เลือกหน้า

กองทุนสื่อรุกสร้างผู้ผลิตสื่อสร้างสรรค์ สู่ธุรกิจStart Up จัดประกวดคนรุ่นใหม่ ชิงเงินลงทุนขั้นต่ำ 1 ล้านบาท

กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ (Thai Media Fund) และ Entrepreneur Advisory Center (EAC)
เปิดตัวโครงการ พัฒนาผู้ประกอบการสื่อรายใหม่“Thai Media Fund Hackathon 2023”
เปิดรับสมัครผู้มีแนวคิดผลิตสื่อสร้างสรรค์ เพื่อชิงเงินลงทุนมูลค่ารวมกว่า 1,000,000 บาท

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รองประธานกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
มอบหมาย ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เปิดงานแถลงข่าวและเปิดโครงการพัฒนาผู้ประกอบการสื่อรายใหม่ ”Thai Media Fund Hackathon2023”

ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่า ปัจจุบันสื่อมีบทบาทที่สำคัญอย่างมากในการสื่อสาร การยกระดับความรู้  ความบันเทิงให้แก่ผู้คนในสังคม เป็นธุรกิจที่กำลังเติบโตและสามารถสร้างมูลค่ามหาศาลให้กับประเทศ เราจึงต้องปรับตัวให้ทันสมัยอยู่เสมอ 
โครงการ Thai Media Fund Hackathon 2023 ต้องการสร้างนักคิด นักเขียน นักผลิต ผู้ประกอบการที่สร้างสื่อและนำไปสร้างรายได้ สร้างพลังการเปลี่ยนแปลงที่ควรจะเกิดขึ้นในสังคม  จึงจำต้องมุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับคุณภาพของอุตสาหกรรมสื่อทุกมิติ ที่ผลิตและเผยแพร่สู่สังคม เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นสื่อที่มีคุณภาพ ปลอดภัย สร้างสรรค์ และเป็นเครื่องมือช่วยพัฒนาสังคมให้ดียิ่งขึ้น  ‘กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์”  (Thai Media Fund) จึงได้จัดกิจกรรม  “โครงการพัฒนาผู้ประกอบการสื่อรายใหม่Thai Media Fund Hackathon 2023” ขึ้น โดยมี Entrepreneur Advisory Center (EAC) เป็นผู้ดำเนินโครงการร่วมกับองค์กรพันธมิตรหลายแห่ง จัดกิจกรรมแฮคกาธอน เพื่อสร้างคนสร้างโอกาส และพัฒนาสตาร์ทอัพด้านอุตสาหกรรมสื่อ กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีใจรักการทำสื่อโครงการมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้ที่อยู่ในห่วงโซ่อุตสาหกรรมสื่อ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ  ให้เป็นผู้ผลิตที่มีคุณภาพ มีความสร้างสรรค์ เผยแพร่สื่อที่มีคุณภาพ มีความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชนและประเทศ และให้สามารถต่อยอดสื่อสร้างสรรค์ สร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการผลักดันให้เกิด StartUp ซึ่งผู้ผ่านการคัดเลือกจะได้รับเงินลงทุนจากการระดมทุนของบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ

คุณวรนันท์ ถาวรนันท์ ผู้รับผิดชอบโครงการ กล่าวว่า โครงการ Thai Media Fund Hackathon 2023 แบ่งออกเป็น 3 เฟสด้วยกัน ได้แก่
1.การเตรียมงานและรับสมัครผู้ที่สนใจในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสื่อ โดยคัดเลือกให้เหลือ 50 ทีม
2.เปิดการสอนหลักสูตร 3 วัน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.Soft skill  2.ธุรกิจ  3.เทคโนโลยี โดยสามารถเข้าเรียนได้ในรูปแบบออนไลน์ และจัดการประกวดเพื่อคัดเลือกให้เหลือ 5 ทีม จากทั้งหมด 50 ทีม
3.Orientation และ เข้าเรียนในหลักสูตร แบ่งออกเป็น 3 หัวข้อ ได้แก่ 1. Coaching and Mentoring 2.Workshop 3. One-on-one meetings ภายในระยะเวลา 3 เดือน จากนั้นทางคณะกรรมการจะตัดสินภายในเดือนมิถุนายน และประกาศผลผู้ที่ได้รับทุนสนับสนุนมากกว่า 1 ล้านบาท
ผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 3 มีนาคม 2566

 

โครงการ Thai Media Fund Hackathon 2023 นี้ เป็นโครงการที่กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ได้ร่วมมือกับหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (strategic partner) อาทิ บริษัท อองเทรอเพรอเนอ แอดไวเซอรี่ เซ็นเตอร์ จำกัด หรือ EAC คุณวรนันท์ ถาวรนันท์ เป็นผู้รับผิดชอบโครงการและมีผู้สนับสนุน ได้แก่
บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส ดร.ภาณุภัทร์ ภู่เจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายโทรคมนาคม
บริษัท Search Entertainment คุณวิบูลย์ ลีรัตนขจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Search Entertainment

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รศ.นพ.กัมมาล กุมาร ปาวา  รองอธิการบดีฝ่ายบริหารศูนย์พัทยา
โดยได้รับการสนับสนุนประกอบด้วยเงินลงทุน จัดหาผู้เชี่ยวชาญอบรมและให้ความรู้ การเตรียมการหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง รวมตลอดถึงการสื่อสารประชาสัมพันธ์ และการสนับสนุนด้านอาคารสถานที่ที่ใช้ในการฝึกอบรม เป็นต้น

ทั้งนี้โครงการ Thai Media Fund Hackathon 2023  มีเป้าหมายเพื่อสร้างผู้ประกอบการสตาร์ตอัพ(Start-up) และ SMEs เพื่อเป็นต้นแบบในการพัฒนาผู้ประกอบการสื่อรายใหม่ ให้มีความรู้ที่สามารถผลิตสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ขึ้น โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับการอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ จากวิทยากรผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ด้านธุรกิจสื่อ การผลิตสื่อหรือวิสาหกิจเริ่มต้น ทั้ง สตาร์ตอัพ ((Start-up) และ SMEs) และยังมีพี่เลี้ยงให้คำปรึกษา สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการแต่ละรายเพื่อดูแล และให้คำแนะนำตลอดระยะเวลากิจกรรมของโครงการพัฒนาผู้ประกอบการสื่อรายใหม่ Thai Media Fund Hackathon 2023

 

ขอเชิญชวนผู้ที่มีแนวคิดและสนใจธุรกิจสื่อเชิงปลอดภัย,สร้างสรรค์ สมัครเข้าร่วมโครงการ Thai Media Fund Hackathon 2023 โดยทีมที่ได้รับคัดเลือกเป็นผู้ชนะจะมีโอกาสได้รับเงินลงทุนในธุรกิจมูลค่ารวม 1,000,000 บาท เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้
ถึง 3 มีนาคม 2566

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่
Line official: https://lin.ee/Cfb1bBp
FB page: Thai Media Hackathon 2023
IG: @thaimediahackathon 
TikTok: Thai Media Hackathon
YouTube: Thai Media Hackathon

“สานศาสตร์” มอบรางวัลคนรุ่นใหม่ จุดประกายสืบสานงานศิลป์ 2 แขนง สานต่อภารกิจ “TMF มหาวิทยาลัยออนไลน์ สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์”

“สานศาสตร์” มอบรางวัลคนรุ่นใหม่ จุดประกายสืบสานงานศิลป์ 2 แขนง สานต่อภารกิจ
TMF มหาวิทยาลัยออนไลน์ สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์”

 

โครงการงานถ่ายทอดองค์ความรู้จากศิลปินต้นแบบสู่ผู้ผลิตหน้าใหม่ หรือ “สานศาสตร์” โดย กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดมอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะการประกวดทั้ง 2 ศาสตร์การเรียนรู้ รวม 6 รางวัล พร้อมมอบใบประกาศนียบัตรแก่ผู้ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการ โดย ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นอกจากนี้ภายในงานยังจัดให้มีการเสวนาต่อยอด “สานศาสตร์คนชั้นครู เล่าสู่กันฟัง” โดยผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ นายเทินพันธ์ แพนสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์สำหรับประชาชน  ผู้แทนศาสตร์ บทประพันธ์
คุณกุณฑล ศิริไพบูลย์ ตัวแทนคุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ หรือ แม่ทมยันตี, คุณรักชนก นามทอน บรรณาธิการ สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, ผู้แทนศาสตร์การแสดง คุณนนทกร ทวีสุข ผู้กำกับภาพยนตร์ไทย, คุณอานุภาพ อนุวงษ์สังข์ ACTING COACH,
ผู้กำกับซีรี่ย์ เรื่องเล่าเขย่าขวัญทางช่อง 8 ฯลฯ เข้าร่วมงาน เมื่อเร็วๆ นี้

ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เผยว่า โครงการงานถ่ายทอดองค์ความรู้จากศิลปินต้นแบบ สู่ผู้ผลิตหน้าใหม่ ภายใต้แนวคิด “สานศาสตร์” มีเป้าหมายในการดำเนินโครงการเพื่อเป็นการรวบรวมความรู้ สะสมคุณค่าผ่านประสบการณ์ชีวิต สู่การสืบสานองค์ความรู้จากศิลปินชั้นครู ถ่ายทอดสู่คนรุ่นใหม่ โดยจัดเก็บความรู้แบบบทเรียนออนไลน์ ผ่านศาสตร์ความรู้ 2 แขนง ได้แก่ ศาสตร์บทประพันธ์ และ ศาสตร์การแสดง
การดำเนินโครงการก็มาถึงวันที่เราได้ผลผลิตที่ยอดเยี่ยมจากผู้เข้าร่วมกิจกรรม ตั้งแต่เข้าเรียนออนไลน์ เข้าร่วมกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ และ ส่งผลงานเข้ามาเพื่อชิงโล่รางวัลเกียรติยศในวันนี้ ผมก็ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลทุกคน และขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการเดินทางสู่อาชีพ ไม่ว่าจะเป็นนักเขียน หรือ นักแสดง ขอให้นำความรู้ที่ได้จากโครงการ ไปพัฒนาต่อยอดสู่การเป็นนักสื่อสารที่มีคุณภาพ และ สร้างสรรค์สื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ต่อไป’

นอกจากนี้ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ยังจะนำองค์ความรู้ในหลาย ๆ แขนง ที่ทรงคุณค่าต่อการสื่อสาร มาต่อยอด ถ่ายทอดให้เกิดการสืบสานศาสตร์องค์ความรู้ ประสบการณ์ จากศิลปินชั้นครู สู่ผู้ผลิตหน้าใหม่ เพื่อต่อยอดสู่การสร้างศูนย์กลางองค์ความรู้เป็น “TMF มหาวิทยาลัยออนไลน์ สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์” ให้เกิดนิเวศสื่อที่ดี ที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ต่อไป

*** เกี่ยวกับ โครงการสานศาสตร์ สืบสานศาสตร์องค์ความรู้จากศิลปินชั้นครูสู่ผู้ผลิตหน้าใหม่ ได้รับการสนับสนุนจาก กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ มีภารกิจเพื่อสนับสนุนและกระตุ้นให้เกิดสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์โดยในครั้งนี้

โครงการได้ส่งต่อศาสตร์ความรู้จากศิลปินชั้นครูสองแขนง ได้แก่ ศาสตร์บทประพันธ์เป็นบันทึกวิดีโอสุดท้ายจาก คุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ หรือ ทมยันตี และ ศาสตร์การแสดงโดย คุณคเณศ เค้ามูลคดี หรือ รองเค้ามูลคดี ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง ที่ผ่านมา ได้เริ่มดำเนินโครงการและประชาสัมพันธ์เปิดรับสมัครคนรุ่นใหม่ ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2565 ณ อาคารหอชมวังวิภาวดีพาเลซ โดยมีศิลปินชั้นครูเข้าร่วมงานได้แก่ผู้แทนศาสตร์บทประพันธ์
คุณกุณฑล ศิริไพบูลย์ ตัวแทนคุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ หรือ แม่ทมยันตี, คุณรักชนก นามทอน บรรณาธิการสำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, ผู้แทนศาสตร์การแสดง คุณรอง เค้ามูลคดี ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง, คุณนนทกร ทวีสุข ผู้กำกับภาพยนตร์ไทย

ผู้ร่วมกิจกรรมได้รับความรู้จากการเสวนาและชมนิทรรศการทรงคุณค่า ต่อยอดสู่การถ่ายทอดองค์ความรู้ชั้นครูสู่วงกว้างจากการเปิดบทเรียนออนไลน์ ศาสตร์ละ 10 บทเรียนที่ทำให้ทุกคนทุกพื้นที่สามารถเข้าเรียนได้อย่างทั่วถึงผ่าน www.tmfsansart.com  โดยผู้ที่สนใจยังสามารถสมัครเรียนและเข้าสู่บทเรียนออนไลน์ได้เรียนฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

นอกจากนั้นเพื่อเป็นการขยายผลต่อยอด จากการเรียนออนไลน์ ทางโครงการฯ ได้นำสู่การอบรมเชิงปฏิบัติการหรือเวิร์กช็อปกับวิทยากรชั้นครูแบบใกล้ชิด ใจถึงใจ โดยคัดเลือกหาผู้ผลิตหน้าใหม่จากการส่งการบ้านหลังจากเรียนออนไลน์ซึ่งมีผู้ผ่านการคัดเลือกจำนวน 60 คน แบ่งเป็นศาสตร์บทประพันธ์ 30 คนและศาสตร์การแสดง 30 คน รับการถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้เทคนิคและพลังใจเพื่อนำเอาทั้งหมดที่ได้รับมาสร้างสรรค์เป็นผลงานของตนเองพร้อมส่งผลงานเข้าแข่งขันชิงรางวัลโล่เกียรติยศจากโครงการฯ ซึ่งผลงานของทั้งสองศาสตร์ความรู้ได้แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์และพัฒนาแนวคิดความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างยอดเยี่ยมและได้สร้างความหนักใจให้เหล่าคณะกรรมการเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้โครงการสานศาสตร์และเหล่าคณะกรรมการทุกท่าน ขอชื่นชมทุกๆ ผลงานและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความรู้ที่ได้รับจากโครงการจะถูกนำไปต่อยอดเป็นผลงานสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ในอนาคต รวมไปถึงเหล่าผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน จะนำแนวคิดดีเอ็นเอจากคนชั้นครูที่ได้รับไปใช้ถ่ายทอดสู่คนรุ่นอื่นๆ หรือคนรุ่นหลังต่อไป

โดย กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จะนำองค์ความรู้อื่นๆ มาถ่ายทอดให้กับทุกคนสู่การสร้างศูนย์กลางองค์ความรู้ สมดังเจตนารมณ์ที่ตั้งไว้ TMF มหาวิทยาลัยออนไลน์สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ สำหรับคนทุกกลุ่ม

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ประชาสัมพันธ์โครงการฯ คุณนิพล (โจ้)  089 770 1411 หรือคุณณัฐนันท์ (บี) 099-5098942

กองทุนสื่อ ประกาศผลพร้อมมอบรางวัล ประกวดคลิปรณรงค์”หยุดเหยียดเกลียดศาสนา พูดร้ายทำลายกัน”

กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดงานประกาศผล และมอบรางวัลการประกวดคลิปรณรงค์โครงการ TMF STOP HATE SPEECH CLIP CONTEST หัวข้อ “หยุดเหยียดเกลียดศาสนา พูดร้ายทำลายกัน”  

โดยมี ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ให้เกียรติเป็นประธาน พร้อมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ  ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการผลงานของทั้ง 15 ทีม ที่ผ่านเข้ารอบฝ่าด่านการคัดเลือกมาจากผลงานที่ส่งมาทั่วประเทศ  พร้อมชมคลิปรางวัลชนะเลิศจากผลงานผู้ชนะ และร่วมเป็นเกียรติในพิธีมอบรางวัล เมื่อวันอังคารที่ 31 มกราคม 2566 เวลา 09.00 – 12.00 น.  ที่โรงแรมเดอ ไพรม์ รางน้ำ

ดร. ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่า โครงการอบรมและประกวดการผลิตคลิปรณรงค์โครงการ TMF STOP HATE SPEECH CLIP CONTEST หัวข้อ “หยุดเหยียดเกลียดศาสนา พูดร้ายทำลายกัน” เพื่อยกระดับการผลิตสื่ออย่างสร้างสรรค์แบบมืออาชีพ  ทั้งยังเป็นการสร้างความตระหนักรู้ถึงผลร้ายและการรับมือ Hate Speech ในโลกโซเชียล

โดย ผศ.ดร.ชนัญสรา อรนพ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการนวัตกรรมจัดการ นิด้า การผลิตสื่อเกี่ยวกับศาสนาและการรณรงค์ เทคนิคการตัดต่อ โดยมีคุณธนพงษ์ สนองเกียรติ, คุณอุษณะ สมานทรัพย์, คุณพวงเพชร สุพาวาณิชย์,  คุณศิววงศ์ แซ่ล้อ  โปรดิวเซอร์และผู้กำกับการแสดงชื่อดังมาให้ความรู้ ในการคิดสร้างสรรค์สังคมในอนาคตให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการได้อีกด้วย

ทั้งนี้หลังการอบรมเสร็จสิ้น ผู้เข้าร่วมอบรม ได้ส่งผลงานมาเข้าร่วมประกวด รวมถึงยังได้ผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน คือ

นายนที อณารัตน์ , นายมานัส ทารัตน์ใจ , ผศ.ดร.ศศิธร ยุวโกศล , นางสาวสุรัตนาวี ภัทรานุกุล ,นางวรินรำไพ ปุณย์ธนารีย์ ร่วมตัดสิน

โครงการประกวดคลิปรณรงค์การประทุษวาจาทางด้านศาสนา “TMF Stop Hates Speech Clip Contest หัวข้อ “หยุดเหยียดเกลียดศาสนาพูดร้ายทำลายกัน” จัดขึ้นเพื่อสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับประทุษวาจาและกระตุ้นให้เกิดการเฝ้าระวังปัญหาดังกล่าวในสังคมไทย โดยเฉพาะช่องทางสื่อออนไลน์ ทั้ง Facebook / Twitter / Instragram / Youtube โดยเปิดรับผลงานจากนักเรียน นักศึกษา เครือข่ายศาสนาและประชาชนทั่วไป มีผู้สนใจส่งคลิปเข้าประกวดรวมกว่า 20 ผลงานทั่วประเทศ

ซึ่งในปีนี้  สำหรับผู้ชนะเลิศอันดับที่ 1 รับเงินรางวัลจำนวน 30,000 บาท ได้แก่ ทีม MOVING IMAGE  
สมาชิกในทีมได้แก่ อรุณกร พิค และ พัชราวดี พิค

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 – 20,000 บาท ได้แก่ นาย ศักดา ศรีสมุทรนาค

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 – 10,000 บาท ได้แก่ ทีม แกงเขียวหวานไก่  สมาชิก นางสาวปนัดดา  มากชิต และ
นายแวมูหาหมัด แวแซ

รางวัลชมเชย 3 รางวัล รางวัลละ 5,000 บาท ได้แก่ 1.นางสาวอัสสียะห์ อาแว, 2.นายทศพร ตุ้ยเล็ก, 3. ทีม Try Again Film สมาชิกในทีม ยุทธการ ศรีเขียวพงษ์, อัครเดช สมศรี, ภัทรมน สุคนธทรัพย์, ธนภัทร บุญธรรม, ธรรมสรณ์ วงศ์สิงห์

กองทุนสื่อเปิดตัวละคร “นักสืบสายรุ้ง Season2” (Finding Joy) สื่อสร้างสรรค์เพื่อก้าวข้ามความเหลื่อมล้ำในสังคม

 

“นักสืบสายรุ้ง Season 2” (Finding Joy) เดินทางถึงโค้งสุดท้ายในการถ่ายทำ ชูแนวคิดการอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติในพหุวัฒนธรรมและความหลากหลายในสังคม  ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ในฐานะหน่วยงานผู้สนับสนุนโครงการ ได้ร่วมเยี่ยมชมการผลิตละคร และย้ำถึงแนวคิดหลักของละครเรื่องนี้ คือการอยู่ร่วมกันในสังคมที่แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นทางวัฒนธรรม   ชนชั้น คนต่างรุ่น รวมถึงประเด็นการค้ามนุษย์
โดยมีฉากเป็นยุคสมัยหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้นักแสดงมากฝีมือทั้งรุ่นใหญ่รุ่นเล็กร่วมถ่ายทอดเรื่องราว รับประกันความเข้มข้นของโปรดักชั่นจากฝีมือการกำกับของผู้กำกับมืออาชีพคุณนนทรีย์ นิมิบุตร 

(29 ม.ค.2566) ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์  ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมกองถ่าย
“ละครนักสืบสายรุ้ง Season 2 (Finding Joy)”  ผลิตโดย บริษัทแฟลทไฟว์ อินเตอร์ มีเดีย จำกัด บริษัทผู้รับทุนจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ประจำปี 2565 โดย ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อฯ ได้เผยว่าสังคมในวงกว้างจะได้รับทั้งความเพลิดเพลินและประโยชน์จากละครเรื่องนี้ในประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (Post Covid-19) ที่ทำให้ประเด็นความเหลื่อมล้ำต่างๆ ในสังคมเกิดขึ้นอย่างชัดเจน

ในขณะเดียวกันละครนักสืบสายรุ้ง Season 2 ยังคงความสนุกสนานและครบรส เป็นสื่อปลอดภัยที่สามารถดูได้ทุกเพศทุกวัย ตัวเนื้อหาของละคร ได้ตอบโจทย์การอยู่ร่วมกันในความแตกต่างในหลายมิติ ทั้งเรื่องของวัฒนธรรมที่หลากหลายในชุมชน การกลั่นแกล้งในรั้วโรงเรียน (Bully) และการทำความเข้าใจเรื่องมาตรฐานด้านความงาม(Beauty standard) ในช่วงวัยรุ่นตอนต้น นอกจากนี้ยังมีประเด็นเกี่ยวกับเส้นแบ่งความยากจนที่ทำให้เกิดชนชั้นในสังคม  รวมถึงช่องว่างระหว่างวัยที่ก่อให้เกิดความไม่เข้าใจกัน เนื้อหาหลักของละครได้นำเสนอปมขัดแย้งเพื่อคลี่คลายไปสู่การแก้ปัญหาเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข

สำหรับงานโปรดักชั่นของละครนักสืบสายรุ้ง Season 2 รับประกันคุณภาพโดยผู้กำกับมากฝีมือ
คุณนนทรีย์ นิมิบุตร ที่กำกับการแสดงมาตั้งแต่นักสืบสายรุ้ง
Season 1  โดยความพิเศษของนักสืบสายรุ้ง Season 2 คือเนื้อหาที่เข้มข้นมากขึ้น มีทีมนักแสดงทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นเล็กอย่างคับคั่ง
เช่น ขวัญฤดี กลมกล่อม
, นรินทร ณ บางช้าง, พศิน เรืองวุฒิ รวมทั้งนักแสดงจาก Season 1
ยังคงร่วมฝากฝีมืออย่างครบทีม ทั้ง ตี๋-ดอกสะเดา (บุญทอง หาญจางสิทธิ์) อีกทั้งยังมี
นักแสดงรับเชิญ รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ซึ่งยังเป็นที่ปรึกษาให้กับโครงการฯ ละครเรื่องนี้อีกด้วย
และขาดไม่ได้เลยสำหรับทีมนักแสดงรุ่นเด็ก   “แก๊งนักสืบสายรุ้ง” 
ทั้ง 5 คน    
ด.ญ.แก้วกล้า พิพัฒน์โรจนกมล
, ด.ญ.ศิรินทร์ชญา บุญสุวรรณ, ด.ญ. ธมกร เมอไกวร์,
ด.ช. พงศ์พิสิฏฐ์เพ็ชรโยธิน และ ด.ช. วิกร ธนากรอัครกุล
ร่วมด้วยนักแสดงหน้าใหม่อีกมากมาย

ละครนักสืบสายรุ้ง Season 2(Finding Joy) จึงเป็นละครที่ตอบโจทย์ของสังคมในช่วงเวลานี้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นการอยู่ร่วมกันในพหุวัฒนธรรมและความหลากหลายในสังคม ย้ำในเรื่องความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของการอยู่ร่วมกันในสังคม โดยมีกำหนดการออกอากาศราวเดือนเมษายน 2566 ซึ่งทีมงานจะประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางหลักของโครงการ ติดตามได้ที่ Facebook Fan page และ ช่อง YouTube นักสืบสายรุ้ง – Rainbow kids series

กองทุนจัดอบรมบุคลากรเพื่อเตรียมความพร้อมในการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส (ITA)

 23 มกราคม 2566 กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
จัดอบรมบุคลากรเพื่อเตรียมความพร้อมในการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส (ITA)
โดยได้รับเกียรติจากคุณชนิดา อาคมวัฒนะ จากสำนักงาน ปปช.มาเป็นวิทยากร
ทั้งนี้ สำนักงานกองทุนมุ่งหวังให้การปฏิบัติงานตามมาตรฐาน ITA เป็นวัฒนธรรมองค์กรของกองทุน
ที่บุคลากรทุกฝ่ายพร้อมใจกันปฏิบัติด้วยความเต็มใจ ทำแล้วมีความสุข เกิดความยั่งยืน

กองทุนสื่อ จัดประกวดคลิป “สร้างสรรค์ไทย ปี2” ในหัวข้อ “เยาวชนสร้างสรรค์สื่อ สื่อสร้างสรรค์วัฒนธรรม” ชิงเงินรางวัลรวม 2 แสนบาท

กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดโครงการ สร้างสรรค์ไทย ปี 2

ในหัวข้อ “เยาวชนสร้างสรรค์สื่อ สื่อสร้างสรรค์วัฒนธรรม” เพื่อให้เยาวชนในฐานะขุมปัญญาและการสร้างสื่อทางวัฒนธรรมท้องถิ่น มีส่วนร่วมค่านิยมและจิตสำนึกให้คนในสังคมเห็นคุณค่าภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมหรือมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้
ชิงเงินรางวัล 2 แสนบาท

นางยุพา  ทวีวัฒนะกิจบวร  ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ประธานอนุบริหารกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในการนำอำนาจละมุน (Soft Power) มาใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และยุทธศาสตร์ของกระทรวงวัฒนธรรมด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากด้วยมิติวัฒนธรรม และพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมวัฒนธรรมให้สามารถแข่งขันในตลาดโลก กระทรวงวัฒนธรรมและกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จึงร่วมกันจัดโครงการสร้างสรรค์ไทย ปี 2 (Creative Thai)  เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการนำต้นทุนทางวัฒนธรรมแต่ละพื้นที่มาช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากชุมชนผ่านสื่อดิจิทัล รวมทั้งเป็นการใช้สื่อเพื่อปรับค่านิยม จิตสำนึกให้แก่คนในสังคมได้ตระหนักถึงความสำคัญของวัฒนธรรมและภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะเป็นเสียงสะท้อนทางความคิดของเด็กและเยาวชนทั่วประเทศที่จะบอกเล่าเรื่องราวทางวัฒนธรรมท้องถิ่นของตนในรูปแบบสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ ซึ่งจะเป็นการเผยแพร่อัตลักษณ์ของวิถีชีวิตในชุมชน ประเพณีและวัฒนธรรมในท้องถิ่น และสร้างความตระหนักรู้ในการปกป้องรักษามรดกทางวัฒนธรรมของคนในชุมชนและสังคมอีกด้วย

ด้าน ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เผยว่า กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์มีบทบาทหน้าที่ในการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตการเผยแพร่สื่อปลอดภัยอย่างสร้างสรรค์ ที่ต้องการเสริมสร้างบุคลากรเด็กและเยาวชนให้สามารถพัฒนาศักยภาพตลอดช่วงชีวิต ปลูกฝังค่านิยมและวัฒนธรรมที่ดี อีกทั้งได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของบุคลากรเด็ก เยาวชน ในฐานะเป็นขุมกำลังทางปัญญา และการสร้างสรรค์สื่อทางวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมสร้างค่านิยม จิตสำนึกให้คนในสังคมได้เห็นถึงความสำคัญของวัฒนธรรม จึงจัดกิจกรรมการประกวดสื่อสร้างสรรค์ของเด็กและเยาวชนในหัวข้อ “เยาวชนสร้างสรรค์สื่อ สื่อสร้างสรรค์วัฒนธรรม” ภายใต้โครงการ สร้างสรรค์ไทย (Creative Thai) ปี2 ซึ่งเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาที่ได้รับการตอบรับจากเยาวชนร่วมส่งผลงานเข้าประกวดเป็นจำนวนมาก มีการสร้างสรรค์สื่อที่ช่วยปลูกฝังค่านิยมและวัฒนธรรมที่ดีให้กับสังคม รวมถึงสร้างการตระหนักถึงความสำคัญของมรดกทางวัฒนธรรมที่กระจายตัวอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย เกิดเป็นการหวงแหนและอนุรักษ์ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมให้ยั่งยืนอยู่คู่ประเทศชาติ

การจัดโครงการสร้างสรรค์ไทย ปี2 นี้ เป็นการเปิดโอกาสให้เด็ก และเยาวชน จากทุกภูมิภาคทั่วไทย นำของดีในชุมชน สิ่งล้ำค่าทางวัฒนธรรมท้องถิ่น นำเสนอสู่สายตาคนในภูมิภาคอื่นๆ ผ่านการเล่าเรื่องในรูปแบบคลิปวิดีโอ ซึ่งสิ่งที่จะได้กลับมานั้นนอกจากการนำเสนอวัฒนธรรมท้องถิ่น ของดีชุมชนสู่สายตาคนในวงกว้างแล้ว เยาวชนเองจะได้มีโอกาสซึมซับและตระหนักในคุณค่าของวัฒนธรรมอันดีงามของคนในชุมชน สร้างค่านิยมและจิตสำนึกให้สังคมเห็นความสำคัญของวัฒนธรรมที่ดี ดร.ธนกร กล่าว

โครงการสร้างสรรค์ไทย ปี 2 เปิดโอกาสให้เยาวชน อายุไม่เกิน 25 ปี ไม่จำกัดเพศ การศึกษา อาชีพ ภูมิลำเนาและสัญชาติ ส่งผลงานเป็นคลิปวิดีโอเข้าประกวด ความยาวไม่เกิน 5 นาที โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ถึง 10 มกราคม พ.ศ. 2566 สามารถส่งผลงานได้ตั้งแต่วันที่ 1 – 31 มกราคม พ.ศ. 2566 โดยสามารถส่งได้ทั้งประเภทบุคคล และประเภททีม สำหรับเยาวชนที่สนใจส่งผลงานเข้าร่วมประกวด ทางกองทุนฯ จะมีการจัดอบรมหลักสูตรออนไลน์ เพื่อให้ความรู้ ประสบการณ์ และแนะนำเทคนิคในการผลิตผลงานเข้าร่วมประกวด โดยวิทยากรระดับประเทศ อาทิ รศ.ดร.สมิทธิ์ บุญชุติมา, ดร.พิชชากานต์ ช่วงชัย, ดร.สรรัตน์ จิรบวรวิสุทธิ์, คุณโกญจนาท โขมศิริ และ อาจารย์ประสงค์ กรรโมทาร ในช่วงเดือนมกราคม พ.ศ. 2566 และประกาศผลผู้ชนะรางวัลในช่วงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2566

 

สำหรับคลิปผลงานที่ส่งเข้าประกวดนั้น มีหลักเกณฑ์ที่กรรมการจะพิจารณาหลัก ๆ คือ สามารถสื่อถึงมิติทางวัฒนธรรมได้อย่างสร้างสรรค์ ตรงกับหัวข้อ “เยาวชนสร้างสรรค์สื่อ สื่อสร้างสรรค์วัฒนธรรม” นำเสนอถึงอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมไทยที่สวยงามลงตัวและมีความคิดสร้างสรรค์ ในการนำเสนอมุมมอง โดย ผู้ส่งผลงานเข้าประกวด สามารถใช้อุปกรณ์และเทคนิคสร้างสรรค์ผลงานได้ตามถนัด

ความยาวของผลงานที่ส่งประกวด ต้องมีความยาว ไม่ต่ำกว่า 3 นาที แต่ไม่เกิน 5 นาที
คลิปผลงานต้องมีขนาด 16:9 เเนวนอน ขนาด 1920 x 1080 พิกเซล
เพื่อความเหมาะสมในการลงช่องทาง Youtube ทั้งนี้มีข้อห้ามต่อการนำเสนอผลงานประกวด
คือ เนื้อหาต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย ความเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของวัฒนธรรมไทย ภาพ เสียง เอฟเฟค ที่นำมาผลิตผลงาน ต้องไม่เป็นเนื้อหาที่ละเมิดลิขสิทธิ์  หากกรรมการมีการตรวจพบในภายหลังว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกตัดสิทธิ์จากการประกวดทันที

สำหรับรางวัลในการประกวด ผู้ผ่านการคัดเลือก แบ่งเป็น 7 รางวัล  ประกอบด้วย

รางวัลชนะเลิศ 1 รางวัล ๆ ละ 50,000 บาท

รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง มี 1 รางวัลๆ ละ 40,000 บาท

รองชนะเลิศอันดับสอง มี 2 รางวัลๆ ละ 30,000 บาท

และยังมีรางวัลชมเชย อีก 2 รางวัลๆ ละ 10,000 บาท

รางวัลขวัญใจมหาชน ( Popular Vote) อีก 1  รางวัลๆ ละ 30,000 บาท

โดยทุกรางวัลจะได้รับโล่รางวัลจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

 

อยากให้ส่งผลงานเข้าประกวดกันมาก ๆ เพราะนอกจากจะได้มีส่วนในการอนุรักษ์ สร้างจิตสำนึกของสังคมต่อการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ที่มีคุณค่ายิ่งกับประเทศแล้ว ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามารถของเยาวชนไทย ต่อการถ่ายทอดผลงานผ่านคลิปวิดีโอ ที่ถือว่าเป็นใบเบิกทางให้เข้าสู่โลกยุคสังคมดิจิทัลที่กว้างขวางมากขึ้นไปอีก เพราะผลงานที่ได้รับการคัดเลือกจะปรากฏสู่สายตาผู้คนทั่วโลก ผ่านช่องทางยูทูป และสื่อออนไลน์ยอดนิยมในปัจจุบัน” ดร.ธนกร สรุป ในตอนท้าย

 

ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ผ่าน LINE ID : @Creativethai ช่องทางนี้เท่านั้น และสามารถติดตามข่าวสารโครงการฯ ผ่านทางเฟซบุ๊กเพจ : กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และเฟซบุ๊กเพจ : สร้างสรรค์ไทย