เลือกหน้า

(3 กรกฎาคม 2567) ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ชี้แจงกรณีตาม
ที่มีข่าวผู้รับทุนยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. ขอให้ตรวจสอบกรณีมีผู้แอบอ้างเรียกรับผลประโยชน์ โดยชี้แจงว่าบุคคลในหนังสือร้องเรียน เป็นบุคคลภายนอก ไม่มีความเกี่ยวข้องกับกองทุนพัฒนาสื่อฯ สำหรับประเด็นที่ทำให้กองทุนพัฒนาสื่อฯ ได้รับความเสียหาย กำลังให้ส่วนกฎหมายรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินคดีสูงสุด

ผู้จัดการกองทุนสื่อยืนยันว่ากองทุนพัฒนาสื่อฯ มีกระบวนการพิจารณากลั่นกรองโครงการที่โปร่งใส รอบคอบ รัดกุม ถูกต้องตามหลักธรรมาภิบาล มีคณะทำงานกลั่นกรองที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก มีอนุกรรมการกลั่นกรองที่บอร์ดแต่งตั้ง กระทั่งขั้นตอนสุดท้ายที่อนุกรรมการบริหารเป็นผู้พิจารณา และรายงานให้บอร์ดรับทราบ
ซึ่งทุกขั้นตอนในกระบวนการพิจารณาทุน สามารถตรวจสอบเอกสารทุกอย่างได้ ซึ่งเป็นการยากมากที่จะมีคนใดคนหนึ่งเข้าไปชี้นำหรือแทรกแซงการพิจารณา

“ที่ผ่านมากองทุนพัฒนาสื่อฯ ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนไปยังประชาชนและผู้ขอรับทุนมาโดยตลอด ให้ระวังมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อกองทุนพัฒนาสื่อฯ ไปหาผลประโยชน์จากการรับทุน พร้อมเปิดช่องทางให้มีการร้องเรียนหลายช่องทาง และเมื่อเกิดเหตุการณ์แอบอ้างขึ้น กองทุนพัฒนาสื่อฯ ไม่นิ่งนอนใจ เพราะเรื่องนี้ส่งผลกระทบกับความเชื่อมั่นของสังคม โดยจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เป็นองค์กรตรวจสอบภายนอก เปิดเผยข้อมูลทุกอย่างที่
จะทำให้ความจริงปรากฏ รวมถึงการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงของสำนักงานเอง “ ดร.ธนกร กล่าว
และชี้แจงเพิ่มเติมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่กองทุนพัฒนาสื่อฯ ยอมรับไม่ได้ เกิดความเสียหาย ส่งผลให้กองทุนพัฒนาสื่อฯ เสื่อมเสียชื่อเสียง และขาดความน่าเชื่อถือ กองทุนพัฒนาสื่อฯ จำเป็นต้องใช้สิทธิ์ในการดำเนินคดีอย่างสูงสุดเพื่อให้ความจริงปรากฏ และอยากย้ำเตือนทุกท่านว่า อย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้างว่าจะช่วยให้ได้ทุน

สำหรับความคืบหน้าการพิจารณาทุนประจำปี 2567 ตอนนี้ประธานกรรมการได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอนุกรรมการกลั่นกรอง ออกมาแล้ว โดยจะจัดประชุมขึ้นวันที่ 10 กรกฎาคมนี้ และกำหนดปฏิทินในการดำเนินการกลั่นกรองโดยใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน คาดว่าจะประกาศผลได้ในเดือนสิงหาคม 2567 และสมัยที่ 2 ในตำแหน่งผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อฯ จะปรับรูปแบบการให้ทุนที่ยืดหยุ่นและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย สอดคล้องตามเจตนารมย์ของกองทุนโดยแท้จริง สร้างรายได้จากการขายคอนเทนต์ นำผลงานไปเผยแพร่ทั้งในไทยและต่างประเทศ ทำให้เกิดรายได้ โดยการร่วมเจรจากับแพลตฟอร์มอย่างทั่วถึง และเชื่อมต่อกับนโยบายของรัฐบาล ให้ผลงานของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ (soft power) ได้