เลือกหน้า

สำรวจความสนใจโลกออนไลน์ ครึ่งแรกของปี 66 การเมือง-การเลือกตั้งนำลิ่ว ตามด้วยประเด็นบันเทิง

สำรวจความสนใจโลกออนไลน์ ครึ่งแรกของปี 66 การเมือง-การเลือกตั้งนำลิ่ว ตามด้วยประเด็นบันเทิง

Media Alert กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับ Wisesight สำรวจการสื่อสารทางออนไลน์ของสังคมไทยช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 โดยใช้เครื่องมือ ZocialEye สำรวจจาก 4 แพลตฟอร์มออนไลน์ คือ Facebook, Twitter, Instagram และ YouTube เพื่อสรุป 10 ประเด็นที่พูดถึงมากที่สุดในแต่ละเดือน

สำหรับในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 ประเด็นที่ได้รับ Engagement สูงสุด 10 อันดับแรกเป็นประเด็นที่เกี่ยวกับการเมืองโดยเฉพาะการเลือกตั้งและการปราศรัยของพรรคการเมืองต่าง ๆ รองลงมาเป็นประเด็นเกี่ยวกับสื่อบันเทิง เช่น กิจกรรม Outing ของดารานักแสดงบริษัท GMMTV ภายใต้ #GmmtvOuting2023, ละครเรื่องมาตาลดาที่มีเนื้อหาของกลุ่ม LGBTQ, กระแสป๊อปคัลเจอร์ของเพลงธาตุทองซาวด์ของยังโอมที่ทำให้การแต่งกายในยุค Y2K หรือการนำภาพในช่วง Y2K กลับมานิยมอีกครั้ง, การประกวด Miss Grand Thailand รอบสุดท้าย รวมไปถึงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่ประเทศกัมพูชาทั้งในประเด็นดราม่าการจัดงาน การใช้นักกีฬาโอนสัญชาติ และการส่งแรงใจไปเชียร์นักกีฬาทีมชาติในการแข่งขันครั้งนี้

 

ประเด็นที่ได้รับความสนใจมากที่สุด 10 อันดับในสื่อสังคมออนไลน์ช่วงเดือนมกราคมถึงมิถุนายน 2566

อันดับที่ 1 ความเห็นต่อการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคก้าวไกล

ส่วนใหญ่มาจากโพสต์การปราศรัยตามจังหวัดต่าง ๆ และการโพสต์ภาพพิธา ลิ้มเจริญรัตน์บนเวทีหาเสียงที่ติด Hashtag พรรคก้าวไกล นอกจากนั้นเป็นการโพสต์หาเสียงของผู้สมัครอื่น เช่น รักชนก ศรีนอก, ชัยธวัฒน์ ตุลาธน, วาโย อัศวรุ่งเรือง เป็นต้น โดยผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์แสดงออกในเชิงชื่นชอบการหาเสียงและนโยบายที่เน้นแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง

อันดับที่ 2 การจัดดีเบตและเชิญชวนให้ไปเลือกตั้ง

เป็นการกล่าวถึงการจัดดีเบตในที่ต่าง ๆ แล้วติด Hashtag ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง เช่น การโพสต์ของผู้สมัครรับเลือกตั้งเชิญชวนออกไปเลือกตั้ง การโพสต์ของประชาชนที่ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม

อันดับที่ 3 พรรคก้าวไกลประกาศจัดตั้งรัฐบาล

หลังจากที่พรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียงเป็นอันดับหนึ่งจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและประกาศจัดตั้งรัฐบาลที่มีพิธา ลิ้มเจริญรัตน์เป็นนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้ประเด็นดังกล่าวถูกพูดถึงมากทั้งจากสื่อต่าง ๆ และผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ทั่วไป โดยประเด็นที่พูดถึงมากที่สุดมาจากข่าวการประกาศจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล

อันดับที่ 4 ตำหนิ กกต. จัดการเลือกตั้งที่ไม่โปร่งใส

ผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ตำหนิการจัดการเลือกตั้งของ กกต. โดยเป็นการกล่าวถึงการทำงานที่ไม่โปร่งใสของ กกต. ในบางเขต การแอบอ้างนำบัตรประชาชนของชาวบ้านไปลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าที่จังหวัดอำนาจเจริญ การประกาศไม่นับคะแนนจากบัตรนอกราชอาณาจักรในจังหวัดฉะเชิงเทรา ทำให้เกิดกระแสการลงชื่อเพื่อถอดถอน กกต. ในสื่อสังคมออนไลน์

อันดับที่ 5 ความเห็นต่อนโยบายของพรรคเพื่อไทย

ส่วนใหญ่เป็นการกล่าวถึงนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท และการปราศรัยใหญ่ของพรรคเพื่อไทยที่เปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและการกล่าวถึงการร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล

อันดับที่ 6 กิจกรรม #GmmtvOuting2023

Hashtag ดังกล่าวมาจากกิจกรรม Outing ในช่วงเดือนมีนาคมของดารานักแสดงในสังกัดบริษัท GMMTV ที่ส่งผลให้กลุ่มแฟนคลับดารานักแสดงเข้ามามีปฏิสัมพันธ์เป็นจำนวนมากจากการแชร์คลิปหรือภาพดาราที่ชื่นชอบ

 อันดับที่ 7 ดราม่าในการแข่งขันซีเกมส์ที่กัมพูชา

ส่วนใหญ่มาจากการสรุปเหรียญรางวัล การกล่าวถึงเจ้าภาพกัมพูชาที่จ้างนักกีฬาโอนสัญชาติมาแข่งกีฬา เพื่อให้ได้เหรียญทองมากที่สุดและประเด็นดราม่าอื่น ๆ เช่น การตะลุมบอนกันระหว่างนักฟุตบอลทีมชาติไทยกับทีมชาติอินโดนีเซีย ความไม่พร้อมของหมู่บ้านนักกีฬา

อันดับที่ 8 มาตาลดา ละครน้ำดีในช่วง Pride Month

ละครเรื่องมาตาลดาถูกกล่าวถึงอย่างมากในช่วงเดือนมิถุนายนที่เป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลองกลุ่ม LQBTQ ทำให้ละครซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับประเด็นเดียวกันนี้ถูกพูดถึงไปด้วย โดยกระแสส่วนใหญ่จะเป็นการตัดคลิปสั้น ๆ ที่เป็น Highlight ของละครมาโพสต์ในช่องทางต่าง ๆ

อันดับที่ 9 เพลงธาตุทองซาวด์กับแฟชั่นยุค Y2K

เพลงธาตุทองซาวด์ที่ถูกโพสต์ในช่วงเดือนเมษายน ส่งผลให้ได้รับความนิยมเป็นจำนวนมากและยังสร้างกระแส Y2K ต่อเนื่อง มีการโพสต์ภาพของตนเองในอดีตหรือภาพการแต่งกายในแฟชั่น Y2K เป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นเพลงนี้ยังโด่งดังไกลไปต่างประเทศอย่างประเทศเกาหลีใต้ที่นำเพลงดังกล่าวไปเปิดในผับ

อันดับที่ 10 การประกวด Miss Grand Thailand รอบสุดท้าย

การประกวดรอบสุดท้ายของ Miss Grand Thailand ส่งผลให้ผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ที่เป็นแฟนคลับการประกวดนางงามเข้ามามีปฏิสัมพันธ์จำนวนมาก รวมไปถึงดราม่าของผู้ประกวดบางคนอย่างเฌอเอม ชญาธนุส ศรทัตต์ ที่ปฏิเสธกิจกรรมการดูดวงบนเวทีต่อหน้าคุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล ผู้จัดการประกวด เป็นต้น

สัดส่วนหมวดหมู่ประเด็นที่ได้รับความสนใจในช่วงครึ่งปีแรก

เมื่อนำ 10 ประเด็นที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในแต่ละเดือน รวม 60 ประเด็นมาจัดหมวดหมู่ โดยวิธีการอ้างอิงจากเนื้อหาสำคัญ (Content Based) ของประเด็นนั้น ๆ ตามด้วยการตรวจสอบสามเส้าด้านผู้วิเคราะห์ข้อมูล ได้เป็น 23 หมวดหมู่ พบหมวดหมู่ที่ได้รับความสนใจสูงสุด 3 อันดับแรก คือ

หมวดหมู่ เรื่องเกี่ยวข้องกับรัฐ (Politics) คือ เนื้อหาสำคัญเกี่ยวกับสถานภาพความเป็นรัฐ เรื่องเกี่ยวกับรัฐ สัญลักษณ์ของรัฐ นโยบายสาธารณะ นิติบัญญัติ กฎหมาย การเลือกตั้ง การหาเสียงเลือกตั้ง ประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง สงคราม ความสัมพันธ์ภายในประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงการรณรงค์ต่าง ๆ อันเกี่ยวกับรัฐ และความเคลื่อนไหวทาง

การเมือง เช่น การวิพากษ์วิจารณ์ ข้อพิพาททางการเมือง การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ การชุมนุมทางการเมือง ซึ่งในบริบทของการศึกษาในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา พบว่าส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งปี 2566

หมวดหมู่ สื่อ สิ่งบันเทิง (Media & Entertainment) คือ เนื้อหาสำคัญเกี่ยวกับสื่อและสิ่งบันเทิง

หมวดหมู่ กีฬา (Sport) คือ เนื้อหาสำคัญเกี่ยวกับกีฬา การแข่งขันกีฬา และทิศทางความสนใจในกีฬาชนิดต่าง ๆ

ทั้งนี้ หมวดหมู่เรื่องเกี่ยวข้องกับรัฐ (Politics) ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดเป็นประเด็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่มีมากถึง 66% โดยส่วนใหญ่มาจากพรรคการเมือง การปราศรัยของพรรคต่าง ๆ หมวดหมู่สื่อสิ่งบันเทิง (Media & Entertainment) มาจากกิจกรรม #GmmtvOuting2023 กระแสความนิยมของละครมาตาลดา และการประกวด Miss Grand Thailand รอบสุดท้าย, หมวดหมู่ กีฬา (Sport) ส่วนใหญ่มาจากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่ประเทศกัมพูชาที่มีประเด็นดราม่าจากการที่เจ้าภาพใช้นักกีฬาโอนสัญชาติในการแข่งขัน ความไม่พร้อมของสถานที่พักและกรรมการในการตัดสิน หมวดหมู่การขับเคลื่อนทางสังคม (Social Movement) เป็นการที่ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่ยกให้ละครมาตาลดาเป็นละครน้ำดีที่นำเสนอเกี่ยวกับ LGBTQ, ประเด็นส่วยทางหลวงที่พรรคก้าวไกลนำมาเสนอต่อสาธารณะทำให้กลายเป็นกระแสสังคมต่อเนื่องซึ่งในตอนแรกเป็นประเด็นเฉพาะส่วยรถบรรทุก แต่เมื่อได้รับความสนใจมากขึ้นทำให้ขยายไปในการทุจริตอื่น ๆ เช่น ส่วยแท็กซี่ ส่วยล็อตเตอรี่ เป็นต้น ส่วนหมวดหมู่อาชญากรรมและอุบัติเหตุ (Crime & Accidents) เป็นประเด็นเกี่ยวกับการรั่วไหลของ ซีเซียม – 137 ที่จังหวัดปราจีนบุรี

การเปลี่ยนแปลงของ Engagement แต่ละหมวดหมู่ในช่วงเดือนมกราคม – มิถุนายน 2566

นอกจากการจำแนกให้เห็นหมวดหมู่ประเด็นที่ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ให้ความสนใจในภาพรวม 10 อันดับแรก ตลอดช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 แล้ว เมื่อสำรวจความเคลื่อนไหวของ Engagement ในแต่ละกลุ่มประเด็น พบความสนใจในการสื่อสารและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในประเด็นการเมืองเริ่มเพิ่มมากขึ้นในสัดส่วนที่มากกว่าประเด็นอื่น ๆ ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม เป็นต้นมา

จากแผนภาพที่ 3 เห็นได้ว่า ความสนใจในประเด็นเกี่ยวข้องกับภาครัฐ โดยเฉพาะการเลือกตั้งที่ได้รับความสนใจอย่างมากนั้น แบ่งได้เป็น 4 ช่วง ได้แก่

1. ก่อนวันเลือกตั้ง ในช่วงเดือนมกราคมจนถึงวันที่ 20 มีนาคม หรือวันที่ประกาศยุบสภา เห็นได้ว่าช่วงเวลาดังกล่าวประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นประเด็นเกี่ยวกับสื่อบันเทิงต่าง ๆ

2. โค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง ในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงช่วงก่อนวันที่ 14 พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงการหาเสียง การดีเบตตามเวทีต่าง ๆ โดยพรรคก้าวไกลถูกกล่าวถึงอย่างมากเกี่ยวกับนโยบายที่เน้นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคม ส่วนพรรคเพื่อไทยเป็นนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท

3. วันเลือกตั้ง วันที่ 14 พฤษภาคม เป็นการโพสต์ว่าไปเลือกตั้งโดยผู้ใช้งานทั่วไป การโพสต์เชิญชวนให้ไปเลือกตั้งโดยดารา ผู้มีอิทธิพลบนสื่อสังคมออนไลน์ หน่วยงาน ฯลฯ การให้ร่วมสังเกตการณ์การนับคะแนนการเลือกตั้งโดยกลุ่มรณรงค์เคลื่อนไหวการมีส่วนร่วมของประชาชน

4. หลังการเลือกตั้ง ช่วงหลังวันที่ 14 พฤษภาคม การพูดถึงการเลือกตั้งจะลดลง เนื่องจากเป็นช่วงที่รอ กกต. รับรองผลการเลือกตั้ง และเป็นช่วงที่พรรคการเมืองที่มีเสียงข้างมาก ทำการเจรจาทางการเมืองกับพรรคอื่น เพื่อเตรียมจัดตั้งรัฐบาล

หมวดหมู่สื่อ สิ่งบันเทิง ได้รับความสนใจต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน มาจากการจัดกิจกรรม Outing ของบริษัท GMMTV ภายใต้ #GmmtvOuting2023 และในเดือนเมษายนมาจากการประกวด Miss Grand Thailand รอบสุดท้าย แต่กระแสจะตกไปในช่วงเดือนพฤษภาคม

ส่วนหมวดหมู่การขับเคลื่อนทางสังคม ในเดือนมิถุนายน มาจากกระแส Pride Month และละครเรื่องมาตาลดาที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ LGBTQ

กล่าวโดยสรุป ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน 2566 ความสนใจของสื่อสังคมออนไลน์มีความสอดคล้องกับเหตุการณ์บ้านเมือง กล่าวคือ ในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์จะให้ความสนใจในการปราศรัยหาเสียง การเลือกตั้ง และท่าทีของพรรคการเมืองที่ตนเลือกหลังจากประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว แต่หลังการเลือกตั้ง พบว่า กระแสความสนใจในเรื่องการเมืองลดลง เนื่องจากเป็นช่วงรอ กกต. รับรองผลการเลือกตั้ง จึงเป็นที่น่าสนใจว่าในสถานการณ์สำคัญทางการเมือง เช่น ช่วงโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และหลังจากได้นายกรัฐมนตรีแล้ว สื่อสังคมออนไลน์จะมีทิศทางและลักษณะความสนใจในการเมืองอย่างไร จะมีการสื่อสารถกเถียงกันในประเด็นหรือหมวดหมู่ใด อย่างไร ที่สำคัญคือการสื่อสารดังกล่าวจะสร้างแรงกระเพื่อมและสร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคมในด้านใด

Media Alert และ Wisesight จะรายงานผลการสำรวจการสื่อสารของสื่อสังคมออนไลน์ให้ทราบอย่างต่อเนื่อง ต่อไป

กรกฎาคม 66 ประเด็นการเมืองยังเป็นที่สนใจของสื่อสังคมออนไลน์ โดยมี Facebook, TikTok, Twitter เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยม

10 ประเด็นที่ได้รับความสนใจ มีการสื่อสาร และมีส่วนร่วมมากที่สุดในโลกออนไลน์ เดือนกรกฎาคม 2566

อันดับที่ 1 การโหวตนายกฯ และท่าทีของพรรคก้าวไกล

ส่วนใหญ่มาจากช่องทางอย่างเป็นทางการของพรรคก้าวไกลใน TikTok โดยประเด็นที่ได้รับความสนใจจะเป็นแถลงการณ์ให้ความเชื่อมั่นต่อประชาชนในการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 1 ส่วนโพสต์อื่น ๆ จะมีทั้งการทำคลิปให้กำลังใจพรรคก้าวไกลจากประชาชน นักร้อง นักแสดง รวมถึงโพสต์จากสื่อต่าง ๆ ที่มีประชาชนเข้าไปแสดงความคิดเห็นต่อท่าทีของพรรคก้าวไกล

อันดับที่ 2 ความนิยมของละครมาตาลดา

มาจากการตัดคลิปละครสั้น ๆ โดยเฉพาะฉากที่มีนางเอกเต้ย จรินทร์พร โดยเสียงตอบรับของผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ยังคงชื่นชอบละครเรื่องนี้ทั้งในเรื่องความสนุก มีสาระ นอกจากนั้นยังมีการแสดงความคิดเห็นว่าละครเรื่องนี้มีส่วนให้สังคมไทยผ่อนคลายความเครียดจากการดูข่าวการเมือง

อันดับที่ 3 พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

หลังจากการโหวตนายกทั้ง 2 ครั้งไม่สำเร็จ ทำให้พรรคก้าวไกลต้องถอยให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ด้วยท่าทีทางการเมืองที่พรรคเพื่อไทยจะไปรวมกับพรรคฝ่ายอดีตรัฐบาล ทำให้ผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์โพสต์เตือนสติพรรคเพื่อไทย ต่อมาพรรคเพื่อไทยประกาศร่วมกับพรรคอดีตรัฐบาล ส่งผลให้ได้รับคำตำหนิเป็นจำนวนมาก  

อันดับที่ 4 ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.

ในช่วงการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ศาลรัฐธรรมนูญได้สั่งให้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. โดยโพสต์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดเป็นโพสต์จากสำนักข่าวที่เสนอภาพช่วงพิธา ลิ้มเจริญรัตน์เดินออกจากห้องประชุมสภาฯ ส่วนความเห็นของผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ส่วนใหญ่ตำหนิความไม่เป็นธรรมของศาลรัฐธรรมนูญ

อันดับที่ 5 การโหวตครั้งที่ 2 ให้พิธาเป็นนายกฯ

เป็นการกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมรัฐสภามีมติให้การเสนอชื่อพิธา ลิ้มเจริญรัตน์เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งนั้นขัดข้อบังคับการประชุมรัฐสภา รวมทั้งกล่าวถึงการมีองค์กร เช่น สภาทนายความออกแถลงการณ์ให้การเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีซ้ำ สามารถทำได้เนื่องจากไม่มีข้อจำกัดในรัฐธรรมนูญ ทั้งไม่สามารถอ้างข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 ที่ใช้กับการยื่นญัตติทั่วไปมาบังคับใช้

อันดับที่ 6 พรรคก้าวไกลและเพื่อไทยเสนอวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภาฯ

ก่อนหน้าการเสนอชื่อวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภาฯ มีข่าวลือว่าพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับพรรคก้าวไกลที่จะได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ส่งผลให้มีการประชุมของทั้งสองพรรคที่ได้ข้อสรุปว่าจะยกตำแหน่งประธานสภาฯ ให้กับวันมูหะมัดนอร์ มะทา และหลังจากที่พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้ผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ตำหนิพรรคเพื่อไทยอย่างมาก ในทางตรงกันช้ามก็ให้กำลังใจพรรคก้าวไกลที่แม้จะได้คะแนนมาเป็นอันดับหนึ่งแต่กลับไม่ได้ตำแหน่งใดในสภา

อันดับที่ 7 พลายศักดิ์สุรินทร์เดินทางจากศรีลังกากลับไทยเนื่องจากอาการป่วย

พลายศักดิ์สุรินทร์เป็นช้างที่ทางการไทยส่งไปเป็นทูตสันถวไมตรีที่ศรีสังกา ตั้งแต่ปี 2544 ภายหลังพบว่าพลายศักดิ์สุรินทร์มีสุขภาพที่ย่ำแย่เนื่องจากการถูกใช้งานอย่างหนัก ทางภาครัฐนำโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ กระทรวงการต่างประเทศได้ติดต่อรัฐบาลศรีลังการเพื่อให้นำพลายศักดิ์สุรินทร์กลับมารักษาที่ประเทศไทย โดยผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์เห็นไปในทิศทางเดียวกันคือ ขอบคุณทางการไทยที่นำพลายศักดิ์สุรินทร์กลับมารักษาที่ประเทศไทย

อันดับที่ 8 #ธุรกิจสว. และ #เมียน้อยสว. ตอบโต้ สว. ที่ไม่โหวตนายกฯ จากพรรคก้าวไกล

การที่พรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ส่วนหนึ่งมาจาก สว. ไม่ให้การรับรอง ส่งผลทำให้เกิดการตอบโต้จากผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่ไม่พอใจ สว.ด้วยการติดแฮชแท็ก #ธุรกิจสว. เพื่อแบนธุรกิจของ สว.และครอบครัว รวมไปถึงภาคธุรกิจบางส่วนที่ไม่ให้สว. กกต. หรือ บุคคลที่เกี่ยวข้องมาใช้บริการธุรกิจของตน ส่วนการติดแฮชแท็ก #เมียน้อยสว. เป็นการนำภาพเก่าของสว.คนหนึ่งที่ถ่ายภาพคู่กับผู้หญิงที่ไม่ใช้ภรรยาของตนมาประจานบนสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในช่วงเวลาดังกล่าว

อันดับที่ 9 สส. เสรีพิศุทธ์ ให้พรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน

จากเหตุการณ์ที่ สส. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช ร่วมแถลงการณ์กับพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยโดยมีถ้อยคำที่ต้องการผลักให้พรรคก้าวไกลเสียสละไปเป็นฝ่ายค้านที่สื่อนำไปเผยแพร่เป็นข่าว ทำให้ผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ตำหนิ สส. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช เป็นวงกว้าง โดยเฉพาะจากกลุ่มคนที่โหวตเลือกพรรคก้าวไกลและคาดหวังให้ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

อันดับที่ 10 การอภิปรายของ สส. ชาดา ในการโหวตครั้งที่ 1 ให้พิธาเป็นนายกฯ

ข่าวการอภิปรายของ สส. ชาดา ไทยเศรษฐ์ ในวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งแรก โดยมุ่งเน้นที่การไม่สนับสนุนพรรคการเมืองที่มีจุดยืนในการแก้ไข มาตรา 112  รวมทั้งท่าทีและท่วงทำนองการอภิปรายที่ดุดัน ทำให้เกิดเป็นกระแส และสร้างความสนใจในสื่อสังคมออนไลน์ในการสืบหาประวัติของ สส. ชาดา เป็นจำนวนมาก

ด้วยทิศทางการสื่อสารในโลกออนไลน์ของเดือนกรกฎาคม 2566 จาก 5 แพลตฟอร์มที่เป็นหน่วยศึกษา คือ 1) Facebook 2) Twitter 3) Instagram 4) YouTube และ 5) TikTok พบว่า ส่วนใหญ่เป็นประเด็นการเมือง  Media Alert และ Wisesight จึงเห็นพ้องกันในการเลือกศึกษา 3 ประเด็นทางการเมืองที่ได้รับความสนใจและวิพากษ์วิจารณ์บนสื่อสังคมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ในอันดับต้น ๆ จากจำนวน Engagement ตลอดเดือนกรกฎาคม 2566 คือ 1) การโหวตนายกฯ และท่าทีของพรรคก้าวไกล 2) พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และ 3) ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

เห็นได้ว่า Engagement ส่วนใหญ่มาจากสองช่องทางหลัก คือ TikTok 43% และ Facebook 34%  โดยประเด็นที่มี Engagement มากที่สุด 2 อันดับแรกมาจาก TikTok Official Account ของพรรคก้าวไกลโดยได้ Engagement เฉลี่ยโพสต์ละ 1.7 ล้าน Engagement ส่วนอันดับที่ 3 มาจาก Account Themodevan ที่แต่งเพลงให้กำลังใจพรรคก้าวไกล ได้ Engagement ประมาณ 1.2 ล้าน Engagement

ด้านผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ที่ให้ความสนใจเกี่ยวกับประเด็นของพรรคก้าวไกลโดยเฉพาะโพสต์ประกาศจัดตั้งรัฐบาลตามเจตนารมณ์ของประชาชนเพื่อหยุดการสืบทอดอำนาจ โพสต์แถลงการณ์จากพรรคก้าวไกลก่อนวันเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 1 และโพสต์แถลงการณ์ของพรรคก้าวไกลหลังไม่สามารถได้เสียงโหวตพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีจากประเด็นการแก้ไขมาตรา 112 เมื่อแยกตามประเภทผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ พบว่า เป็นบุคคลทั่วไปมากถึง 52 ล้าน Engagement รองลงมาได้แก่ ผู้มีอิทธิพลในสื่อสังคมออนไลน์ 30.3 ล้าน สื่อหรือสำนักข่าว 10.7 ล้าน พรรคการเมือง 6.4 ล้าน และอื่น ๆ ประมาณ 7,000 Engagement ตามลำดับ โดยส่วนใหญ่จะเป็นการให้กำลังใจพรรคก้าวไกล การชื่นชมศิลปินที่แต่งเพลงสนับสนุนพรรคก้าวไกลโดยผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์จำนวนมาก

Engagement ส่วนใหญ่จะมาจากสองช่องทางหลัก คือ Facebook 41% และ TikTok 35% โดยประเด็นที่ถูก Engagement มากที่สุด 3 อันดับแรกมาจาก TikTok Zocialnews ที่โพสต์ข่าวพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในประเด็นหากก้าวไกลตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จจะหลีกทางให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล, จาก Account Facebook Paul Pattarapon พอล ภัทรพล ที่โพสต์เตือนสติพรรคเพื่อไทยไม่ให้ไปรวมกับพรรคอดีตรัฐบาล และ จาก TikTok Pondonnews ที่กล่าวถึงเพลงเสียดสีพรรคเพื่อไทยของแอ๊ด คาราบาว

ด้านความสนใจเกี่ยวกับประเด็นพบว่า มาจากสื่อจำนวน 25 ล้าน Engagement รองลงมาได้แก่ผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ 8.3 ล้าน Engagement  มาจากพรรคการเมืองและนักการเมือง 3.3 ล้าน ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ 3.2 ล้าน และอื่น ๆ เช่น แบรนด์ และภาครัฐประมาณ 3 ล้าน Engagement ตามลำดับ โดยเสียงส่วนใหญ่เรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยเคารพการตัดสินใจของประชาชนและจับมือกับพรรคก้าวไกลไปจนกว่า สว. จะหมดสมาชิกภาพ รวมไปถึงการเหน็บแนมแอ๊ด คาราบาวถึงที่ดินที่เขากระโดงหลังจากที่แอ๊ดแต่งเพลงเสียดสีพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล

Engagement ส่วนใหญ่จะมาจากสองช่องทางหลัก คือ Facebook 38% และ TikTok 27% โดยประเด็นที่มี Engagement มากที่สุด 3 อันดับแรกมาจากช่อง PPTV และจากช่อง ONE31 เป็นข่าวพิธา ลิ้มเจริญรัตน์เดินออกจากรัฐสภาหลังจากศาลรัฐธรรมนูญให้หยุดปฏิบัติหน้าที่, คลิปจากสำนักข่าว BBC ในประเด็นพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ถูกศาลรัฐธรรมนูญให้หยุดปฏิบัติหน้าที่

ด้านความสนใจของผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นนี้พบว่า มาจากสื่อจำนวน 17.3 ล้าน Engagement รองลงมาได้แก่ผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ 15 ล้าน, ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต 9.7 ล้าน Engagement , มาจากพรรคการเมืองและนักการเมือง 303,669 Engagement ตามลำดับ โดยส่วนใหญ่ไปในทิศทางเดียวกัน คือ ตำหนิการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีบางส่วนกล่าวว่าไม่ศรัทธาในคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญและตั้งคำถามถึงที่มาขององค์กรอิสระอื่นอย่าง กกต. สว. ที่ไม่ได้มาจากประชาชน

กล่าวโดยสรุป ในเดือนกรกฎาคม 2566 ผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ยังคงให้ความสนใจในประเด็นทางการเมืองมากถึง 8 จาก 10 ประเด็น โดยประเด็นที่ได้รับความสนใจส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการโหวตนายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคก้าวไกลทั้งสองครั้ง, ประเด็นพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลหลังจากพรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งได้สำเร็จ โดยอีก 2 ประเด็นที่เหลือเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสื่อ สิ่งบันเทิง อย่างละครมาตาลดา และประเด็นเกี่ยวกับสัตว์ คือพลายศักดิ์สุรินทร์เดินทางกลับเมืองไทย

นักสืบสายรุ้ง ซีซั่น 2 Finding Joy

“จ้อย” เด็กชายตัวเล็ก ๆ แต่สวมชุดนักเรียนตัวโคร่ง เพราะพ่อที่ขับแท็กซี่ต้องตกงานจากพิษโควิด 19 แม่พึ่งได้งานเป็นแม่บ้านในคอนโด จึงไม่มีเงินซื้อชุดนักเรียนให้จ้อยได้ทุกเทอม และเกือบจะไม่ได้เรียนต่อจนจบ ป.6 เพราะจ้อยต้องทำงานช่วยแม่ไปด้วยเรียนไปด้วย แถมยังถูกเพื่อน ๆ ร่วมชั้น ป.6 โรงเรียนกรุงเทพพาลัย คอยล้อเลียน และแกล้งจ้อยบ่อย ๆ แต่จ้อยก็ไม่โกรธ ยิ้มรับ โดยจ้อยเป็นตัวละครหนึ่ง ในละครนักสืบสายรุ้ง ซีซั่น 2 ที่ อโนมา สอนบาลี ผู้เขียนบทละครเรื่องนี้ วางตัวไว้ให้เป็นตัวแทนของเด็กกลุ่มเปราะบางในสังคมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 และการถูกบูลลี่ในโรงเรียน
.
“น้องจ้อยจะเป็นตัวแทนเด็กกลุ่มเปราะบางที่สุดในชุมชน ทั้งหลุดจากระบบการศึกษา และถูกบูลลี่จากเพื่อนในโรงเรียนด้วย เพราะพวกเด็กบ้าน ๆ เด็กหลังห้อง ก็จะต้องถูกบูลลี่อยู่แล้ว และน้องจ้อยก็โดนเต็ม ๆ แต่ทีนี้จุดดีของจ้อย คือเป็นคนเจียมตัว เป็นเด็กดี มีน้ำใจกับทุกคน”

ในละครเรื่องนี้ เธอยังวางให้จ้อยเป็นจุดไคลแมกซ์ของเรื่องในซีซั่น 2 เมื่อจู่ ๆ จ้อยหายตัวไป หลังถูกแก๊งค้ามนุษย์จับตัวไป ทำให้แก๊งนักสืบสายรุ้ง ทั้ง กล้า บอส ขิง อัสมา และนัตตี้ รวมทั้งเพื่อน ๆ ในโรงเรียนกรุงเทพพาลัย ต้องช่วยกันออกตามหาจ้อย โดยทำเพจ “ตามหาจ้อย” ทำคลิปวิดีโอข้อมูลเกี่ยวกับจ้อย ออกเผยแพร่ ซึ่งในละครเราจะค่อย ๆ เห็นความงดงามของมิตรภาพในใจของเด็ก ๆ ที่ก่อตัวขึ้น ในคลิปที่พูดถึงความรู้สึกที่มีต่อจ้อย เพื่อนตัวเล็ก ยากจน แต่สุดท้ายก็เป็นเพื่อนของพวกเขา
.
“พอเกิดเหตุการณ์จ้อยหายตัวไป มันกลายเป็นจุดที่ทุกคนหันหน้ามาคุยกัน ทั้งคนในชุมชน และแก๊งนักสืบสายรุ้งที่เกือบจะแก๊งแตก ก็หันกลับมาพูดคุยกัน เพราะอยากจะช่วยจ้อย มันเลยเกิดแพลตฟอร์มในโซเชียลมีเดีย ที่ชื่อว่า Finding Joy ทุกคนช่วยกันทำคลิปสั้น TikTok ไปสัมภาษณ์คนในชุมชน ไปคุยกับเพื่อน กระทั่งในที่สุดจ้อยก็ถูกช่วยกลับมาที่ชุมชนได้”

Finding Joy ในละครเรื่องนี้ นอกจากตามหาจ้อยแล้ว ยังเหมือนตามหาความสุขของชุมชนที่ขัดแย้งกับคอนโดมีเนียมที่สร้างใหม่ กลายเป็นส่วนผสมของการแบ่งปันและความสุข ที่ทุกคนอยู่ร่วมกันได้
.
โดยละครนักสืบสายรุ้ง ซีซั่น 2 ทั้งหมด 10 ตอน รวม 5 EP ผลิตโดยบริษัท แฟลทไฟว์ อินเตอร์ มีเดียจำกัด ผู้ได้รับทุนจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ประเภทเชิงยุทธศาสตร์ ประจำปี 2565 ผลงานการกำกับของ อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร ผู้กำกับมากฝีมือ และนักแสดงมืออาชีพคับคั่ง ทั้ง ขวัญฤดี กลมกล่อม, นรินทร ณ บางช้าง, พศิน เรืองวุฒิ, และ ดี๋ ดอกสะเดา ที่มาพร้อมกับความน่ารักของนักแสดงเด็กแก๊งนักสืบสายรุ้ง ทั้ง 5 คน ออกอากาศทางไทยพีบีเอสจนจบแล้ว แต่ยังสามารถชมย้อนหลังทางออนไลน์ ในช่องยูทูบ Thai PBS Kids และเพจนักสืบสายรุ้ง ได้ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับดีมาก โดยเฉพาะแฟนละครรุ่นเด็กที่เป็นเป้าหมายหลักของละครเรื่องนี้ ซึ่ง อโนมา ในฐานะคนเขียนบทและร่วมผลิตละครเรื่องนี้ บอกว่าพอใจในการได้ถ่ายทอดเนื้อหา ตีแผ่ปัญหาของคนที่ถูกลืม ซึ่งต้องขอบคุณกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ที่ให้โอกาสได้ผลิตละครดีและปลอดภัย

“สิ่งที่เห็น คือ คอมเม้นต์ต่าง ๆ ที่ผู้ชมส่งเข้ามา มีเด็กที่อินบ็อกซ์เข้ามาในเพจ เราดีใจมากที่เด็กดูละครเรา เหมือนเขาอินกับละคร มีเด็กคนหนึ่งส่งข้อความมาถามว่า จะมีการแคสติ้งนักแสดงอีกเมื่อไหร่ ผมอยากเข้าแก๊งนักสืบสายรุ้งด้วย”
.
ละครเรื่องนี้ยังไม่จบ เพราะยังนำไปใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนให้กับเด็ก ๆ ในโรงเรียนอีก 7 แห่งตามภูมิภาคทั่วประเทศด้วย หวังสร้างแรงบันดาลใจให้เด็ก ๆ เพิ่มสมาชิกนักสืบสายรุ้ง เพื่อสืบเสาะความสุขในชุมชนทั่วประเทศให้มากขึ้น
.
#กองทุนสื่อ #นักสืบสายรุ้งซีซั่น2
#เล่าสื่อกันฟัง #RainbowKidsSeries2
#บทความเล่าสื่อกันฟัง #ผลงานผู้รับทุนกองทุนสื่อ
#สื่อสร้างสรรค์เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม
#กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

ลิขสิทธิ์ ความสร้างสรรค์ และความเป็นธรรมของคนทำเพลง

25 ธันวาคมของทุกปีเป็นช่วงเวลาของการเฉลิมฉลองเทศกาล “คริสต์มาส” และที่มักมาพร้อมกับเทศกาลนี้คือบทเพลงในตำนาน “All I Want For Christmas Is You” ของ Mariah Carey ที่สามารถขึ้นชาร์ตเพลงอันดับ 1 ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสแทบทุกปี จนหลายคนเรียกเพลงนี้ว่าเป็นเพลงบำนาญตลอดกาลของ Mariah Carey ข้อมูลจาก Celebrity Net Worth (CNW) เว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลสินทรัพย์และกิจกรรมทางการเงินของเหล่าคนดัง เปิดเผยว่าในเดือนธันวาคมของทุก ๆ ปี Mariah Carey ทำเงินจากลิขสิทธิ์เพลง All I Want For Christmas Is You ราว 600,000-1,000,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 20-40 ล้านบาท (Kingploy Nathomtong, 2022)

ในบ้านเรา เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา “เต็งหนึ่ง คณิศ” หนึ่งในสมาชิกบอยแบรนด์วง B.O.Y. ได้ออกมาโพสต์ข้อความทวิตเตอร์ บอกว่าตนได้รับส่วนแบ่งลิขสิทธิ์เพลงจากค่ายเพลง GMM GRAMMY ซึ่งหลังจากแบ่งกับสมาชิกในวงทั้ง 4 คนแล้ว ได้ค่าลิขสิทธิ์เพลงจำนวน 74 บาท !!

จากกรณีส่วนแบ่งลิขสิทธิ์เพลงของนักร้องในประเทศไทยข้างต้น เห็นได้ว่าสัดส่วนค่าตอบแทนที่แตกต่างกันมากกับนักร้องในระดับสากลที่มีตลาดผู้ฟังมากกว่า แต่ที่สำคัญคือ อาจมีการจัดการด้านค่าตอบแทนของผลงานหรือมูลค่าลิขสิทธิ์ที่แตกต่างกัน

ความหมายของ “ลิขสิทธิ์เพลง” หมายถึงผลงานที่เกิดจากการใช้สติปัญญา ความรู้ ความสามารถ และความวิริยะอุตสาหะในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นหนึ่งขึ้นมา โดยที่ไม่ได้ลอกเลียนงานสร้างสรรค์ของผู้อื่น จึงถือว่าเป็นทรัพย์สินทางปัญญาอีกประเภทหนึ่ง ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 โดยลิขสิทธิ์จะให้สิทธิ์แก่เจ้าของแต่เพียงผู้เดียว โดยมีสิทธิแต่ผู้เดียวที่จะกระทำการใด ๆ ที่เกี่ยวกับงานเพลงที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นมา ดังนี้ (ZORT, 2022)

  1. ทำเพลงซ้ำหรือดัดแปลง
  2. อนุญาตให้ผู้อื่นใช้สิทธิเพลงได้
  3. ให้ประโยชน์อันเกิดจากลิขสิทธิ์ผู้อื่น
  4. นำมาสตรีมหรือเผยแพร่เพลงต่อสาธารณะ
  5. ให้เช่าต้นฉบับหรือสำเนางานเพลงให้บุคคลอื่น

“ลิขสิทธิ์เพลง” เป็นข้อถกเถียงในเรื่องของการจัดสรร แบ่งปัน และความเป็นธรรม บทความเรื่อง หนุนเดินหน้าร่าง พ.ร.บ. แก้ปัญหา “ลิขสิทธิ์เพลง” จัดสรร-แบ่งปัน-เป็นธรรม โดย ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 ได้กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า “เมื่อศิลปินนักร้องนักดนตรีที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากผลงานเพลงในอดีต เมื่อย้ายสังกัดหรือเป็นศิลปินอิสระ จะไม่สามารถนำเพลงที่เคยโด่งดังในอดีตกลับมาร้องได้อีก เพราะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของเจ้าของค่ายเพลงหรือนักแต่งเพลงนั้น ๆ”

ตัวอย่างเช่น ตั๊กแตน ชลดา และใบเตย อาร์สยาม ที่ไม่สามารถนำเพลงของตนเองมาร้องได้ โดย “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ได้ซื้อลิขสิทธิ์เพลงมาให้ตั๊กแตน ชลดา ซึ่งเป็นการเช่าซื้อ 1 ปี  ในขณะที่ใบเตย อาร์สยาม ตัดสินใจซื้อลิขสิทธิ์ทุกเพลงจาก “อาร์สยาม” มาเป็นเจ้าของเพียงผู้เดียว (ผู้จัดการออนไลน์, 2565)   ซึ่งต่างจากกรณีของปาน ธนพร ที่เคยขอลิขสิทธิ์เพลงที่ตัวเองเคยร้องเพื่อมาใช้ในคอนเสิร์ต แต่ทางอดีตต้นสังกัดของปานไม่อนุญาต จึงไม่สามารถนำมาร้องได้ (ผู้จัดการออนไลน์, 2560)

โดยทั่วไปแล้ว การละเมิดลิขสิทธิ์ มี 2 ลักษณะคือ

  1. การละเมิดลิขสิทธิ์โดยตรง ได้แก่ การทำซ้ำโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของลิขสิทธิ์ รวมถึงการห้ามมิให้ดัดแปลง หรือเผยแพร่สิ่งบันทึกเสียง ต่อสาธารณชนโดยไม่ได้รับอนุญาต
  2. การละเมิดสิทธิ์โดยอ้อม คือ การกระทำทางการค้าหรือการกระทำการที่มีส่วนสนับสนุนให้เกิดการละเมิดลิขสิทธิ์

ศิลปินนักร้องบางคนมีหน้าที่ร้องอย่างเดียว ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ในการแต่งเนื้อร้องหรือทำนองเลย เป็นแค่คนที่เจ้าของค่ายจ้างให้มาร้องเพลงเท่านั้น ดังนั้น ลิขสิทธิ์เพลงจึงเป็นของเจ้าของค่ายเพลง ส่วนถ้าศิลปินนักร้องอยากร้องเพลงตัวเอง ก็ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เสียก่อน ไม่เช่นนั้นอาจจะมีความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์เพลงได้ (บทความเรื่อง “ไขข้อข้องใจทุกข้อสงสัย ลิขสิทธิ์เพลง เรื่องใกล้ตัวทุกคนควรรู้ !!” จากเว็ปไซต์ ZORT, 4 สิงหาคม 2565)

การแบ่งสรรปันส่วนรายได้จากลิขสิทธิ์เพลงในประเทศไทยนั้นยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาความเป็นไปได้ และการหารือเรื่องความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดย พรบ. ฉบับใหม่ที่ทำการร่าง ควรจะจัดตั้งองค์กรอิสระขึ้นมา 1 หรือ 2 องค์กรเพื่อดูแลลิขสิทธิ์เหล่านี้โดยเฉพาะ ไม่ใช่มีองค์กรหลายสิบองค์กรที่วิ่งแสวงหาประโยชน์ด้านลิขสิทธิ์อย่างในปัจจุบัน และองค์กรที่จัดตั้งขึ้นต้องเป็นองค์กรอิสระที่จัดสรรปันส่วนในเรื่องของผลประโยชน์ให้กับทั้งค่ายเพลง นักแต่งเพลง ศิลปิน (ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล, 2565)

ก่อนหน้านี้ในปี 2558 ในบทความเรื่อง “ลิขสิทธิ์เพลง” พื้นที่สีเทาของการคอร์รัปชัน? ได้กล่าวถึงค่าย Black Sheep ที่ตอนนั้นอยู่ในเครือของ Sony Music

““5+5” คือโมเดลที่ค่ายนี้ใช้ตกลงผลประโยชน์กัน ซึ่งหมายความว่าต้องแบ่งออกเป็น “5 ปีแรก” กับ “5 ปีหลัง” โดยในช่วง 5 ปีแรก ทางค่ายเพลงนั้น ๆ มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการจัดการมาสเตอร์เพลง ส่วนช่วง 5 ปีหลัง เรียกว่าศิลปินและค่ายเพลงถือร่วมกัน โดยรวมแล้ว ลิขสิทธิ์เพลงจะถืออยู่กับค่ายประมาณ 10 ปี หลังจากนั้นลิขสิทธิ์ทุกอย่างจะคืนกลับมายังศิลปิน ยกเว้นตัวมาสเตอร์ของเพลงที่ยังเป็นของค่ายไปตลอด” (ผู้จัดการออนไลน์, 2558)

แม้ปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์เพลงยังไม่มีข้อสรุปที่แน่นอน และเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ในฐานะผู้ฟัง หรือผู้เสพสื่อเพลงเอง ก็ต้องเข้าใจประเด็นการนำเพลงมาใช้เช่นเดียวกัน และต้องไม่ลืมเรื่องของลิขสิทธิ์และการเคารพทรัพย์สินทางปัญญาของผู้ผลิต โดย มนต์ทิพา วิโรจน์พันธุ์ เจ้าของบทความเรื่อง ศิลปินควรปกป้องสิทธิ์งานดนตรีของตัวเองอย่างไร? ระบุไว้ว่า “การกระทำที่ไม่ได้รับการยินยอมหรือขออนุญาตจากเจ้าตัว หรือต้นสังกัดที่มีข้อตกลงกับตัวศิลปินอยู่ จริง ๆ แล้วก็เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของพวกเขาเอง”

ปัจจุบันระบบของสื่อออนไลน์หลายแหล่งเข้ามามีบทบาทสำคัญในการควบคุมหรือรักษาสิทธิ์ให้กับเจ้าของลิขสิทธิ์เพลง “ในช่วงล็อกดาวน์ COVID-19 ที่ผ่านมา เราอาจจะเคยเห็นดีเจมา Live stream เปิดเพลงให้เราฟังกันสด ๆ แต่พอฟังไปได้สักพักก็ถูกตัดจบไปแบบดื้อ ๆ นี่คือส่วนหนึ่งในกระบวนการที่ช่วยรักษาสิทธิ์ให้กับเจ้าของเพลงที่อาจถูกนำไปเผยแพร่ หรือสร้าง Engagement ทำกำไรได้ในอนาคต เพราะช่วงนี้ Facebook มีนโยบาย Monetize เช่นเดียวกับสตรีมมิงอย่าง YouTube หรือ Twitch ที่เปลี่ยนยอดวิวมาเป็นเงินได้ ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นระบบที่แจ้งให้ทราบว่า คุณกำลังใช้ลิขสิทธิ์เพลงของคนอื่นอยู่ในการเปิดเพลง โดยปกติถ้ามีปัญหานี้เกิดขึ้น เจ้าของลิขสิทธิ์เองสามารถแจ้ง Distributor ให้เอาออกให้ได้” (มนต์ทิพา วิโรจน์พันธุ์, 2563)

ในยุคนี้การสนับสนุนศิลปินนักร้องที่ชื่นชอบนั้น ผู้ฟังทุกคนต้องมีความเข้าใจในเรื่องของลิขสิทธิ์เพลง และต้องเคารพผู้สร้างสรรค์ การสนับสนุนจึงรวมไปถึงการไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ โดยการอ้างเหตุผลรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ในการลอกเลียน เผยแพร่ หรือดัดแปลงเพลงด้วยวิธีการใด ๆ ก็ตามที่ขาดความยินยอมจากเจ้าของลิขสิทธิ์

นอกจากการไม่ละเมิดลิขสิทธิ์แล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยผลักดันวงการเพลงไทยคือ การพัฒนาระบบให้ผลตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อแก่ผู้สร้างสรรค์งานเพลง  รวมไปถึงนักร้องซึ่งอาจไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการแต่งเพลง แต่มีบทบาททำให้เพลงดังกล่าวได้รับความนิยมหรือเป็นที่รู้จัก ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการต่อยอดการสร้างสรรค์ และพัฒนาวงการเพลงของไทยให้ทัดเทียมกับวงการเพลงนานาชาติ

ปัจจุบันต้องยอมรับว่าศักยภาพงานสร้างสรรค์ด้านเพลงและดนตรีของศิลปินไทยไม่ได้น้อยไปกว่าต่างชาติ หากแต่วงการเพลงของไทยยังขาดแรงสนับสนุนที่ดี ที่จะผลักดันผลงานเพลงให้ประสบความสำเร็จทั้งด้านความคิดสร้างสรรค์ ความนิยม ลิขสิทธิ์ และรายได้ โดยเฉพาะการขยายคนฟังในต่างประเทศ ซึ่งก็มีนักร้องของไทยที่ทำได้แล้ว เช่น SPRITE และ GUYGEEGEE ที่มีผลงานขึ้นชาร์ตบิลบอร์ด (BillBoard Chart) ชาร์ตจัดอันดับเพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก หรือกรณีของลิซ่านักร้องชาวไทยที่ประสบความสำเร็จในฐานะสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปของเกาหลีที่โด่งดังระดับโลก ความสำเร็จดังกล่าว ต้องสนับสนุนโดยหลายองค์ประกอบ ทั้งหน่วยงานภาครัฐในบทบาท เช่น ด้านข้อกฎหมาย ด้านการกำหนดยุทธศาสตร์ขยายตลาดผลงานเพลงของไทย โดยร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ เช่น ธุรกิจเพลง เจ้าของแพลตฟอร์มระบบสตรีมมิ่ง สถาบันการศึกษาด้านเพลงและดนตรี ฯลฯ รวมถึงผู้บริโภค ที่นอกจากชื่นชอบ ชื่นชมแล้ว ยังต้องเข้าใจในสิทธิ ในผลประโยชน์จากผลงาน ทั้งต้องเคารพลิขสิทธิ์ทางความคิดสร้างสรรค์ซึ่งไทยก็มีนักร้องที่มีความสามารถไม่ต่างจากนานาประเทศ

 

อ้างอิง

– Kingploy Nathomtong. 2022. All I Want For Christmas Is You เพลงบำนาญตลอดกาลของ Mariah Carey ทำเงินเฉียด 40 ล้านทุกปี. สืบค้นเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565 ที่ https://workpointtoday.com/how-much-does-mariah-carey-earn-from-all-i-want-for-christmas/.

– ZORT. 2022. ไขข้อข้องใจทุกข้อสงสัย ลิขสิทธิ์เพลง เรื่องใกล้ตัวทุกคนควรรู้ !!. สืบค้นเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565 ที่ https://zortout.com/blog/music-copyright.

– ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล. 2565. หนุนเดินหน้าร่าง พ.ร.บ. แก้ปัญหา “ลิขสิทธิ์เพลง” จัดสรร-แบ่งปัน-เป็นธรรม. สืบค้นเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565 ที่ https://www.thansettakij.com/news/general-news/548721

– ผู้จัดการออนไลน์. 2565. ร้องไม่ถึง 7 คำ ก็อาจ “ละเมิดลิขสิทธิ์” ได้! ดรามาร้อน “เพลงตั๊กแตน” แค่เช่าซื้อ ไม่ได้ขายขาด. สืบค้นเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 ที่ https://mgronline.com/entertainment/detail/9650000073435

– ผู้จัดการออนไลน์. 2560. ไม่ใช่ไม่ขอ แต่ขอแล้วไม่ให้!! “เจ๊ฉอด” เปิดใจทำไม “ปาน” ถึงไม่ร้องเพลงของตัวเอง. สืบค้นเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 ที่ https://mgronline.com/entertainment/detail/9600000051243

– ผู้จัดการออนไลน์. 2558. “ลิขสิทธิ์เพลง” พื้นที่สีเทาของการคอร์รัปชัน?. สืบค้นเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 ที่ https://mgronline.com/live/detail/9580000070627

– มนต์ทิพา วิโรจน์พันธุ์. 2563. ศิลปินควรปกป้องสิทธิ์งานดนตรีของตัวเองอย่างไร?. สืบค้นเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565 ที่ https://www.creativethailand.org/new/article/howto/32610/th#musicMP3

Cartoon “DIFFERENT TOGETHER” 12 Episodes (England)

การ์ตูน “แตกต่างเดียวกัน” จำนวน 12 ตอน (ภาษาไทย)