยภาคเหนือ

 จะเห็นว่า แม้กลุ่มเนื้อหากีฬา จะได้รับ Engagement มากที่สุดในเดือนสิงหาคม 2567 แต่กลุ่มเนื้อหาสื่อ และสิ่งบันเทิง ยังคงเป็นกลุ่มเนื้อหาหลักที่ได้รับ Engagement สูงติด 10 อันดับแรก ในทุก ๆ เดือนที่มีการเก็บข้อมูล ในขณะที่กลุ่มเนื้อหาอื่น ๆ พบว่ามักได้รับความสนใจและสื่อสารในโลกออนไลน์ ตามสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นในขณะนั้น

กลุ่มเนื้อหาที่ได้รับความสนใจมากที่สุดจำแนกตามผู้สื่อสารและแพลตฟอร์ม

กลุ่มเนื้อหากีฬา มีกลุ่มผู้สื่อสารที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วม หรือมี Engagement มากที่สุด คือ ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ (41.86%) รองลงมา ได้แก่ ผู้ใช้งานทั่วไป (41.04%), สื่อ สำนักข่าว (15.62%) และอื่น ๆ ได้แก่ แบรนด์ (1.44%) พรรคการเมือง (0.03%) และ ภาครัฐ 0.01% โดยมี TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement มากที่สุดที่ 40.26% รองลงมาได้แก่ Facebook (35.59%), X (11.60%), Instagram (10.00%), YouTube (2.55%)

กลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง มีกลุ่มผู้สื่อสารที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วม หรือมี Engagement มากที่สุด คือ ผู้ใช้งานทั่วไป (63.97%) รองลงมา ได้แก่ ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ (21.69%), สื่อ สำนักข่าว (13.93%) และ แบรนด์ (0.41%) โดยมี TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement มากที่สุดที่ 39.03% รองลงมาได้แก่ X (26.41%), Facebook (16.30%), Instagram (15.80%), YouTube (2.46%)

กลุ่มเนื้อหาการเมือง มีกลุ่มผู้สื่อสารที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วม หรือมี Engagement มากที่สุด คือสื่อ สำนักข่าว (47.71%) รองลงมา ได้แก่ ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ (30.00%), ผู้ใช้งานทั่วไป (16.95%) และ อื่น ๆ ได้แก่ พรรคการเมือง (3.77%) นักการเมือง (1.27%) แบรนด์ (0.30%) โดยมี Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement มากที่สุดที่ 35.10% รองลงมาได้แก่ TikTok (34.78%), YouTube (10.98%), Instagram (10.00%), X (9.14%)

กลุ่มเนื้อหาเทศกาล มีกลุ่มผู้สื่อสารที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วม หรือมี Engagement มากที่สุด คือ ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ (49.85%) รองลงมา ได้แก่ ผู้ใช้งานทั่วไป (41.06%), สื่อ สำนักข่าว (7.01%) และ อื่น ๆ ได้แก่ แบรนด์ (2.03%) ภาครัฐ (0.05%) โดยมี TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement มากที่สุดที่ 51.62% รองลงมาได้แก่ Facebook (25.20%), Instagram (18.78%), X (3.48%), YouTube (0.92%)

กลุ่มเนื้อหาภัยพิบัติ มีกลุ่มผู้สื่อสารที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วม หรือมี Engagement มากที่สุด คือ สื่อ สำนักข่าว (39.91%) รองลงมา ได้แก่ ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ (32.95%), ผู้ใช้งานทั่วไป (25.34%) และ อื่น ๆ ได้แก่ แบรนด์ (1.24%) พรรคการเมือง (0.52%) ภาครัฐ (0.04%) โดยมี Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement มากที่สุดที่ 42.47% รองลงมาได้แก่ TikTok (39.03%), Instagram (7.51%), X (6.67%), YouTube (4.32%)

กลุ่มผู้สื่อสาร

          ในภาพรวม ช่วงเดือนสิงหาคม 2567 พบว่ากลุ่มผู้สื่อสารที่สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ในสื่อออนไลน์ สามารถแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มหลัก ได้แก่ ผู้ใช้งานทั่วไป ในสัดส่วน 44.06% ตามด้วย ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ (34.38%), สื่อ สำนักข่าว (19.79%), แบรนด์ (1.02%) พรรคการเมือง (0.74%) และ ภาครัฐ (0.01%)

ผู้ใช้งานทั่วไป สามารถสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ได้มากที่สุดในกลุ่มเนื้อหาสื่อสิ่งบันเทิง โดยส่วนใหญ่เกิดจากการแชร์ภาพน้องหมีเนย, Highlight ละครพรชีวัน, Highlight ซีรีส์ใจซ่อนรัก, และ เบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์วิมานหนาม ในขณะที่กลุ่มเนื้อหาอื่น ๆ ผู้ใช้งานทั่วไปมักเป็นรองผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ สำหรับกลุ่มเนื้อหากีฬาพบว่าผู้ใช้งานทั่วไปมีสัดส่วนน้อยกว่าผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์เพียงเล็กน้อยที่ 0.82% โดยเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการชื่นชมนักกีฬาจากประเทศไทยเช่น เทนนิส พานิภัค, โค้ชเช ชัชชัย, วิว กุลวุฒิ, ฟ่าง ธีรพงศ์ เป็นต้น รวมไปถึงการร่วมชื่นชมนักกีฬาต่างชาติ เช่น ฉวนหงฉาน นักกีฬากระโดดน้ำชาวจีนที่สร้างสถิติได้คะแนนเต็ม เป็นต้น

กลุ่มผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) สูงสุดในกลุ่มเนื้อหากีฬา โดยการโพสต์ของนักกีฬา เช่น เทนนิส พานิภัค ซึ่งได้ขอบคุณชาวไทยที่ให้กำลังใจจนสามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิกสมัยที่ 2 พร้อมทั้งโชว์เข็มที่ระลึกที่แลกได้จากนักกีฬาประเทศต่าง ๆ รวมถึงการโพสต์ของผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์สายกีฬา เช่น วาทะ ลูกหนัง –Football Quotes-, วิเคราะห์บอลจริงจัง เป็นต้น ที่ได้แสดงความยินดีกับนักกีฬาที่ได้รับเหรียญในโอลิมปิก นอกจากนี้ ยังพบว่ากลุ่มผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ ยังมีบทบาทในการสร้าง Engagement สูงในกลุ่มเนื้อหาเทศกาลวันแม่ ส่วนใหญ่มาจากการโพสต์คอนเทนต์เกี่ยวกับแม่ เช่น พาแม่เที่ยวเนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ, การระลึกถึงพระคุณของแม่ เป็นต้น จาก อาลี่ก๋งง, หมอโบ หมอรักษาช้าง, เก๋ วรรณ์ฐกานต์ เป็นต้น  

สื่อ สำนักข่าว สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) สูงสุดในกลุ่มเนื้อหาการเมือง จากการรายงานสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม ตัวอย่างข่าวที่ได้รับ Engagement สูง เช่น สำนักข่าวไทยรัฐจากข่าวทักษิณ ชินวัตร สวมกอด แพทองธาร ชินวัตร ก่อนรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี, อมรินทร์ทีวีลงข่าว จตุพร พรหมพันธุ์ วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองหลัง แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นต้น เช่น

นอกจากนี้ สื่อ สำนักข่าวยัง ยังมีบทบาทในการสร้างการมีส่วนร่วมมากที่สุดในกลุ่มเนื้อหาภัยพิบัติ คืออุทกภัยในภาคเหนือ เช่น การแจ้งเตือนอุทกภัย การรายงานสถานการณ์อุทกภัยภาคเหนือ เช่น เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานข่าวนักเรียนหนีน้ำท่วมขึ้นบนอาคารเรียน, การรายงานข่าวการให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยของผู้มีชื่อเสียง เช่น ไทยรัฐรายงานข่าว ก้อง ห้วยไร่ ลุยน้ำท่วมให้กำลังใจพี่น้องผู้ประสบอุทกภัย เป็นต้น

ส่วนกลุ่มผู้สื่อสารอื่น ๆ ได้แก่ แบรนด์, พรรคการเมือง และ ภาครัฐ  พบว่า ในภาพรวมสร้าง Engagement ได้น้อยกว่า 3 กลุ่มแรก แต่ก็มีส่วนในการสร้างการมีส่วนร่วม ในกลุ่มเนื้อหาการเมือง และภัยพิบัติ  แม้จะไม่ได้เป็นผู้สื่อสารหลัก ยกตัวอย่างเช่น ในประเด็นอุทกภัยในภาคเหนือ พบว่า แม้ภาครัฐ สื่อสารสร้าง Engagement ได้น้อยกว่ากลุ่มอื่นๆ  แต่ 2 หน่วยงานในกลุ่มภาครัฐที่มีบทบาทในการสื่อสารช่วงเหตุการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เตือนให้ระวังมิจฉาชีพซึ่งมาในรูปแบบการรับบริจาค, ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองพันปฏิบัติการจิตวิทยา ในกองทัพบก โพสต์ภาพการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เป็นต้น

 

แพลตฟอร์มการสื่อสาร

          จากการสำรวจ 10 อันดับประเด็นที่ได้รับความสนใจสูงสุดในโลกออนไลน์ช่วงเดือนสิงหาคม 2567 ในภาพรวมพบว่าแพลตฟอร์มที่สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) มากที่สุดเรียงตามลำดับคือ TikTok ซึ่งมีสัดส่วน 40.50% ตามด้วย Facebook 28.50%, X 14.61%, Instagram 12.81% และ YouTube 3.58%

 เมื่อพิจารณารายแพลตฟอร์ม พบว่า

TikTok ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) สูงที่สุดอย่างต่อเนื่องจากเดือนกรกฎาคม ในกลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง สาเหตุมาจากความนิยมในเนื้อหาวิดีโอที่ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ชื่นชอบในเดือนนี้ เช่น การเปิดประวัตินักกีฬาโอลิมปิก การรีวิวเข็มที่ระลึกที่นักกีฬาไทยแลกกับนักกีฬาประเทศต่าง ๆ และคลิปน้องหมีเนยเต้น ซึ่ง TikTok สามารถตอบโจทย์การสื่อสาร และสร้าง Engagement จากคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอสั้นได้ดีกว่าแพลตฟอร์มอื่น

ขณะที่แพลตฟอร์ม X พบว่า เด่นในกลุ่มเนื้อหาสื่อ สิ่งบันเทิง สามารถสร้าง Engagement ได้ดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของซีรีส์ใจซ่อนรัก ซึ่งมีการสร้าง Engagement บนแพลตฟอร์ม X สูงถึง 55.96% ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นการสื่อสารหรือแสดงความสนใจในเรื่องเฉพาะเจาะจง เช่น ดารา นักแสดงวัยรุ่น คอนเสิร์ต หรือซีรีส์ที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายทางเพศ หรือเนื้อหาที่ต้องการความสดใหม่และการสื่อสารแบบเรียลไทม์ จากกลุ่มแฟนคลับละคร หรือแฟนคลับนักแสดงที่ชื่นชอบละครแนวแซฟฟิค หรือ หญิงรักหญิง  

Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่สื่อมักใช้ในการรายงานข่าวในกลุ่มเนื้อหาการเมือง และ ภัยพิบัติ เนื่องจากทั้งสองประเด็นจำเป็นต้องมีสื่อหรือนักข่าวที่ลงพื้นที่เป็นตัวกลางในการสื่อสารเพื่อรายงาน รวมถึงการวิเคราะห์ที่ต้องใช้ทักษะและประสบการณ์เพื่อความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ต้องการนำเสนอ และ Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่มีรูปแบบ การนำเสนอที่หลากหลาย ทั้งภาพ วิดีโอ ตัวอักษร วิดีโอสั้น เป็นต้น ส่งผลให้ผู้ใช้งานสังคมออนไลน์มักเลือกติดตามสถานการณ์ผ่านสื่อ และ สำนักข่าวมากกว่าการสร้างคอนเทนต์ด้วยตนเอง  

Instagram สร้าง Engagement ได้สูง ในกลุ่มเนื้อหา สื่อ สิ่งบันเทิง และ กีฬา เนื่องจากเป็นช่องทางที่สามารถแบ่งปันภาพถ่ายได้ดีที่สุด ทำให้ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ส่วนใหญ่เลือกใช้มากที่สุดในทุกกลุ่มเนื้อหา  เช่น การแชร์ภาพเบื้องหลังละครของกลุ่มนักแสดง หรือการแบ่งปันภาพกิจกรรมของนักกีฬาที่เข้าแข่งขันโอลิมปิก เป็นต้น

YouTube เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement ได้สูงจากกลุ่มเนื้อหา การเมือง โดยเฉพาะจากสื่อ สำนักข่าว สาเหตุมาจากความน่าเชื่อถือของข่าว และความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลของสำนักข่าวที่ทำได้ดีกว่ากลุ่มผู้สื่อสารอื่น ๆ อีกทั้งการสร้างวิดีโอในช่องทาง YouTube จำเป็นต้องมีทักษะและเงินทุนมากกว่าแพลตฟอร์มอื่น ส่งผลให้สื่อ สำนักข่าว ที่มีต้นทุนมากกว่าผู้สื่อสารอื่นสามารถสร้าง Engagement ได้เป็นสูง

กล่าวโดยสรุป การสื่อสารออนไลน์ของเดือนสิงหาคม 2567 ในภาพรวม 10 อันดับแรก พบว่า กลุ่มเนื้อหา กีฬา ได้ความสนใจสูงที่สุดคิดเป็นสัดส่วนที่ 36.26% จากประเด็น การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 (อันดับ 1) ตามด้วย กลุ่มเนื้อหา สื่อสิ่งบันเทิง คิดเป็นสัดส่วนที่ 31.52%  จาก 5 ประเด็น ได้แก่ ละครพรชีวัน (อันดับ 3) น้องหมีเนยมาสคอตร้าน Butterbear (อันดับ 5) ละครทองประกายแสด (อันดับ 7)  ซีรีส์ใจซ่อนรัก (อันดับ 9)  และภาพยนตร์วิมานหนาม (อันดับ 10)

นอกจากนี้ ยังพบกลุ่มเนื้อหาเทศกาล คิดเป็นสัดส่วนที่ 12.78% จากประเด็นเทศกาลวันแม่ (อันดับ 2)  กลุ่มเนื้อหาการเมือง คิดเป็นสัดส่วนที่ 13.85% จาก 2 ประเด็นคือ แพทองธาร ชินวัตร ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี (อันดับ 4) การก่อตั้งพรรคประชาชน (อันดับ 6) ขณะที่กลุ่มเนื้อหาภัยพิบัติ คิดเป็นสัดส่วนที่ 5.59% จาก 1 ประเด็น คือ อุทกภัยภาคเหนือ (อันดับ 8)   

“น้องหมีเนย” เริ่มแผ่ว แต่กระแส “ละคร” “คู่จิ้น” ยังมาแรง 

แม้น้องหมีเนยมาสคอตร้าน Butterbear ยังคงเป็นประเด็นที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง แต่พบว่ากระแสเริ่มลดลง จากที่เคยติดอันดับ 1 ต่อเนื่องในสองเดือนก่อนหน้า ตกมาอยู่ในอันดับ 5 ในเดือนสิงหาคมนี้ โดย Engagement ส่วนใหญ่มาจากโพสต์ของกลุ่มแฟนคลับดาราที่ร่วมงานกับน้องหมีเนย ส่วนในแง่ลักษณะการสื่อสาร พบว่า ส่วนใหญ่ยังคงเป็นการแบ่งปันภาพและวิดีโอของน้องหมีเนยจากกลุ่ม “มัมหมี” รวมถึงการร่วมเต้นหรือร่วมกิจกรรมกับศิลปินอื่น ๆ

ความนิยมในซีรีส์ใจซ่อนรัก ซึ่งเป็นคอนเทนต์แนวหญิงรักหญิง ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ใน 10 อันดับความสนใจตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2567 ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนถึงเทรนด์ความนิยมและแนวโน้มความสนใจ การสื่อสาร และการสร้างการมีส่วนร่วมของกลุ่มแฟนละคร ภาพยนตร์ และซีรีส์แนวหญิงรักหญิงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  นอกจากนี้ ยังมีภาพยนตร์เรื่องวิมานหนาม รวมถึงละครเรื่องพรชีวัน และทองประกายแสด ที่ติด 10 อันดับแรกในเดือนนี้เช่นกัน โดยในภาพรวมจะเห็นว่า ในกลุ่มเนื้อหาบันเทิง ผู้ใช้งานทั่วไปคือกลุ่มผู้ที่มีบทบาทสร้าง Engagement สูงสุด โดยเฉพาะจากกลุ่มแฟนคลับหรือติดตามละคร ดารา และนักแสดง  โดยมี TikTok เป็นแพลตฟอร์มการสื่อสารที่สำคัญ

ไทยได้นายกฯ ใหม่ สู่การสื่อสารและความสนใจเรื่องการเมืองที่เพิ่มขึ้น

จากการสำรวจยังพบว่า ประเด็นเรื่องการเมืองกลับมาติด 1 ใน 10 อันดับความสนใจอีกครั้งในเดือนสิงหาคม (นับจากกรณีพิธากลับเข้าสภา ที่ติดอันดับ 4 ในเดือนมกราคม และประเด็นการผ่านร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมฯ ที่ติดอันดับ 9 ในเดือนมิถุนายน) โดยมีเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย 2 เหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยน ได้แก่ การที่แพทองธาร ชินวัตร ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี และการก่อตั้งพรรคประชาชน ซึ่งเกิดขึ้นหลังจาก การตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่ปลดเศรษฐา ทวีสิน ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทั้งหมด ส่งผลให้สังคมออนไลน์กลับมาสนใจในประเด็นทางการเมืองอีกครั้ง  โดยพบว่า สื่อสำนักข่าวเป็นผู้สร้าง Engagement ในกลุ่มเนื้อหาเรื่องการเมืองมากที่สุด รองมาเป็น ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ และประชาชนทั่วไป โดยมี Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement มากที่สุดผ่านกลุ่มสื่อ สำนักข่าว รองลงมาได้แก่ TikTok ที่มีสัดส่วนที่ห่างกันเพียงเล็กน้อย

วันแม่ 67 ติด 10 อันดับแรกอีกครั้ง

ประเด็นวันแม่มีความน่าสนใจที่สามารถสร้าง Engagement ได้สูง จากการแบ่งปันเนื้อหาที่เกี่ยวกับแม่ทั้งจากผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์และผู้ใช้งานทั่วไป ทำให้ได้รับความสนใจจากสังคมออนไลน์ เช่นเดียวกับเมื่อปี 2565 แต่ในปี 2566 ประเทศไทยมีการตื่นตัวในประเด็นทางการเมืองอย่างมาก แม้ผ่านการเลือกตั้งทั่วไปตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม แต่กว่าจะได้นายกรัฐมนตรีก็ล่วงเลยถึงเดือนสิงหาคม  ส่งผลให้วันแม่ไม่ติด 10 อันดับในเดือนสิงหาคม 2566 สำหรับเดือนสิงหาคม 67 กลุ่มเนื้อหาเทศกาล หรือประเด็นวันแม่ มีผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์สร้าง Engagement สูงสุด ซึ่งต่างจากอันดับที่ 2 ผู้ใช้งานทั่วไปไม่มาก โดยเนื้อหาจะเป็นการโพสต์แสดงความกตัญญูต่อแม่ เช่น การดูแลแม่ การพาแม่เที่ยว เป็นต้น โดยมี TikTok เป็นแพลตฟอร์มสื่อสารหลัก

โอลิมปิก 2024 ครองความสนใจในอันดับ 1

การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกรกฎาคม อย่างไรก็ตาม ลักษณะของโพสต์ในเดือนสิงหาคมนี้เน้นไปที่การสรุปประวัติของนักกีฬาเหรียญทอง การให้กำลังใจนักกีฬา การแลกเข็มที่ระลึกระหว่างนักกีฬาต่างชาติ เช่น เทนนิส พาณิภัคแลกเข็มที่ระลึกกับนักกีฬาชาวสเปน, เทนนิส พาณิภัคประกาศเลิกเล่นทีมชาติและขอบคุณชาวไทยที่ส่งกำลังใจ เป็นต้น ทั้งนี้ จะเห็นว่า กลุ่มเนื้อหากีฬา หรือประเด็นเรื่องโอลิมปิก 2024 ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์สร้าง Engagement สูงสุด เช่น นักกีฬา และ เพจที่เกี่ยวข้องกับกีฬา รวมถึงผู้มีอิทธิพลที่โพสต์แสดงความยินดีกับนักกีฬาโอลิมปิก ตามด้วยผู้ใช้งานทั่วไป ซึ่งมีสัดส่วนห่างกันเพียงเล็กน้อย โดยมี TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถสร้าง Engagement ที่สำคัญ

สื่อฯ สร้าง Engagement ในประเด็นน้ำท่วมภาคเหนือ ได้มากกว่าภาครัฐ

ส่วนประเด็นอุทกภัยภาคเหนือ ได้รับความสนใจ  เนื่องจากเป็นประเด็นที่ส่งผลกระทบกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นวงกว้าง อีกทั้งยังเป็นสถานการณ์ที่ต้องการความร่วมมือ และแนวทางการจัดการแก้ไขปัญหาจากหลายฝ่ายอย่างเร่งด่วน สถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือจึงได้รับความสนใจจากสังคมและมีการรายงานจากสื่อ สำนักข่าว อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นการติดตามสถานการณ์อุทกภัย การแจ้งเตือนพื้นที่น้ำท่วมจากทางภาครัฐ และการเปิดพื้นที่รับบริจาคสิ่งของให้แก่ผู้ประสบภัยจากองค์กรต่าง ๆ 

ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่าในประเด็นอุทกภัยทางภาคเหนือ ในช่วงเดือนสิงหาคม 2567 มีสื่อสำนักข่าวเป็นผู้สร้าง Engagement มากที่สุด รองมาเป็นผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ และประชาชนทั่วไป ในขณะที่ภาครัฐสามารถสร้าง Engagement ได้น้อยที่สุด ซึ่งอาจสะท้อนให้เห็นถึง ข้อจำกัดบางอย่างในการสื่อสารของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น การใช้ภาษาและวิธีการสื่อสารที่เป็นทางการจนเกินไป เป็นต้น หรืออาจเป็นไปได้เช่นกันที่โลกออนไลน์มักเลือกรับสาร หรือมีส่วนร่วมกับข้อมูลเรื่องน้ำท่วมจากสื่อ สำนักข่าว ซึ่งอาจมีรูปแบบการนำเสนอที่เข้าใจง่าย หรือด้วยการนำเสนอที่เร้าอารมณ์และสร้างความสนใจได้มากกว่าการนำเสนอโดยผู้สื่อสารภาครัฐ สำหรับแพลตฟอร์มการสื่อสาร พบว่า ประเด็นเรื่องน้ำท่วม มี Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement สูงสุด รองลงมาได้แก่ TikTok  ตามด้วย Instagram ซึ่งมีสัดส่วน Engagement ที่น้อยกว่าค่อนข้างมาก

ประเด็นที่ไม่ติด 10 อันดับแรก และแนวโน้มความสนใจในช่วงปลายปี

นอกจากนี้ จากการสำรวจข้อมูลในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2567 ยังพบว่ามีประเด็นเชิงสังคมและข่าวใหญ่อื่น ๆ ที่แม้จะไม่ติด 10 อันดับแรก แต่อยู่ในช่วงชั้นความสนใจในอันดับที่ 11-20 ตัวอย่างเช่น การที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งปลดนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน เนื่องจากละเมิดมาตรฐานทางจริยธรรมในการแต่งตั้งรัฐมนตรี (อันดับที่ 12), การยุบพรรคก้าวไกล (อันดับที่ 13), การตั้งคำถามถึงความโปร่งใสและอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ (อันดับที่16), การลงทะเบียนรับเงินดิจิทัลผ่านแอปทางรัฐ (อันดับที่ 18) และกรณีเครื่องบินตกที่ฉะเชิงเทรา (อันดับที่ 20)  เป็นต้น 

ข้อมูลข้างต้นสะท้อนให้เห็นว่าความสนใจในโลกออนไลน์ที่ติด 10 อันดับแรก มักเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องสื่อ สิ่งบันเทิง กีฬา เทศกาล หรืออื่น ๆ ที่ไม่ซับซ้อน ขณะที่ประเด็นเชิงสาธารณะ ที่เกี่ยวข้องกับการเมือง หรือข่าวใหญ่ที่มีลักษณะซับซ้อน ส่งผลกระทบต่อสังคม มักได้รับ Engagement น้อยกว่า ซึ่งเป็นลักษณะเทรนด์ที่สังเกตได้ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2567 ซึ่งมีความแตกต่างจากปี 2566 ที่กลุ่มเนื้อหาทางการเมืองมีสัดส่วน Engagement มากกว่ากลุ่มเนื้อหาอื่น ๆ แต่ก็เริ่มมองเห็นเค้าลางความสนใจสื่อสารเรื่องการเมืองที่เพิ่มมากขึ้นในโลกออนไลน์ ทั้งนี้ จากสถานการณ์ความพลิกผันทางการเมืองที่เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2567 ที่อาจส่งผลให้ประเด็นทางการเมืองกลับมาติดอันดับมากขึ้นในช่วงปลายปี ควบคู่กับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์อุทกภัย ซึ่งเริ่มจากเหตุการณ์น้ำท่วมทางภาคเหนือของประเทศไทย ในขณะที่กลุ่มผู้สื่อสารที่สำคัญในโลกออนไลน์ ยังคงเป็น 3 กลุ่มแรก ได้แก่ ผู้ใช้งานทั่วไป กลุ่มผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงสื่อ สำนักข่าว โดยมีแพลตฟอร์ม TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่โดดเด่นในการสร้างการมีส่วนร่วมได้ดี ในเกือบทุกกลุ่มเนื้อหา