เลือกหน้า

ฟังฟินชิมเพลิน

รายการที่เกิดจากความมุ่งมั่นตั้งใจของสองพี่น้อง (น้องจี้และพี่จ้า) ที่ต้องการสืบสานวัฒนธรรมไทย และปรารถนาที่จะส่งต่อความงดงามของวัฒนธรรมไทยออกไปให้คนทั้งโลกได้รับรู้ ด้วยความที่คนหนึ่งหลงรักในการทำอาหาร โดยเฉพาะอาหารไทยสูตรโบราณ ส่วนอีกคนหนึ่งหลงรักการอ่านหนังสือแทบทุกประเภท โดยเฉพาะวรรณคดี จึงเกิดเป็นไอเดียในการนำเอาศิลปะทั้งสองแขนงมาร้อยเรียงเข้าด้วยกัน แล้วสื่อสารออกมาในรูปแบบของคลิปรายการที่เล่าถึงเคล็ดลับในการปรุงอาหารตามตำรับโบราณ พร้อมทั้งเชื่อมโยงไปยังเรื่องราวในวรรณคดีไทยบางช่วงบางตอนที่อาหารนั้นทำให้ระลึกถึง หยิบยกมาเล่าสู่กันฟังแบบเป็นกันเอง นอกจากนี้ยังได้นำเนื้อหาทั้งหมดมาจัดทำเป็นหนังสือรวมเล่มแบบสองภาษา เพื่อให้คนทั้งโลกมีโอกาสได้เรียนรู้วัฒนธรรมไทยได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

ผลความสำเร็จของโครงการ
ผลผลิต: คลิปวิดีโอจำนวน 24 ตอน ตอนละ 3-7 นาที โดยเล่าเรื่องอาหารไทยในวรรณคดี 12 ตอน และเมนูอาหารไทย 12 ตอน นอกจากนี้ยังผลิตหนังสือเมนูอาหารไทยในวรรณคดีจากรายการฟังฟินชิมเพลิน จำนวน 1,000 เล่ม พร้อม e-Book
ผลลัพธ์: มียอดการเข้าถึงผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งสิ้น 62,270 การเข้าถึง ผ่านทาง YouTube, Reels, Facebook

ลิงก์ผลงาน : ยูทูบ อาหารไทยในวรรณคดีฟังฟินชิมเพลิน

ประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมไทยและการรู้รักสามัคคีสู่เด็กและเยาวชนผ่านกีฬาประจำ ชาติไทย

สื่อเพื่อรณรงค์และขับเคลื่อนสังคมที่มีเนื้อหาในการประชาสัมพันธ์กีฬาประจำชาติไทย เช่น มวยไทย ตะกร้อ เป็นต้น กีฬาประเภทที่สามารถส่งเสริมความสามัคคีของคนในชาติที่เป็นวัฒนธรรม เช่น หมากรุกไทย เรือพาย วิ่งควาย ฯลฯ โดยใส่แนวคิดเรื่องการรู้รักการสามัคคีลงไป เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาความแตกแยกของคนในชาติและลดความวุ่นวายในสังคมไทยที่สามารถมองเห็นผ่านสื่อปัจจุบัน

ผลความสำ เร็จของโครงการ

ผลผลิต: สารคดีสั้นความยาว 10 – 15 นาที จำ นวน 8 ชิ้น
ผลลัพธ์: มีจำ นวนผู้เข้าชมทุกช่องทาง จำนวน 132,365 คน ผ่านทาง Facebook และ YouTub

ลิงก์ผลงาน : ประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมไทยและการรู้รักสามัคคีสู่เด็กและเยาวชน ผ่านกีฬาประจำ ชาติไทย

เมตะดนตรีไทย ระนาดไทยในเมตะเวิร์ส

สื่อที่เกิดจากการค้นคว้าข้อมูลเพื่อเข้าใจภาพรวมในสามศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ศาสตร์ด้านดนตรี นิเทศศาสตร์ และเทคโนโลยีการสื่อสาร และสร้างแคมเปญการสื่อสารโดยการสร้างสื่อภายใต้บริบทดนตรีไทยในยุคเมตะเวิร์ส และสื่อในรูปแบบวิดีโอที่นำเสนอการปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลกับการเรียนการสอนและการเผยแพร่ดนตรีไทย ซึ่งนักดนตรีไทยสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและเมตะเวิร์สในการนำเสนอดนตรีไทยและนาฏศิลป์ ระนาดเอก ในรูปแบบใหม่ที่ทันสมัยและตื่นตาตื่นใจ โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างกระแสการพูดถึงและการพัฒนาต่อให้ดนตรีไทยได้เป็น Soft Power ในระดับสากลอย่างแท้จริง

ผลความสำเร็จของโครงการ

ผลผลิต: มิวสิกวิดีโอเมตะเวิร์ส ความยาวไม่เกิน 5 นาที จำนวน 2 ชิ้นงาน เผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ (YouTube ช่อง Fino the Ranad) โดยมียอดการเข้าถึง ทั้งสิ้น 142,500 ครั้ง

ผลลัพธ์:
1. ดนตรีไทยและนาฏศิลป์มีศักยภาพในการเป็น Soft Power ในระดับชาติและนานาชาติมากยิ่งขึ้น
2. นักดนตรีไทยมีความรู้ความเข้าใจในด้านเทคโนโลยี และสามารถปรับใช้ได้มากขึ้น
3. ผู้คนโดยทั่วไปมีทัศนคติเชิงบวกเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับด้านดนตรีไทยและนาฏศิลป์

ลิงก์ผลงาน : ยูทูบ เมตะดนตรีไทย ระนาดไทยในเมตะเวิร์ส

สื่อวีดิทัศน์ ฉันจะไปอนุสาวรีย์

สารคดีออนไลน์เกี่ยวกับอนุสาวรีย์ในประเทศไทย เพื่อนำเสนอเรื่องราวของบุคคลสำคัญที่ได้สร้างคุณงามความดีต่อแผ่นดิน เพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสพลังแห่งความดีที่มีต่อประเทศไทย และร่วมระลึกถึงวีรกรรมอันกล้าแกร่ง เพื่อเป็นแบบอย่างและสร้างจิตสำนึกในการรักและหวงแหนประเทศชาติ

ผลความสำ เร็จของโครงการ
ผลผลิต:
1.  สื่อสารคดีออนไลน์เกี่ยวกับอนุสาวรีย์ในประเทศไทย ความยาว 5 นาที จำ นวน 52 ตอน เผยแพร่ผ่าน
YouTube และ Facebook : I will go to the monument มียอดการรับชมทั้งสิ้น 245,403 คน โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป
2. มีสื่อประชาสัมพันธ์รายการฉันจะไปอนุสาวรีย์ จำ นวน 371 ชิ้น
ผลลัพธ์:
1. สารคดีออนไลน์ที่ผลิตขึ้นถูกกล่าวถึงในสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เห็นได้จากมีการกดติดตาม และยอดรับชม เพิ่มมากขึ้น นับตั้งแต่เริ่มเผยแพร่ทั้งทาง YouTube Channel และ Facebook รวมทั้งมีประชาชนให้ความสนใจอนุสาวรีย์ต่าง ๆ จากการแสดงความคิดเห็นของผู้รับชมรายการ ได้รับข้อมูลเรื่องราวที่ไม่เคยทราบมาก่อนจึงสร้างความประทับใจ ความเคารพ และสักการะ อีกทั้งมีความเข้าใจในอนุสาวรีย์ต่าง ๆ มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
2. ผู้รับชมสารคดีออนไลน์เกิดจิตสำ นึกในการรักสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เกิดความรู้สึกหวงแหนในรากเหง้าวัฒนธรรมและการดำ รงชีวิต และเกิดการเผยแพร่คุณูปการที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้เพื่อคนรุ่นหลัง

ลิงก์ผลงาน : ฉันจะไปอนุสาวรีย์

สองสำเนียง ผลงานดนตรีคลาสสิกในการผสมผสานเครื่องดนตรีไทยกับวงซิมโฟนีออร์เคสตรา

เสียงประสานร้อยเรียงดนตรีไทยกับเพลงคลาสสิกที่เป็นที่นิยมและยอมรับไปทั่วโลก และทำการบันทึกเสียงและภาพเพื่อเผยแพร่ในรูปแบบมิวสิกวิดีโอ จำนวน 5 เพลง เพื่อเป็นการส่งเสริมและต่อยอดวัฒนธรรมไทยผสมผสานกับวัฒนธรรมของโลก และสร้างสรรค์ผลงานสนับสนุน Soft Power ของชาติในรูปแบบใหม่ ส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับสังคมดนตรีและการศึกษาดนตรีของประเทศ

ผลความสำเร็จของโครงการ
ผลผลิต : 
ยอดการรับชมการเผยแพร่ผลงานทางช่อง YouTube Channel : Thai Symphony Orchestra จำนวน 296,974 ครั้ง และได้มีการเผยแพร่ผ่าน เครือข่ายโรงเรียนของมูลนิธิ 4 ภูมิภาค โดยมีผู้เข้าร่วม จำนวน 4,018 คน 
ผลลัพธ์ :
1. เกิดกลุ่มนักดนตรีกลุ่มใหม่ หรือรวมตัวแบบใหม่ขึ้นมาโดยใช้โน้ตเพลงฉบับสมบูรณ์
2. เกิดแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มนักดนตรีในการนำ ศิลปะมาผสมผสานและประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดผลงานของคนไทยชิ้นใหม่
3. เพื่อเป็นการส่งเสริมและต่อยอดวัฒนธรรมไทยผสมผสานกับวัฒนธรรมสากล เป็นการสร้างสรรค์ผลงานสนับสนุน Soft Power ของชาติในรูปแบบใหม่ สร้างนวัตกรรมเพื่อเป็นแบบอย่างแบบแผน ส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับสังคมดนตรีและการศึกษาดนตรีของประเทศ

ลิงก์ผลงาน : ยูทูบ สองสำ เนียง ผลงานดนตรีคลาสสิกในการผสมผสาน เครื่องดนตรีไทยกับวงซิมโฟนีออร์เคสตรา

นักสืบสายรุ้ง ภาค 2 (Finding Joy)

ละคร “นักสืบสายรุ้ง ภาค 2” ผลิตละคร 10 ตอน ความยาวตอนละ 10 นาที โดยมีแนวคิดหลักเกี่ยวข้องกับพหุวัฒนธรรมและความหลากหลายทางสังคม มุ่งเน้นให้เด็กและเยาวชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักเรียนรู้ที่จะเข้าใจ และอยู่ร่วมกับความแตกต่างหลากหลายในสังคมในทุกมิติ โดยยึดเอาแนวคิดตามหลักการของสิทธิมนุษยชนในการปฏิบัติต่อเพื่อนร่วมสังคม มีแนวทางการนำเสนอที่สนุกสนานแต่แฝงไว้ด้วยสาระที่ร่วมสมัย ตลอดจนมีแนวทางในการแก้ปัญหาในประเด็นหลักที่ปรากฏในแต่ละตอน รวมทั้งมีทั้งกิจกรรมต่าง ๆ ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย โดยให้ผู้ติดตาม Facebook Fanpage และ YouTube Channel นักสืบสายรุ้ง – Rainbow Kids Series ทำกิจกรรมร่วมสนุกเพื่อสร้างเสริมความรู้ความเข้าใจในเรื่องพหุวัฒนธรรมและความหลากหลายทางสังคม มีการถ่ายทอดสด (Live) จากผู้เชี่ยวชาญหรือ Influencer ที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดหลักของละคร โดยกิจกรรมเหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการปลูกฝังให้เด็ก ครอบครัว และสาธารณชนเข้าใจในการอยู่ร่วมกัน

ผลความสำเร็จของโครงการ
ผลผลิต
:
1. เผยแพร่ละครนักสืบสายรุ้ง ภาค 2 จำนวน 10 คลิป โดยเผยแพร่ทางโทรทัศน์ 5 ครั้ง ครั้งละ 2 ตอน
2. เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียผ่านทาง Facebookและ YouTube มียอดการเข้าถึงทั้งสิ้น 300,973 ครั้ง โดยแบ่งเป็นยอดการเข้าถึงจาก Facebook 106,030 ครั้ง และ YouTube 198,943 ครั้ง
3. เครือข่ายโรงเรียนที่ร่วมทำ กิจกรรมกับโครงการ 7 แห่ง
4. ประชาสัมพันธ์ข่าวสารเกี่ยวกับละครนักสืบสายรุ้ง ภาค 2 จำนวน 10 องค์กร

ผลลัพธ์:
1. มีการรับรู้และตระหนักถึงความสำ คัญของการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมที่มีความแตกต่างหลากหลาย
2. ครูที่เข้าร่วมโครงการฯ มีความรู้เกี่ยวกับพหุวัฒนธรรมและความหลากหลายในสังคม
3. นักเรียนของโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการได้เรียนรู้และเข้าใจแนวคิดพหุวัฒนธรรมและความหลากหลายในสังคม

ลิงก์ผลงาน ยูทูบ นักสืบสายรุ้ง ซีซั่น 2