เลือกหน้า

การจัดสรรทุน มีการกระจายตัวไปตามกลุ่มต่าง ๆ ส่วนภาพยนตร์พระร่วง พระราชาผู้ทรงธรรมอยู่ระหว่างการแก้ไขรอบสุดท้าย ปลายปี 2566 นี้ ได้รับชมแน่นอน

(28 ส.ค. 66) ที่ประชุมวุฒิสภาได้มีการพิจารณารายงานประจำปี 2565 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พ.ศ. 2558

ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ได้ชี้แจงว่า การดำเนินงานของกองทุนย่างก้าวสู่ปีที่ 9

ซึ่งการดำเนินงานในปี 66 เป็นปีที่กองทุนได้ดำเนินงานใช้ยุทธศาสตร์กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ระยะที่ 2 โดยได้เพิ่มสาระหลักด้านการพัฒนาองค์กรไปสู่องค์กรที่มีสมรรถนะสูง เพื่อให้หน่วยงานสามารถรับมือกับสภาพการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

จากเดิมที่กองทุนมียุทธศาสตร์ 4 ด้านก็จะเพิ่มเป็น 5 ด้าน ประกอบด้วยการสร้างเสริมและสร้างคน , การสร้างภูมิคุ้มกัน , การสร้างองค์ความรู้ , การสร้างการมีส่วนร่วมและเครือข่าย และ สร้างองค์กรให้มีความพร้อมและเข้มแข็ง

ในปี 2565 มีงบประมาณจัดสรรทุนจำนวน 300 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ ทุนเปิดรับทั่วไป ซึ่งมุ่งเปิดโอกาสให้ ผู้ที่ต้องการทำสื่อหน้าใหม่แต่ไม่มีแหล่งทุน ทุนเชิงยุทธศาสตร์ ที่มีการกำหนดประเด็นในปีนั้นๆที่กองทุนต้องการให้เกิดขึ้น และทุนประเภทความร่วมมือ เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง ซึ่งกองทุนทำหน้าที่เป็นภาคีในการสนับสนุนให้หน่วยงานต่างๆสามารถพัฒนาหรือสร้างสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ได้

นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ สมาชิกวุฒิสภา , รองประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม
ศิลปะและวัฒนธรรม ได้อภิปรายรายงานฉบับดังกล่าวว่า ไม่ปรากฏผลการดำเนินงาน และความก้าวหน้าตามแผนยุทธศาสตร์กองทุนฯ ซึ่งหากมีการรายงานผลประจำปีตามตัวชี้วัดจะเป็นประโยชน์ต่อการทบทวนและความก้าวหน้าว่าบรรลุตัวชี้วัดใด อีกทั้งผลงานที่กองทุนสนับสนุน งบประมาณปี 2565 ไม่พบโครงการที่เป็นการ
เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ด้วยทุนวัฒนธรรม จึงเสนอแนะให้กองทุนฯ ทบทวน และพัฒนานิยามของสื่อปลอดภัย
และสร้างสรรค์ในมิติของสื่อศิลปะและวัฒนธรรมให้มีความชัดเจนเป็นรูปธรรมของการสนับสนุนในเชิงรุก

นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกวุฒิสภา ได้อภิปรายตั้งข้อสังเกตว่า โครงการที่ใช้เม็ดเงินงบประมาณจำนวนมาก ทั้งโขนภาพยนตร์ หนุมาน ไวท์ มังกี้ , พระร่วง พระราชา ผู้ทรงธรรม เท่าที่ทราบ เป็นเรื่องราวที่ดี เพราะประชาชนจะได้รับรู้ราก , มรดกวัฒนธรรมของไทย แต่จะทำอย่างไรให้คนจำนวนมากได้เข้าถึงภาพยนตร์นี้

“นอกจากจะให้เงินโครงการใหญ่แล้ว เม็ดเงินควรต้องกระจายให้ไปอยู่ในมือของคนเล็กคนน้อย เพื่อจะได้สร้างสื่อที่ดีมากลบสื่อที่ไม่ดีได้”

ทั้งนี้ สมาชิกวุฒิสภา ต่างได้เสนอแนะให้มีการจัดทำแพลตฟอร์มของกองทุน ฯ รวมถึงให้ขยายไปช่องอื่นๆเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงเพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้น

นอกจากนั้น สมาชิกวุฒิสภา หลายราย ก็ได้ให้กำลังใจผู้บริหาร ที่ได้จัดทำรายงานมาเข้าใจง่าย รวมถึงได้เสนอแนะ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการที่จะร่วมพัฒนาและสร้างสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น

ภายหลัง สมาชิกวุฒิสภาได้อภิปรายทั้งตั้งข้อสังเกต และเสนอแนะอย่างกว้างขวาง
ประธานวุฒิสภา ได้ให้โอกาสชี้แจง

โดย ดร.ธนกร ได้กล่าวขอบคุณสมาชิกวุฒิสภา พร้อมระบุว่า ผลงานที่สมาชิกวุฒิสภาเคยเสนอมา ขณะนี้หลายโครงการกำลังดำเนินซึ่งอาจจะเป็นผลงานเหลื่อมปี โดยรับปากทุกข้อสังเกต , ทุกข้อเสนอแนะ จะเสนอคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ให้รับทราบ

“ในส่วนของโขนภาพยนตร์ ไวท์ มังกี้ ที่สมาชิกมีความกังวลว่าคนต่างจังหวัดไม่มีสิทธิ์เข้าถึงนั้น ยืนยันว่าในอนาคต จะได้ชมผ่านหลายแพลตฟอร์ม ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการที่หารืออยู่ หลังจากผ่านการจัดฉายในโรงภาพยนตร์แล้ว ซึ่งทั้งกองทุนและผู้ผลิต ต่างมีลิขสิทธิ์ร่วมกันส่วนภาพยนตร์ พระร่วง พระราชาผู้ทรงธรรม แม้จะได้งบประมาณของปีนั้นมาจัดสร้าง แต่กระบวนกว่าจะสร้างเสร็จ ต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ซึ่งยืนยันว่า หลังจากส่งมอบและจัดฉายผ่านโรงภาพยนตร์แล้ว ก็จำเป็นต้องจัดหาแพลตฟอร์มอื่น เพื่อให้ประชาขนเข้าถึงอย่างมากที่สุดด้วย”

นอกจากนั้น ดร.ธนกร กล่าวว่า ห้วงที่ผ่านมา กองทุนฯ ได้ทำ MOU กับหลายหน่วยงานทั้ง อสมท. ,สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ,สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา

จึงเชื่อมั่นว่าหลังจากนี้ประชาชนจะมีช่องทางในการเข้าถึงสื่อของกองทุนที่หลากหลายมากขึ้น นอกจากแพลตฟอร์มของผู้รับทุน ที่ได้เสนอผ่านช่องทางที่หลากหลายแล้ว