คุณภาพสูงในวันที่สูงวัย

ประเทศไทย เป็นประเทศที่เข้าสู่การเป็น “สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์” ไปอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อปี 2565 กล่าวคือมีผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) มากถึง 20% ของจำนวนประชากรในประเทศ และประชากรไทยเองก็มีแนวโน้มที่จะมีการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้สูงอายุในระดับสุดยอดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เมื่อพูดถึงผู้สูงอายุในสังคมไทยนั้น จะพบว่ายังมีประเด็นอีกมากที่จะต้องมีการตระเตรียมกลไก การสร้างความรู้ความเข้าใจต่าง ๆ ให้กับคนในสังคม ชุมชน ครอบครัว หรือกระทั่งตัวผู้สูงอายุเอง เพื่อที่จะทำให้สังคมผู้สูงอายุและตัวผู้สูงอายุได้สามารถอยู่อย่างมีพลังทั้งกายและใจและยังเป็นประโยชน์ต่อสังคมได้อีกในระยะยาว ในระดับครอบครัวและตัวผู้สูงอายุเองนั้น มีการค้นพบว่ายังขาดความรู้ความเข้าใจต่อกันและกันในครอบครัวอยู่ไม่น้อย ไม่สามารถปรับตัวอยู่ร่วมกันได้ มีความขัดแย้ง หรือในตัวผู้สูงอายุเองก็มีการพบว่ายังขาดความรู้ความเข้าใจที่สำคัญ ในการที่จะใช้ความรู้ความเข้าใจนั้นนำมาดูแลตัวเองให้อยู่ได้ดีมีคุณภาพและคุณค่าทั้งกายทั้งใจที่เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว ชุมชน และสังคม

ด้วยปัญหาในระดับปัจเจกบุคคลและเพิ่มสัดส่วนมากขึ้น ด้วยปัญหาในระดับครอบครัวของผู้สูงอายุที่เพิ่มสัดส่วนมากขึ้นเช่นเดียวกัน และปัญหาทั้งสองระดับนั้นมักจะเกิดจากความไม่รู้ ที่เกิดจากความไม่มีข้อมูล ไม่มีทัศนคติที่ถูกต้อง “คุณพอใจ พูนนารถ” ซึ่งมีคลุกคลีกับประเด็นผู้สูงอายุมาหลายปี มีประสบการณ์ของการเป็นนักสื่อสารมวลชนมาอย่างยาวนาน และเมื่อคิดว่ามีช่องว่างบางอย่างเกี่ยวกับการสร้างความรู้ความเข้าใจเพื่อการสร้างสรรค์ให้เกิดสังคมผู้สูงอายุที่มีคุณภาพได้นั้น คุณพอใจจึงได้ดำเนินการ “โครงการ แจ่มใจสูงวัยว้าว ๆ” โดยการสนับสนุนของ “กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์” และได้ทำการสื่อสารผ่านละครทั้ง 18 ตอน ความยาวตอนละประมาณ 20 นาที ซึ่งนักแสดงในละครนั้น คุณพอใจเล่าว่า เป็นคนต่างในช่วงวัยนั้น ๆ จริง ๆ เช่น คุณแม่ที่สูงอายุ ลูกสาวที่อยู่ในช่วงวัย 40 ซึ่งเป็นตัวละครที่แสดงถึง ช่องว่างระหว่างวัย และ ความไม่เข้าใจต่อผู้สูงอายุ และแสดงไปถึงการเตรียมสู่ความเป็นผู้สูงอายุอีกด้วย
.
คุณพอใจเล่าว่า ละครเรื่องแจ่มใจสูงวัยว้าว ๆ เริ่มต้นจากแนวคิดที่อยากให้ความรู้ความเข้าใจกับผู้สูงอายุ และผู้สูงอายุนั้นจะได้ใช้ความรู้ความเข้าใจนั้นพัฒนาตนเองจนเป็นผู้สูงอายุที่มีพลังกาย พลังใจ มีประโยชน์กับสังคม มีความมั่นคงพึ่งพาตัวเองได้ หรือในศัพท์ภาษาอังกฤษที่เรียกว่า “Active Aging” ซึ่งละครทั้ง 18 ตอนนั้น คุณพอใจบอกว่า ทุกตอนคละเคล้าไปด้วยเรื่องราว 3 ส่วนหลัก ๆ นั้นคือส่วนที่ต้องรู้ ควรรู้ และอยากให้รู้ ในละครหลายตอนมีการพูดถึงเรื่องของโรคเรื่องของสุขภาพที่จะต้องหมั่นสังเกต ดูแลรักษาอย่างไรเมื่อเป็นโรคนั้น ๆ แล้ว ในบางตอนก็พูดถึงเรื่องการเอาใจเขามาใส่ใจเราการปรับตัวอยู่ร่วมกันในครอบครัว ในบางตอนก็พูดไปถึงการปรับตัวในโลกเทคโนโลยี ปรับตัวอย่างไรให้เป็นประโยชน์กับผู้สูงวัย ปรับตัวเรียนรู้อย่างไรไม่ให้เทคโนโลยีนั้นกลับมาเป็นโทษเป็นปัญหาให้กับชีวิตของผู้สูงวัย และเพื่อสร้างให้เกิดสังคมการเรียนรู้ตลอดชีวิต

และที่สำคัญอย่างมากอีกสองเรื่องที่ละครได้นำเสนอเพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้สูงอายุที่ได้ดู เช่น เรื่องการจัดการการเงิน อย่างการออมและการจัดการตัวเองในวัยเกษียณ ความรู้ทางกฎหมายต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับผู้สูงอายุ อย่างเช่น การจัดการมรดกและพินัยกรรม ในละครยังพยายามบอกอยู่ตลอดทุกตอนว่า การที่ผู้สูงอายุจะมีสุขภาพที่ดีทั้งกายใจ มีความเป็นผู้สูงอายุที่แอคทีฟ มีคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และตัวเอง สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้จาก ความร่วมมือของ ครอบครัว ชุมชน สังคม และส่วนสุดท้าย นั้นคือตัวผู้สูงอายุเอง
รับชมรายการย้อนหลัง ได้ที่เพจ แจ่มใจสูงวัยว้าวๆ
ความเห็นล่าสุด