เลือกหน้า

ท่ามกลางความงดงามของผืนป่าที่เขียวขจี บนผาหัวนาค ในอุทยานแห่งชาติภูแลนคา ที่ชัยภูมิ ภาพขณะที่พ่อและแม่กำลังเพลิดเพลินดื่มด่ำกับความสวยงามของธรรมชาติในบรรยากาศหลังฝนตก แต่น้องต้นกล้า ลูกชายกลับปลีกตัว ไปนั่งเล่นเกมในโทรศัพท์มือถืออยู่เพียงลำพัง บนลานมอหินขาว จุดชมวิวหน้าเสาหิน 5 ต้น จดจ่ออยู่กับเกมในหน้าจอมือถือ จนแบตหมด และจู่ๆฟ้ากลับเปลี่ยนสีอย่างฉับพลัน เมฆหมอกเคลื่อนตัวออกห่างดวงอาทิตย์ ต้นกล้าได้ทะลุมิติไปพบกับเพื่อนรุ่นพี่กลุ่มหนึ่ง ที่แต่งตัวคล้ายเด็กโบราณ ชวนไปหัดเล่นตีคลีไฟ การละเล่นตามประเพณีไทย คล้ายๆกับกีฬาฮอกกี้ในปัจจุบัน ซึ่งชาวบ้านใช้เชื่อมความสัมพันธ์และสืบทอดกันมาตั้งแต่ยุคอดีต
.
กลายเป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์สั้น คบเด็กสร้างบ้าน ตอน การละเล่น “ตีคลีไฟ” จังหวัดชัยภูมิ
ที่ดึงผู้ชมให้เข้าไปสัมผัสกับการละเล่นไทยโบราณได้อย่างแนบเนียน ตามความตั้งใจของ อมรวัฒน์ พุทธเลิศศักดิ์ หัวหน้าโครงการและควบคุมการผลิตสารคดีชุดนี้ ซึ่งเคยควบคุมการสร้างภาพยนตร์ชื่อดัง อย่าง“สบายดี หลวงพะบาง” มาแล้ว โดยสารคดีชุดคบเด็กสร้างบ้าน สร้างจากแรงบันดาลใจของ อมรวัฒน์ ที่อยากเห็นเด็ก ๆ ในยุคนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ติดเกมติดโซเชียลอยู่กับโทรศัพท์มือถือเกือบตลอดเวลา ได้ออกไปเล่นกับเพื่อนข้างบ้าน ได้ออกกำลังกาย รู้จักเข้าสังคมและมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนตัวจริง ๆ เหมือนกับเด็กในยุคก่อน

“เห็นได้ชัดจากคนใกล้ตัว หลานผมเป็นเด็กติดเกมที่ห่างจากมือถือไม่ได้เลย อาจเป็นเพราะพ่อแม่ไม่ค่อยมีเวลาดูแล พอปล่อยให้เล่นแต่มือถือ เสพสื่อแบบผู้ใหญ่ เขาก็มีความเป็นเด็กน้อยลง เติบโตแบบผิดวิธี จริตจะก้านโตเกินวัย ไม่น่ารัก แทนที่จะได้เล่นกับเด็กในวัยเดียวกัน โตไปด้วยกัน เหมือนสมัยก่อน”
.
และในช่วงที่คิดโปรเจกต์นี้ อมรวัฒน์ก็อยู่ระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ท่าแร่ ยูไนเต็ด ที่จังหวัดสกลนคร พอดี มีโอกาสได้เห็นวิถีชีวิตของชาวอีสาน ที่เขารู้จักกันเกือบทั้งอำเภอ มีการรวมตัวกัน มีพิธีกรรมและวัฒนธรรมประเพณีที่เข้มแข็ง เด็ก ๆ ในพื้นที่ยังเล่นปีนต้นไม้ เล่นกระโดด มีการละเล่นแบบพื้นบ้าน ต่างจากเด็กในเมืองใหญ่ที่แทบไม่รู้จักกัน เขาจึงยกตัวอย่างการละเล่นโบราณในพื้นที่ภาคอีสานมาสร้างเป็นภาพยนตร์สั้น เสนอไอเดียต่อกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กระทั่งได้รับทุนประเภทเปิดรับทั่วไป ประจำปี 2565
.
“ที่อยากนำเสนอการละเล่นแบบสมัยก่อน เพราะอยากให้เกิดการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของสมัยก่อนไว้ด้วย จริง ๆ แล้วมันเป็นเสน่ห์ แล้วก็มีประโยชน์ ทั้งการส่งเสริมให้ออกกำลังกายและฝึกการเข้าสังคม โดยพล็อตเรื่องในภาพยนตร์จะสร้างให้เด็กยุคปัจจุบันไปเจอกับเพื่อนข้างบ้าน ซึ่งเป็นเด็กโบราณที่ย้อนมาจากอดีต มาสอนให้เขาเล่นการละเล่นแบบโบราณ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กยุคใหม่อยากออกไปเล่นกับเพื่อนข้างบ้านมากขึ้น”

เด็กตัวละครเอกในภาพยนตร์สั้นคบเด็กข้างบ้าน ทั้ง 6 ตอน ล้วนเป็นตัวแทนเด็กติดเกม ซึ่งจะได้ไปเจอกับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ก่อนที่จะวาร์ปข้ามมิติเข้าไปในยุคอดีต ได้ไปสัมผัสและได้เล่นกับเด็กโบราณจริง ๆ ผ่านการละเล่นโบราณในพื้นที่ภาคอีสานทั้ง 6 ชนิด “ตีคลีไฟ” ที่จังหวัดชัยภูมิ “อีเตย” จังหวัดเลย “ผีโผน” จังหวัดนครพนม “มะเญงญาง” จังหวัดมุกดาหาร “สะบ้า” จังหวัดยโสธร และ “จ้ำหมู่หมี่” จังหวัดหนองคาย ออกอากาศตอนแรกไปเมื่อวันเด็ก
14 มกราคม ที่ผ่านมา ทางช่องทีวีรัฐสภา และแอปพลิเคชัน TPTV แม้ว่าจะจบไปแล้ว แต่ก็ยังมีการนำมารีรันให้ชมทุกวันเสาร์ เวลา 08.20 น. ยาวไปจนถึงสิ้นปีนี้ และยังสามารถชมย้อนหลังได้ที่ยูทูบ Thai Media Fund
.
มาร่วมย้อนวันวานชมการละเล่นในยุคโบราณไปด้วยกันกับ“ภาพยนตร์สั้นคบเด็กข้างบ้าน” ภาพยนตร์เรื่องแรก ๆ ของเมืองไทย ที่ใช้เด็กและชาวบ้านในพื้นที่จริง ที่ไม่ใช่นักแสดงมืออาชีพ มาร่วมแสดงในหนังได้อย่างสมจริงไม่แพ้มืออาชีพ บนความท้าทายของผู้สร้าง ที่ต้องอยากพิสูจน์ให้เห็นว่าเด็กอีสานของไทยก็เก่งและทำได้เหมือนกัน ที่สำคัญอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนให้ลูกหลานที่บ้าน หันมาสนใจการละเล่นแบบไทย ๆ ในสมัยพ่อแม่ และค่อย ๆ ถอยห่างจากเกมในมือถือได้มากขึ้น
.
#กองทุนสื่อ #คบเด็กข้างบ้าน
#เล่าสื่อกันฟัง #บทความเล่าสื่อกันฟัง
#ผลงานผู้รับทุนกองทุนสื่อ
#สื่อสร้างสรรค์เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม
#กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
.
ติดตาม “กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์” ได้ที่
Website : www.thaimediafund.or.th
Facebook : กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
Youtube : www.youtube.com/c/ThaiMediaFund
Line Official : @thaimediafund